
กองทุนสื่อ ร่วมลงนามผลิตรายการ “ทำอะไรก็ธรรม” ใช้พลังโซเชียลเผยแพร่ด้านพุทธธรรมเข้าถึงชุมชน
...................................
(25 มี.ค64) งานทำบุญ 10 ปี สวนโมกข์กรุงเทพ และพิธีลงนามความร่วมมือในการผลิตรายการ “ทำอะไรก็ธรรม” ระหว่าง กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ LINE ประเทศไทย และมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ)
ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย ประธานกรรมการจัดตั้งหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ กล่าวสุนทรกถา โดยขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน จนครบ 10 ปีในวันนี้ซึ่งเจตจำนง อยากให้นำคำสอนของพระพุทธเจ้า และท่านพุทธทาสมาใช้ในการดำเนินชีวิต
“เมื่อก่อนการสื่อสารเป็นรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ วันนี้ทั้งโลกเปลี่ยนไป มีสื่อที่เราเรียกว่าโซเชียลมีเดีย ซึ่งเข้าไปถึงทุกช่วงอายุคน ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้สูงวัย เป็นเรื่องที่ท้าทายที่จะใช้สื่อ นำเอาพุทธธรรมให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุดได้อย่างไร ผมเชื่อมั่นว่า 3 ภาคีจะทำได้ และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านอีกครั้ง ทำอย่างไรจะถ่ายทอดของขวัญชีวิตของรุ่นเราไปยังรุ่นต่อไปได้อีกเป้าหมายหนึ่งก็ต้องไปที่ชุมชน ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ชุมชนต้องการศาสนธรรมมาก คุณธรรม จริยธรรม ชุมชมถูกกดดันจากวัตถุนิยม รวมทั้งอบายมุขต่างๆ ทำให้สถาบันที่เข้มแข็งของไทยถูกวัตถุนิยมสมัยใหม่กระแทกให้เปราะบาง” ขณะที่ นพ.บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ กล่าวว่า สมัยท่านอาจารย์พุทธทาส เป็นพระรูปแรกที่ซื้อกล้องถ่ายรูป ที่ดีที่สุดเพื่อเก็บภาพมาประกอบธรรม ส่งสารและเผยแพร่ รวมถึงได้บันทึกเสียงออกอากาศทุกวันอาทิตย์ผ่านกรมประชาสัมพันธ์
“10 ปีที่แล้วเราเกิดหอจดหมายเหตุ จะทำอย่างไรที่จะให้คลิปดีๆ ได้ส่งสารไปหาผู้คนบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือ จากหลายภาคส่วนที่ช่วยเผยแพร่ผลงานธรรมะสู่สาธารณชน ก่อนจะต่อยอดเชิญกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มาร่วมมือในการผลิตรายการ ทำอะไรก็ธรรม”

ด้าน ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่ามีความสุขและตื้นตันใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุน ร่วมผลิตรายการในครั้งนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวทำให้คิดว่าพระพุทธเจ้า เป็นนักการสื่อสารชั้นยอดที่หลักสูตรนิเทศศาสตร์ และสื่อสารมวลชนไม่เคยสอน โดยทำให้เห็นจากการเทศนา ผ่านสาวกและสาวกก็นำคำสอนนั้นไปเผยแพร่ต่อ
“สื่อในภาวะปกติ กิเลสไม่มีก็ปั่นให้มี การเปิดรับสื่อมีความสำคัญ และในปัจจุบันงานวิจัยชี้ว่ามีการใช้สื่อในการระราน และ hate speech มากที่สุด โดยส่วนตัวมุ่งหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่คำสอนพระพุทธศาสนา ถึงที่สุดแล้วมีความรู้สึกว่าศาสตร์ในโลกนี้ที่อธิบายตัวเองได้ดีที่สุด ไม่ใช่ศาสตร์ทางโลกแต่เป็นพุทธธรรม โดยถือเป็นจุดตั้งต้นที่ดี ที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีส่วนในการสนับสนุนการผลิตรายการทำอะไรก็ธรรม และมี LINE ประเทศไทย เป็นช่องทางการเผยแพร่”

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา