
"...มีรายงานข่าวว่า ในช่วงที่ศาลฯ ได้พิพากษา ลงโทษจำคุก แต่นายไพบูลย์ฯผู้ต้องหา ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาแต่อย่างใด แล้วหลบหนีออกนอกพื้นที่ไป ก่อนที่ในช่วงเดือนพฤษจิกายน 2564 นายไพบูลย์ จะเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง และแจ้งให้ผู้อื่นทราบว่าตนเองได้รับโทษ จำคุกไปแล้ว จำนวน 2 ปี พร้อมกันนั้นได้ช่วยภรรยาในการเสียงเลือกตั้ง นายก อบต. เนื่องจากภรรยา ได้ลงสมัครเป็น นายก อบต.หนองเหล็ก แต่ไม่ชนะการเลือกตั้งแต่อย่างใดหลังจากนั้น นายไพบูลย์ ก็กลับมาอยู่บ้านตามปกติ ..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช. ก.), พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บังคับการปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.ปพ. หรือ คอมมานโด), พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ปฐมพงศ์ ทองจำรูญ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมตัว นายไพบูลย์ ปฐมภพ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลมหาสารคาม ที่ 222/2561 ลงวันที่ 22 พ.8. 2561 ข้อหา “ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ” กรณีเป็น นายก อบต. เรียกรับเงิน เพื่อต่อสัญญาจ้างให้กับพนักงานลูกจ้างของ อบต.
พฤติการณ์ เมื่อประมาณปี 2558 ในช่วงที่ นายไพบูลย์ ได้ดำรงตำแหน่งเป็น นายก อบต.หนองเหล็ก อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ได้มีการเรียกรับเงิน จากพนักงานลูกจ้างของ อบต.หนองเหล็ก ที่มีความประสงค์ที่จะต่อสัญญาจ้าง เป็นเงินคนละ 100,000 บาท หากใครไม่จ่ายก็จะไม่ต่อสัญญาให้ ส่วนคนที่จ่ายเงินก็จะได้รับการต่อสัญญาจ้างออกไปอีก 4 ปี เป็นเหตุให้พนักงานลูกจ้างหลายรายไม่พอใจ จึงพากันไปร้องเรียนและแจ้งความดำเนินคดี
ต่อมาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลว่าเป็นความผิด กรณีเรียกรับเงินจากพนักงานจ้างเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการต่อสัญญาจ้าง และศาลได้พิพากษา ลงโทษจำคุก แต่ นายไพบูลย์ฯผู้ต้องหา ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาแต่อย่างใด แล้วหลบหนีออกนอกพื้นที่ไป
ตร.คอมมานโด บุกจับอดีตนายก อบต.หนองเหล็ก หนีโทษคุกคดีทุจริต กลับมาช่วยเมียเลือกตั้ง
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับมอบภาพชุดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมตัว นายไพบูลย์ ปฐมภพ ในวันและเวลาดังกล่าว




ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา สืบค้นฐานข้อมูลคดีของสำนักงาน ป.ป.ช. พบข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้
หนึ่ง.
คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 ชี้มูลว่า นายไพบูลย์ ปฐมภพ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบต. หนองเหล็ก อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม กรณีเรียกรับเงินจากพนักงานจ้างตามภารกิจ เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการต่อสัญญาจ้าง
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า นายไพบูลย์ ปฐมภพ มีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืน ต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพ ของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือ ปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและ องค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92 มีมูลความผิดทางอาญา
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยัง ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่ และไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ พิจารณาพิพากษาคดีกับ นายไพบูลย์ ปฐมภพ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 และมาตรา 97 แล้วแต่กรณีต่อไป
สอง.
ผลการดำเนินการมีดังนี้
1. ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยัง ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่และไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว เมื่อวันที่ 14 กค.58 ตามหนังสือที่ ปช 0014/2138 ลงวันที่ 14 ก.ค. 2558
2.สำนักงานอัยการสูงสุด มีหนังสือที่ อส0010.5/12017 ลว. 28 ก.ย.58 เรื่อง ขอให้ดำเนินคดีอาญา
3. มีหนังสือ ที่ ปช 0014/2995 ลว. 13 ต.ค. 58 ถึง นายไพบูลย์ ปฐมภพ เรื่อง ขอให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ
4. มีหนังสือ ที่ ปช 0014/2996 ลว. 13 ต.ค. 58 ถึง อัยการจังหวัดมหาสารคราม เรื่อง แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารายงานตัว
5. สำนักงานอัยการสูงสุด มีหนังสือที่ อส 0052(ปทภ.4.1)/9324 ลว. 24 สิงหาคม 2561 เรื่อง แจ้งผลคดี แจ้งว่าพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการ จ.มหสารคามได้ยื่นฟ้อง นายไพบูลย์ ปฐมภพ เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดมหาสาคาม
ต่อมาวันที่ 28 ก.พ. 2560 ศาลจ.มหาสารคาม ได้มีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามป.อาญา ม. 149 ให้ลงโทษจำคุก 5 ปี ตามคดีหมายเลขดำที่ อ.3975/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 595/2560
จำเลยอุทธรณ์ ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืน ตามคดีหมายเลขดำที่ 1449/2560 คดีหมายเลขแดงที่ 259/2561 อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฎีกา และไม่มีคู่ความใดฎีกา คดีถึงที่สุด
สาม.
จากนั้นมีรายงานข่าวว่า ในช่วงที่ศาลฯ ได้พิพากษา ลงโทษจำคุก แต่นายไพบูลย์ฯผู้ต้องหา ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาแต่อย่างใด แล้วหลบหนีออกนอกพื้นที่ไป
ก่อนที่ในช่วงเดือนพฤษจิกายน 2564 นายไพบูลย์ จะเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง และแจ้งให้ผู้อื่นทราบว่าตนเองได้รับโทษ จำคุกไปแล้ว จำนวน 2 ปี
พร้อมกันนั้นได้ช่วยภรรยาในการเสียงเลือกตั้ง นายก อบต. เนื่องจากภรรยา ได้ลงสมัครเป็น นายก อบต.หนองเหล็ก แต่ไม่ชนะการเลือกตั้งแต่อย่างใด
หลังจากนั้น นายไพบูลย์ ก็กลับมาอยู่บ้านตามปกติ
จนกระทั่งถูก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าจับกุมตัวดังกล่าว
ขณะที่พฤติการณ์ทุจริตของนายไพบูลย์ กรณีเรียกรับเงิน เพื่อต่อสัญญาจ้างให้กับพนักงานลูกจ้างของ อบต. ดังกล่าว นับเป็นตัวอย่างสำคัญ ไม่ให้บุคคลอื่น กระทำผิดซ้ำรอย ไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่างได้ชัดเจนอีกกรณีหนึ่ง

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา