
"...น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา ให้แต่ละกระทรวงได้สรุปของขวัญปีใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้ติดตามนโยบายส่งความสุขให้กับประชาชนทุกคนในเทศกาลปีใหม่นี้..."
วนกลับมาอีกครั้งกับเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ นับว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการส่งมอบความสุขให้แก่กัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา ให้แต่ละกระทรวงได้สรุปของขวัญปีใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้ติดตามนโยบายส่งความสุขให้กับประชาชนทุกคนในเทศกาลปีใหม่นี้ ซึ่งหลายโครงการจะมีการดำเนินการต่อเนื่องในปี 2568 เพื่อประชาชนได้ประโยชน์ทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี เกษตร และชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รวบรวมรายละเอียดของมาตรการและโครงการต่างๆ จากแต่ละหน่วยงาน ดังนี้
ตามข้อสั่งการนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ละกระทรวงได้สรุปของขวัญปีใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้ติดตามนโยบายส่งความสุขให้กับประชาชนทุกคนในเทศกาลปีใหม่นี้ ซึ่งหลายโครงการจะมีการดำเนินการต่อเนื่องในปี 2568 เพื่อประชาชนได้ประโยชน์ทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี เกษตร และชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน อาทิ
กระทรวงพาณิชย์
-
จัดจุดจำหน่ายสินค้าในส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด กว่า 300 จุดทั่วประเทศ ภายใต้โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ (ธ.ค.-31 ม.ค.68) และ “พาณิชย์ จังหวัดนครราชสีมาได้ นำทัพสินค้าชุมชน จัดงานโคราช มอบของขวัญปีใหม่ 2568” ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม
-
ะมอบส่วนลดพิเศษในการซื้อสินค้า/บริการช่วงเทศกาลปีใหม่ ผ่าน 4 แพลตฟอร์ม e-Commerce ได้แก่ Shopee Tiktok Shop SHIPPOP Flash ยังมีแพ็กเกจแฟรนไชส์ที่ลด ราคาเป็นพิเศษ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ จำนวน 24 ราย สูงสุด 70% ไม่จำกัดสิทธิ์
-
“พาณิชย์ยังจัดงานลดราคา New Year Mega Sale 2025” ลดราคาสินค้าและบริการทั่วประเทศ สูงสุดกว่า 70% กว่า 10,000 รายการ (ธ.ค. 67 - 31ม.ค.68)

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
-
จัดโครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567
-
จัดโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 10,000 บาท
-
กรมประมง เปิดให้แรงงานต่างด้าวขอหนังสือคนประจำเรือ (Seabook) ได้ตลอดทั้งปี เพิ่มวันทำการประมงให้แก่ผู้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ รอบปีการประมง 2567 และมอบพันธุสัตว์น้ำจืด รวมจำนวน 1,850,000 ตัวในพื้นที่ 37 จังหวัด
-
ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทั่วประเทศ เป้าหมายจังหวัดละ 500 ตัว รวมจำนวน ทั้งสิ้น 38,500 ตัว
-
ตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงฟรี ณ กองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ
-
กรมส่งเสริมสหกรณ์ สนับสนุนเงินกู้ให้กับสหกรณ์ ปลอดดอกเบี้ย ระยะเวลาให้กู้ไม่เกิน 1 ปี นำไปให้สมาชิกกู้เพื่อประกอบอาชีพหลังประสบอุทกภัยรายละไม่เกิน 30,000 บาท ปลอดดอกเบี้ย ระยะเวลาให้กู้ไม่เกิน 1 ปี
กระทรวงการต่างประเทศ
-
เปิดให้บริการทำหนังสือเดินทาง ได้รับเล่มภายในวันเดียว ตั้งแต่วันที่ 2 - 17 ม.ค. 68 (ยกเว้นวันหยุดราชการ) และบริการหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ “กงสุลสัญจร” ให้บริการในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ ตลอดปี 2568 เพื่อบริการประชาชนในจังหวัดที่ไม่มีสาขาสำนักงานหนังสือเดินทางตั้งอยู่
-
สำหรับการบริการนิติกรณ์เอกสารด่วน (ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมด่วนเพิ่ม) ตั้งแต่วันที่ 6 - 17 ม.ค. 2568 (ยกเว้นวันหยุดราชการ) ณ กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะสำนักงานสัญชาติและนิติกรณ์ ปทุมวัน สำนักงานหนังสือเดินทางฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ สงขลา อุบลราชธานี และพัทยา

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
-
จัดกิจกรรม “พม. พอใจ” พากลุ่มเปราะบางทุกวัย เที่ยวสวนสัตว์ เปิดพื้นที่สวนสัตว์ ทั้ง 6 แห่ง ขององค์การสวนสัตว์ฯ ให้กลุ่มเปราะบางที่อยู่ภายใต้ การดูแลของ พม. สามารถเข้าชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
-
“สธค. ใจดี” ฟรีดอกเบี้ยให้แก่ครอบครัว/ผู้มีรายได้น้อย ที่มาใช้บริการจำนำ ในวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท ฟรีดอกเบี้ย 1 เดือน (ต่อ 1 รอบตั๋วจำนำ)
-
โครงการ “บ้านคุ้มค่า ราคาโดนใจ” รับปีใหม่ 2568 ส่วนลดพิเศษจากราคาขายแปลงมาตรฐาน ประมาณร้อยละ 5 - 20 ตามที่ กคช. กำหนด ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนรับส่วนลดประมาณ 12,000 - 300,000 บาทต่อหน่วย โครงการบ้านเอื้ออาทร รับส่วนลดประมาณ 16,000 - 78,000 บาทต่อหน่วย โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน (เชิงสังคม) รับส่วนลดประมาณ 26,000 - 126,000 บาท ต่อหน่วย โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน (เชิงพาณิชย์) รับส่วนลดประมาณ 55,000 - 450,000 บาท ต่อหน่วย และ โครงการบ้านสวัสดิการข้าราชการ (เช่าซื้อ) รับส่วนลดประมาณ 74,500 บาทต่อหน่วย

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
จัดงาน Upskill - Reskill – Newskill “ติดอาวุธทางปัญญา ขัดเกลาทักษะเดิม เสริมทักษะใหม่ ให้คนไทยทั่วประเทศ” 9 หมวดแห่งทักษะ 600 กว่าหลักสูตร อาทิ หมวดดิจิทัล หุ่นยนต์ และระบบอัจฉริยะ หมวดธุรกิจและการบริหารจัดการ หมวดอาหารและโภชนาการ หมวดสุขภาพและการแพทย์ หมวดเกษตรและสิ่งแวดล้อม หมวดภาษา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว หมวดผู้สูงวัย หมวดทักษะชีวิตและการพัฒนาตนเอง และ หมวดอื่น ๆ โครงการ/กิจกรรม/หลักสูตร สามารถติดตามรายละเอียดหลักสูตรได้ที่ www.mhesi.go.th
กระทรวงมหาดไทย
-
โครงการบำบัดทุกข์ 6 โครงการ เช่น โครงการประชาสุขใจ ค่าไฟยืดชำระ โดยการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ขยายเวลาการงดจ่ายไฟฟ้า ประเภทไฟบ้านที่มีค่าไฟค้างจ่ายไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน จาก 1 เดือนเป็น 3 เดือน ตั้งแต่ใบแจ้งค่าไฟฟ้าวันที่ 14 ม.ค. -13 เม.ย. 2568
-
กฟภ. ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสดงอาทิตย์บนหลังคาพร้อมแบตเตอรี่ให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างขยายเขตได้รวม 1,000 ครัวเรือน
-
โครงการบำรุงสุข 12 โครงการ เช่น โครงการติดมิเตอร์ใหม่ลดราคา การประปาจัดให้จากการประปานครหลวง (กปน.) และ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โดยในส่วนของ กปน. จะลดค่าติดประปา 15% ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. 68 สำหรับผู้ใช้น้ำรายใหม่ 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 ที่พักอาศัย และ ประเภทที่ 2 ธุรกิจ ราชการ รัฐวิสาหกิจ อุตสาหกรรม
-
ส่วนของ กปภ. ลดค่าติดตั้งประปา 15% ในช่วง 1 ม.ค. -28 ก.พ. 68 โครงการขยายกำหนดเวลาดำเนินการตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประจำปี 2568 ออกไปอีก 2 เดือน จากเดิม พ.ย.67-มิ.ย. 68 เป็นเริ่ม ม.ค. – ส.ค. 68

กระทรวงพลังงาน
-
ลดค่าไฟฟ้างวดเดือนมกราคม-เมษายน 2568 ลงเหลือ 4.15 บาท/หน่วย โดยจะมีผลตั้งแต่เดือน ม.ค-เม.ย. 2568 จากค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน อยู่ที่ 4.18 บาท/หน่วย ลงอีก 3 สตางค์/หน่วย เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพและเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ให้กับพี่น้องชาวไทยทุกคน
-
ลดราคาน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 1.00 บาท ถึงวันที่ 5 มกราคม 2568 ณ สถานีบริการจำหน่ายน้ำมันของซัสโก้ และไซโนเปค ทั้ง 158 แห่ง ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคใต้ ต่อเนื่องข้ามปี
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
-
โครงการ DE-fence แพลตฟอร์มป้องกันการโทรและส่ง SMS หลอกลวง จาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์”
-
โครงการ สร้างทักษะ เสริมรายได้ พัฒนาทุนมนุษย์ บุคลากรด้านดิจิทัล โดยอบรมผ่านศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 250,000 คน ขยายทักษะดิจิทัล ลดความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลให้ประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัด โครงการขยายการใช้งานระบบ Paper Less การจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ( e-Document) ของหน่วยงานภาครัฐ 1 ล้าน Users ภายใต้แผนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
-
โครงการ ยกระดับบุคลากรดิจิทัลระดับท้องถิ่นทั่วประเทศ ในโครงการ “1 อำเภอ 1 คนไอที” รวมทั้ง เปิดหลักสูตรการเรียนรู้และพัฒนาทักษะฟรี ให้กับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทุกกลุ่ม ผ่านหลักสูตร Online กว่า 86 หลักสูตร บน HackaThailand Learning Platform เพื่อพัฒนาความรู้ ส่งเสริมอาชีพด้านดิจิทัลให้คนไทย เป็นต้น
กระทรวงการคลัง
-
มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 เพื่อผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (16 ม.ค. – 28 ก.พ. 68)
-
การบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนผ่าน APP ทางรัฐ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 67 อายุ 60 ปีขึ้นไป เริ่มจ่ายเงินครั้งแรกในช่วงเดือน ม.ค. 68 (ผ่านบัญชีที่ผูกพร้อมเพย์ 10,000 บาท)
-
มาตรการขยายเวลาปรับลดภาษีสถานบริการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและสนับสนุนการจ้างงานในประเทศ ลดอัตราภาษีสรรพสามิต จาก 10% เป็น 5% (1 ม.ค. – 31 ธ.ค.68)
-
โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย และ SMEs (ลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจ Non-bank) เป็นต้น

กระทรวงวัฒนธรรม
งานสวดมนต์ข้ามปี วันที่ 31 ธ.ค. 67 – 1 ม.ค. 68 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง วัด หรือสถานที่ตามบริบทของจังหวัดวัดไทยและวัดพุทธทั่วโลก สามารถสวดมนต์ข้ามปีออนไลน์ได้ทาง www.prayer2568.weebly.com และ ฟรี! เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและโบราณสถานทั่วประเทศ (31 ธ.ค. 67 – 1 ม.ค. 68)
กระทรวงคมนาคม
-
วิ่งฟรี “มอเตอร์เวย์” รองรับประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา
-
ยกเว้นค่าผ่านทางทางหลวงพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2567 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 2 มกราคม 2568 เวลา 24.00 น.
นอกจากนี้ ยังได้มอบของขวัญปีใหม่ 2568 ภายใต้แนวคิด “I-SMART” รวม 32 รายการ ภายใต้หัวข้อการรณรงค์ “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม” ครอบคลุมในทุกมิติ (ทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ) ดำเนินการโดยกำหนด 3 มาตรการ ดังนี้
1. มาตรการและแผนรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล กำชับผู้ประกอบการที่ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้วางแผนการรับ-ส่งสินค้า ไม่ให้กระทบต่อการเดินทางของประชาชน โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ออกประกาศห้ามรถบรรทุกวิ่งบนถนนบางสายวันที่ 27-29 ธันวาคม 67 และ 1-2 มกราคม 68
2. มาตรการและแผนรองรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน การเกิดอุบัติเหตุของระบบขนส่งสาธารณะจะต้องเป็นศูนย์ ให้เข้มงวดกับผู้ให้บริการการบินโดยเฉพาะในกรณีเครื่องล่าช้าและจะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับในกรณีที่มีการเลื่อน/ยกเลิกเที่ยวบิน อย่างทันท่วงที
3. การเตรียมการรองรับจราจรในช่วง Countdown ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
-
ขสมก. ขยายเวลาเดินรถโดยสารที่ผ่านสถานที่จัดงาน Countdown ถึง 02.00 น. เพื่อรองรับการเดินทางร่วมงาน Countdown 3 แห่งใหญ่ ได้แก่ Central World, One Bangkok และ Icon Siam จนจบกิจกรรม
-
ขยายเวลาเดินรถโดยสารที่ผ่านที่จัดงานสวดมนต์ข้ามปี 4 แห่ง ถึง 02.00 น. เพื่อรองรับประชาชนบริเวณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ท้องสนามหลวง และวัดไร่ขิง
-
ขยายเวลาเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้ามหานครทุกเส้นทาง (พร้อมที่จอดรถ) ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตั้งแต่ 31 ธันวาคม 67 เวลา 06.00 น.-1 มกราคม 68 เวลา 02.00 น. และรถไฟชานเมืองสายสีแดง ขยายเวลาให้บริการในวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธันวาคม 67 ถึง 02.00 น.

กระทรวงอุตสาหกรรม
กล่องที่ 1 สนับสนุนสินค้าและบริการดี ประกอบด้วย
-
1) ปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อปทุกกำลังการผลิต ไม่ต้องขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เพื่อสนับสนุนใช้ไฟฟ้าสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมตอบสนองกติกาสากลและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศแบบซีโร่คาร์บอน
-
2) ส่งเสริมการลงทุน นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ในพื้นที่ Rubber City ซื้อที่ดินตั้งแต่ 3-121 ไร่ รับส่วนลดร้อยละ 3-15 ของอัตราราคาขายที่ดิน
-
3) ส่วนลดราคาพิเศษ อาทิ ลดค่าสมาชิกสถาบันอาหาร 20% จำนวน 100 สิทธิ
-
4) ลดราคาโปรแกรม HR สำหรับ SMEs 15% เป็นระยะเวลา 3 ปี ทดลองใช้ฟรี 30 วัน จำนวน 200 สิทธิ
กล่องที่ 2 เสริมแกร่งธุรกิจ ประกอบด้วย
-
1) บริการซอฟต์แวร์จากดีพร้อมแคร์ ฟรี 6 เดือน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาการบริหารจัดการธุรกิจ อาทิ โปรแกรม SekWeb เครื่องมือสร้างเว็บไซต์อัจฉริยะพร้อมข้อมูล โปรแกรม PEAK บัญชีออนไลน์อำนวยความสะดวกด้านการเงินและงบการเงินต่าง ๆ โปรแกรมบอทน้อย เสริมพลังธุรกิจด้วยแชตบอตอัจฉริยะ ที่จะช่วยให้การสนทนาที่ขับเคลื่อนด้วย AI มูลค่า 25 ล้านบาท
-
2) ฟรีอบรมด้าน ESG (E-Environment, S-Social และ G-Governance) แก่บุคลากรของผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว จำนวนกว่า 400 คน
-
3) ฟรีอบรมการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ การพัฒนากระบวนการผลิต และการประยุกต์ใช้ระบบไอที ผ่าน www.plaskills.com จำนวน 100 ท่าน
กล่องที่ 3 สร้างโอกาส กระจายรายได้ ประกอบด้วย
-
1) โครงการเหมืองแร่ปลอดภัยห่วงใยประชาชน ปีที่ 8 อาทิ บริการตรวจสุขภาพฟรี ให้กับประชาชนรอบสถานประกอบการเหมืองแร่กว่า 30,000 ราย โครงการจัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐ ซึ่งเป็นเงินที่ผู้ได้รับอาชญาบัตรพิเศษหรือประทานบัตรตอบแทนแก่รัฐตามที่ พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2560 กำหนดให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 187 แห่ง ครอบคลุม 54 จังหวัด เพื่อนำไปพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชน รวมกว่า 525 ล้านบาท เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชน สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก รวมทั้งฟื้นฟูผลกระทบที่เกิดจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
-
2) สร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ดังนี้ (1) สร้างแรงจูงใจแก่ชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด คุณภาพดีร้อยละ 100 โดยจ่ายเงินสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อย ในอัตรา 69 บาทต่อตันอ้อย คาดการณ์ปริมาณอ้อยสดคุณภาพดี 75 ล้านตัน (2) เพิ่มราคารับซื้อใบและยอดอ้อยในอัตรา 300 บาทต่อตันใบและยอดอ้อย หรือเท่ากับ 51 บาทต่อตันอ้อย (3) การจัดหาเครื่องสางใบอ้อยให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยยืมใช้ ทั้ง 4 ภูมิภาค จำนวน 288 เครื่อง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระชาวไร่อ้อย (4) การแจกอ้อยพันธุ์ดี ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยนำไปขยายพันธุ์ในฤดูการผลิตปี 2568/2569 ทั่วประเทศ 200,000 ไร่ ผลผลิต 2 ล้านตัน มูลค่าไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท
กล่องที่ 4 เสริมสภาพคล่อง ประกอบด้วย
- 1) ยกเว้นค่าธรรมเนียมและลดค่าบริการ (1) ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการลงทุนในระบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการ ร้อยละ 10 ของรายจ่ายที่จ่ายไปเพื่อการลงทุนในเครื่องจักร โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งแล้วเสร็จและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนในระบบอัตโนมัติกว่า 4,500 ล้านบาท
(2) ยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอใบรับรอง ฉบับละ 1,000 บาท ค่าธรรมเนียมใบรับรองฉบับละ 10,000 บาท (3) ลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิ ลดค่าแปลใบอนุญาต มอก. 300 บาท/มผช. 100 บาท/มอก.เอส 100 บาท ลดค่าตรวจโรงงานในประเทศ 50% (มอก.) ลดค่าหลักสูตร TGI Industry Management Reform ยกระดับการจัดการอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน สูงสุด 20%/In-House Training ทุกหลักสูตร 5%
ลดค่าทดสอบเครื่องเรือนสถานศึกษา 50% อาทิ โต๊ะนักเรียน (มอก.1494-2567) และเก้าอี้นักเรียน (มอก.1495-2567) ลดค่าสมาชิกสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 10-20% ลดค่าธรรมเนียม ทดสอบ มอก. บังคับ 10 มาตรฐาน 20% และตรวจโรงงาน มอก. ในประเทศ ลดค่าธรรมเนียม 20%/ใบรับรอง EEI Certificate 50%
2) มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ประกอบด้วย (1) เงินทุนต่อยอด ขับเคลื่อน SMEs อุตสาหกรรมฮาลาลสู่ตลาดโลก “เรียนแล้ว รับรองได้ ลงทุนง่าย ขายส่งออกเป็น” สานพลังแหล่งเงินทุน ผ่าน 8 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
(2) สินเชื่อต่าง ๆ อาทิ (2.1) สินเชื่อเสือติดปีก 1,200 ล้านบาท วงเงินสูงสุดไม่เกิน 15 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 10 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 3-5 ต่อปี (2.2) สินเชื่อคงกระพัน 700 ล้านบาท วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 3 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 4-7 ต่อปี (2.3) สินเชื่อพิเศษ Diprom Pay วงเงินสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 5 ปี ดอกเบี้ย ร้อยละ 3-7 ต่อปี (2.4) สินเชื่อกู้ระยะยาว วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 10 ปี ดอกเบี้ย ร้อยละ 3-10 ต่อปี
(2.5) สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ Soft Loan เมื่อเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ทดแทนเครื่องจักรเดิม มูลค่า 60 ล้านบาท (2.6) สินเชื่อธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 3-7 ต่อปี (2.7) สินเชื่อลูกค้าใหม่ SMEs ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.99% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 15 ปี (8) สินเชื่อสนับสนุน SMEs Green Productivity ดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปีใน 3 ปีแรก ผ่อนนาน 10 ปี

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การเดินทางอุ่นใจตลอดทุกเส้นทาง ด้วยบริการจุดพักรถ พร้อมให้บริการน้ำดื่มฟรีบนถนนสายหลักและถนนสายรอง พร้อมตั้ง 4 ศูนย์บริการอากาศยานรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเล 35 แห่ง ช่วงวันที่ 28 ธันวาคม 2567 - 1 มกราคม 2568
งดเว้นค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ 133 แห่ง , เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า 160 แห่ง , ป่านันทนาการ 6 แห่ง , พิพิธภัณฑ์ซากดึกดำบรรพ์ธรณีวิทยาและธรรมชาติวิทยา 6 แห่ง , ป่าในเมือง สวนป่าประชารัฐ และป่าชายเลนในเมืองเพื่อการท่องเที่ยว ช่วงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 – 1 มกราคม 2568 พร้อมงดเว้นค่าเข้าชมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ตวันที่ 1 มกราคม 2568
งดเว้นค่าเข้าชมสวนสัตว์ทั้ง 6 แห่ง สำหรับเด็กที่มีอายุไม่ถึง 12 ปี และผู้สูงอายุ วันที่ 30 ธันวาคม 2567 – 1 มกราคม 2568 สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) งดเว้นค่าเข้าชมสำหรับผู้พิการ และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และมอบส่วนลดร้อยละ 10 สำหรับบุคคลทั่วไป พร้อม
มอบส่วนลดสูงสุดร้อยละ 20 สำหรับการซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ไม้สักที่ร้าน FIO SHOP ทุกสาขา ในวันที่ 29 ธันวาคม 2567 – 1 มกราคม 2568
ให้บริการตรวจสอบอัญมณี ธรณีวัตถุเบื้องต้นฟรีตลอดเดือนมกราคม 2568
เพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้วยการแจกกล้าไม้ฟรี เช่น กล้าไม้มหามงคล 101,010 กล้า ต้นไม้ฟอกอากาศ 2,850 ต้น กล้าไม้ป่าชายเลน 78,000 กล้า และเมล็ดพันธุ์ดอกไม้และเมล็ดผลไม้ 600 ซอง ช่วงวันที่ 28 ธันวาคม 2567 – 3 มกราคม 2568 และวันที่ 29 มกราคม 2567 – 1 มกราคม 2568
มอบสิทธิที่ดินทำกินฯ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติประมาณ 3,652,018 ไร่ รวมถึง มอบหนังสืออนุญาตและใบอนุญาตฯในพื้นที่ จ.ตราดและจันทบุรี 23 ชุมชน เนื้อที่ประมาณ 220 ไร่ พร้อมร่วมส่งความสุขด้วยคำอวยพรผ่าน ส.ค.ส. E-Card ทางหน้าเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ ได้ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2567 – 10 มกราคม 2568

กระทรวงศึกษาธิการ
-
จัดโครงการ "อาชีวศึกษาช่วยประชาชน"
-
เปิดหลักสูตรพัฒนาทักษะดิจิทัลและ AI จำนวน 12 หลักสูตร ฟรี!
-
โปรโมชั่นพิเศษ "ศึกษาภัณฑ์ New Year Sale 2025"
-
กิจกรรม "ลูกเสือจิตอาสาเพื่อประชาชน"
-
เปิดให้ดาวน์โหลดวารสาร MWIT ฟรี

กระทรวงสาธารณสุข
- เดือนธันวาคม 2567 – มกราคม 2568 ให้บริการฉีดวัคซีนแก่ผู้มีอายุ 11 – 20 ปี ป้องกันการตัดเชื้อไวรัสเอชพีวีป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) 1 ล้านโดส
ทั้งหมดนี้ เป็นมาตรการโครงการฯ ที่หน่วยงานกระทรวงต่างๆ จัดทำขึ้นเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ส่งความสุขให้ประชาชนในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึง และ ครม.ได้มีมติอนุมัติและรับทราบแผนการดำเนินงานของรายกระทรวงไปแล้ว
ส่วนโครงการ มาตรการและแผนการดำเนินการเหล่านี้ จะสำเร็จลุล่วงได้จริงหรือไม่ ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา