
"...ที่ผ่านมาทาง ป.ป.ช.ตรัง ได้แถลงข่าวกรณีชี้มูลความผิดในการใช้รถหลวงไปแล้วหลายเรื่อง ทั้งกรณี ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครตรัง กรณีนายกเทศบาล ต.ย่านตาขาว กรณี ผอ. สพป.ตรัง เขต 2 และกรณีปลัดเทศบาลฯครั้งนี้ ซึ่งพฤติการณ์เช่นนี้คือเอารถหลวงไปใช้เสมือนรถยนต์ส่วนตัว เช่นนำกลับบ้านจนเป็นนิตย์ เป็นประจำ นำไปงานส่วนตัว งานศพ งานแต่ง งานบวช ไม่เว้นแต่นำไปบ่อนการพนันก็ยังมี และไปเบิกค่าน้ำมันกับทางราชการด้วย ก็อยากฝากไปยังข้าราชการว่าอย่าเกร็งจนเกินไป ใช้ได้แต่ดำเนินการให้ถูกต้องและปฏิบัติราชการอย่างแท้จริง..."
นายกฤษ์นริศ ศรีใหม่ ปลัดเทศบาลตำบลโคกหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ รายล่าสุดที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีนำรถหลวงจำนวน 2 คัน ไปใช้เสมือนรถยนต์ส่วนตัว
โดยเมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2568 ที่ ห้องประชุมเป็นธรรม ชั้น 3 อาคารสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จังหวัดตรัง ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต ได้ร่วมกันแถลงข่าวการชี้มูลความผิดคดีนี้เป็นทางการ ระบุพฤติการณ์จากการไต่สวนว่า นายฤกษ์นริศ ศรีใหม่ ได้นำรถยนต์ส่วนกลาง ของเทศบาลตำบลโคกหล่อ หมายเลขทะเบียน กต 5063 ตรัง และหมายเลขทะเบียน กท 2439 ตรัง ไปใช้เป็นการส่วนตัวภายหลังเลิกงาน เป็นประจำทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ และจะนำรถกลับถึงสำนักงานเทศบาล ตำบลโคกหล่อ (ชั่วคราว) ในตอนเช้าของวันทำงาน โดยใช้เป็นยานพาหนะเดินทางไป - กลับ ระหว่างสำนักงาน เทศบาลตำบลโคกหล่อ (ชั่วคราว) กับบ้านพักของตนที่อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง
นอกจากนี้ยังปรากฏหลักฐานว่า ได้ใช้เดินทางไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เดินทางไปจังหวัดพัทลุง และใช้ไปงานมงคลสมรสซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์ ส่วนตัว อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการใช้และรักษารถยนต์ขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2548 เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ

@ นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง
พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต ได้ร่วมกันแถลงข่าวการชี้มูลความผิดคดีนี้เป็นทางการ
ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 21/2568 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ได้พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง เห็นว่า การกระทำของ นายฤกษ์นริศ ศรีใหม่ ปลัดเทศบาลตำบลโคกหล่อ มีมูลความผิด ทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็น เหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดตรัง เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย พ.ศ.2558 ข้อ 10 วรรคสอง
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ส่งสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยส่งไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย กับนายฤกษ์นริศ ศรีใหม่ ตามฐาน ความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป
ทั้งนี้ ให้แจ้งเทศบาลตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 82 วรรคสอง
อย่างไรก็ตาม มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดยังไม่สิ้นสุด ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังคงเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ส่วนกลาง ของเทศบาลตำบลโคกหล่อ หมายเลขทะเบียน กต 5063 ตรัง และหมายเลขทะเบียน กท 2439 ตรัง ที่ นายกฤษ์นริศ ศรีใหม่ ปลัดเทศบาลตำบลโคกหล่อ นำไปใช้เสมือนรถยนต์ส่วนตัวของตัวเอง พบว่าปัจจุบันจอดอยู่ที่ เทศบาลตำบลโคกหล่อ (ดูภาพประกอบ)




ขณะที่ นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต ให้ข้อมูลยืนยันว่า ระยะเวลาในการรับเรื่องและดำเนินการถึงมีการชี้มูลความผิดเรื่องนี้ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปี ซึ่งอยากจะฝากไปถึงข้าราชการและนักการเมืองว่า รถหลวงไม่ใช่จะไม่ให้ใช้เลย ใช้ได้ แต่ความผิดหรือพฤติการณ์ในการใช้รถหลวงส่วนใหญ่มีอยู่ประมาณ 3 ประเภท ประเภทที่ 1 อาจจะไม่เหมาะสมเช่นใช้ล่วงระยะเวลา ไปทานข้าวอยู่ร้านอาหาร นายกฯท้องถิ่น อาจมีภารกิจไปงานแต่งงาน งานศพ งานบวช อันนี้เกี่ยวเนื่องกับทางราชการก็ไม่ได้ผิด แต่อาจจะไม่เหมาะสม ประเภทที่ 2 คือ ไม่ดำเนินการตามระเบียบ หรือไม่ขออนุญาตให้ถูกต้องเรียบร้อย หรือขออนุญาตไปอีกที่นึ่ง แต่กลับไปอีกที่นึ่ง อันนี้คือผิดระเบียบ ประเภทที่ 3 ก็เหมือนเรื่องนี้ คือทุจริตเลย
"ที่ผ่านมาทาง ป.ป.ช.ตรัง ได้แถลงข่าวกรณีชี้มูลความผิดในการใช้รถหลวงไปแล้วหลายเรื่อง ทั้งกรณี ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครตรัง กรณีนายกเทศบาล ต.ย่านตาขาว กรณี ผอ. สพป.ตรัง เขต 2 และกรณีปลัดเทศบาลฯครั้งนี้ ซึ่งพฤติการณ์เช่นนี้คือเอารถหลวงไปใช้เสมือนรถยนต์ส่วนตัว เช่นนำกลับบ้านจนเป็นนิตย์ เป็นประจำ นำไปงานส่วนตัว งานศพ งานแต่ง งานบวช ไม่เว้นแต่นำไปบ่อนการพนันก็ยังมี และไปเบิกค่าน้ำมันกับทางราชการด้วย ก็อยากฝากไปยังข้าราชการว่าอย่าเกร็งจนเกินไป ใช้ได้แต่ดำเนินการให้ถูกต้องและปฏิบัติราชการอย่างแท้จริง" นายยุทธนาระบุ

@ นายยุทธนา วิมลเมือง
คำถามที่น่าสนใจสำหรับคดีรถหลวง คือ กรณี นายกฤษ์นริศ ศรีใหม่ ปลัดเทศบาลตำบลโคกหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง จะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐรายสุดท้าย ที่ถูกคณะกรรมการป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และส่งเรื่องให้อสส.ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนหรือไม่
หรือยังจะมีใครกล้าที่จะฝ่าฝืนกฎหมาย นำรถหลวงไปใช้เสมือนรถยนต์ส่วนตัว จนเป็นนิตย์ วนเวียนให้เห็นอีกต่อไป ไม่รู้จักจบสิ้น
แบบที่เห็นและเป็นไปอยู่ในขณะนี้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา