
ครม.อนุมัติ ขสมก.เช่ารถเมล์ EV ใหม่ จำนวน 1,520 คัน วงเงิน 15,355 ล้านบาท คาดต.ค.-พ.ย.นี้ ได้ตัวผู้รับจ้าง วางกรอบ 10 เดือนรับมอบรถใหม่ล็อตแรก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 17 มิถุนายน 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (ด้านการต่างประเทศ การคมนาคม การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม) เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ (1) การขอทบทวนมติครม.เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2556 ที่อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ดำเนินโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน เพื่อนำมาให้บริการทดแทนรถโดยสารเดิมที่ใช้น้ำมันดีเซล ในวงเงินรวม 13,162.20 ล้านบาท โดยเปลี่ยนเป็นโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 1,520 คัน ระยะเวลา 7 ปี ซึ่งมีความพร้อมในการดำเนินการในขณะนี้ในกรอบวงเงินลงทุนโครงการ 15,355.60 ล้านบาท และให้ ขสมก. เป็นผู้บริหารโครงการโดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 – 2575 (2) อนุมัติให้ ขสมก. ดำเนินโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 1,520 คัน ระยะเวลา 7 ปี ซึ่งมีความพร้อมในการดำเนินการในขณะนี้ในกรอบวงเงินลงทุนโครงการ 15,355.60 ล้านบาท และให้ ขสมก. เป็นผู้บริหารโครงการโดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 – 2575 และให้ คค. ขสมก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของ กค. ทส. มท. อก. และ สศช. และข้อสังเกตของ สงป. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
2. ให้กระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. พิจารณาดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) โดยคำนึงถึงประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
2.1 ส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการของไทยที่มีศักยภาพเข้าร่วมแข่งขันอย่างเป็นธรรม
2.2 กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการผลิตรถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) ใช้วัตถุดิบหรือชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ (Local Content) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 หรือในสัดส่วนที่เหมาะสม
2.3 กำหนดเงื่อนไขให้รถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) ที่จะเช่าเพิ่มเติมจำนวน 1,520 คัน ในครั้งนี้ สามารถรองรับการใช้บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่น ๆ นอกจากบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก. เช่น บัตรรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ หรือบัตรเรือโดยสาร รวมทั้งรองรับการพัฒนาระบบตั๋วร่วมที่จะดำเนินการในระยะต่อไปด้วย
ทั้งนี้ จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า สาระสำคัญของเรื่อง เดิมครม.มีมติเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2568 อนุมัติให้ ขสมก. ดำเนินโครงการจัดซื้อรถโดยสารแบบเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน เพื่อนำมาทดแทนรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทดีเซล วงเงินรวม 13,162.20 ล้านบาท โดยในปี 2562 ขสมก.จัดซื้อไปแล้ว 489 คัน ต่อมามีการทบทวนแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ซึ่งผลการศึกษาระบุว่า รถโดยสารเดิมของขสมก.ส่วนใหญ่ใช้น้ำมันดีเซลและเชื้อเพลิงประเภท NGV ที่ใช้งานมามากกว่า 20-30 ปี ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าเชื้อเพลิงสูง หากเปลี่ยนมาใช้รถโดยสารปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) น่าจะเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงและค่าซ่อมบำรุง รวมทั้งช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศได้
สำหรับวงเงิน 15,355.60 ล้านบาท แบ่งเนื้องานได้ 3 เนื้องาน ได้แก่ ค่าเช่ารถ 10,134.70 ล้านบาท, ค่าซ่อมบำรุง 3,240.03 ล้านบาท และค่าเช่าสถานีประจุไฟฟ้า 967.4 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณปี 2568 ที่ได้รับการอนุมัติไว้แล้วจำนวน 368.4 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 14,987.2 ล้านบาท จะผูกพันในปีงบประมาณปี 2569-2574 ต่อไป โดยมีประมาณการรายได้ (ค่าโดยสาร, โฆษณา) ที่ 52,654.19 ล้านบาท ประมาณการรายจ่าย (ค่าเช่ารถ,ค่าเช่าตู้ชาร์จพลังงานไฟฟ้า) ที่ 32,798.54 ล้านบาท คาดว่าจะมีผลกำไรสุทธิที่ 19,855.64 ล้านบาท
ขณะที่นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า การจัดหารถโดยสารปรับอากาศ EV จำนวน 1,520 คัน แบ่งการส่งมอบเป็น 3 ระยะ ล็อตแรก จำนวน 500 คัน ล็อตที่ 2 จำนวน 500 คัน ล้อตที่3 จำนวน 520 คัน โดยขสมก.กำลังทำแผนงานกรอบระยะเวลาให้สอดคล้องหลังจากครม.อนุมัติ และจะรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการขสมก. (บอร์ด) ในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ โดย จะเป็นดำเนินการร่าง TOR จัดทำราคากลาง และรับฟังความเห็น คาดว่าจะได้ข้อสรุปออกประกาศประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้าง และได้ตัวผู้ชนะประมูลในเดือนต.ค.-พ.ย. 2568 และออก NTP เริ่มงาน โดยมีกรอบระยะเวลาในการจัดหารับมอบล็อตแรกภายใน 10 เดือน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา