
"...ส่วนคดีของตนเอง ป.ป.ช.ยังไม่ชี้มูล เพียงแค่แจ้งข้อกล่าวหา โดยระบบของไทยเป็นระบบกล่าวหา อยากจะฝากเตือนชาวเน็ตหรือคู่อริที่ด่วนสรุปแทนศาลหรือ ป.ป.ช. ก็จะได้หมายศาลจากตนเอง อีกทั้งเมื่อปีที่ผ่านมาทนาย พ. ก็ไปรับงานมาจากพันเอก ก. มาร้องเรียนตนเองที่ กระทรวง อว. และที่ป.ป.ช. เกี่ยวกับเรื่องเดิม ตนเองดำเนินการฟ้องทนาย พ. ศาลก็รับฟ้องเพราะมีมูล..."
หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา รองศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับพวก จำนวน 2 กรณี คือ ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต 2. ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานรับรองหรือทำหลักฐานเท็จ ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม กรณีใบรับรองการทดสอบมาตรฐานสากลจากสถาบันวิจัยความปลอดภัยอาชีวอนามัย สาธารณรัฐเช็ก เพื่อจะได้โครการวิจัยและพัฒนาการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหารเพื่อใช้ภายในประเทศ
ปัจจุบัน ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการแจ้งข้อกล่าวหา รองศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ และพวก รวม 6 ราย เพื่อให้ใช้สิทธิชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามขั้นตอน ก่อนจะสรุปสำนวนเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาสำนวนการไต่สวนต่อไป

รองศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศรา ว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นกรณีที่โครงการได้รับทุนวิจัยของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ปัจจุบัน คือ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) งบประมาณ 3 ล้านบาท ทำหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหาร ตนเองและคณะก็ทำรายงานส่งงานวิจัยปิดโครงการตามปกติ
"แต่ในเล่มวิจัยที่ส่งของทหารมีความผิดปกติ คือ มีเอกสารแผ่นหนึ่งที่ฝ่ายทหารทำขึ้น และในกลุ่มทหารก็มีความขัดแย้งกัน จนกระทบมาที่กลุ่มพลเรือนของตนเอง 4 คน"
"คนที่แจ้งความ คือ พล.ต. ศ.(ตัวย่อ) อดีตผู้บริหารระดับสูงสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก (สวพ.ทบ.) ในสมัยนั้น เป็นคนไปขออำนาจกองทัพบกแจ้งความดำเนินคดีที่กองปราบฯ "
"ในช่วงนั้นก็มีการต่อสู้กัน มีการแก้ข่าวไปหลายครั้ง ตนเองก็ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มทหารที่มีทหารเข้ามาเกี่ยวข้องเกือบ 10 นาย หนึ่งในนั้น คือ พล.ต. ศ., พันเอก ก. , พันเอก ร. เป็นต้น
รองศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ ยังชี้แจงต่อว่า นอกจากนี้หน้ากากที่ฝ่ายทหารฝ่ายจัดซื้อ จัดซื้อชุดละ 60,000 บาท แต่ตนเองทำในราคาต้นทุน 3,000 บาท จึงมีการทะเลาะกัน โดยรายงานที่ส่ง สกอ. ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่รายงานที่ส่งทหารมีเอกสารที่ผิดปกติ ทางตนเองก็แจ้งให้นำเอกสารแผ่นนั้นออก แต่อีกฝ่ายไม่เอาออก จนเป็นเรื่องที่มีการแจ้งความ และถึง ป.ป.ช. อย่างที่มีการดำเนินการในวันนี้
"ในเรื่องที่ตนเองถูกแจ้งความก็ดำเนินไปตามกระบวนการ เพราะเป็นการแจ้ง ป.ป.ช.กับทหารและพลเรือน ส่วนที่ตนเองร้อง ป.ป.ช. กลับ มีการชี้มูลตั้งแต่นายพลรายหนึ่ง นายพันบางคนก็ลาออก ส่วนพันเอก ก. ก็ถูกชี้มูลแต่ไปต่อสู้แล้วหลุดคดีในศาลทหาร"
"คดีของผม ป.ป.ช.ยังไม่ชี้มูล เพียงแค่แจ้งข้อกล่าวหา โดยระบบของไทยเป็นระบบกล่าวหา อยากจะฝากเตือนชาวเน็ตหรือคู่อริที่ด่วนสรุปแทนศาลหรือ ป.ป.ช. ก็จะได้หมายศาลจากตนเอง อีกทั้งเมื่อปีที่ผ่านมาทนาย พ. ก็ไปรับงานมาจากพันเอก ก. มาร้องเรียนตนเองที่ กระทรวง อว. และที่ป.ป.ช. เกี่ยวกับเรื่องเดิม ตนเองดำเนินการฟ้องทนาย พ. ศาลก็รับฟ้องเพราะมีมูล"
รองศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย ยังระบุด้วยว่า "ความแค้นระหว่างผมกับกลุ่มทหารที่เสียผลประโยชน์เป็นเรื่องปกติ เรื่องนี้ยังคงต้องตามกันต่อว่าจะไปหยุดที่ไหน ผมยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมพร้อมนักวิจัยอีก 6 คน ผมยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำผิดอะไรทั้งสิ้น และผมจะพยายามให้ถึงที่สุดในการนำทหารกลุ่มนี้ติดคุกให้ได้"

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา