ศาลฎีกาฯ พิพากษาลงโทษ จำคุก 2 เดือน 'เสน่ห์ ทองศักดิ์' อดีตนายก อบต.เขากอบ คดียื่นบัญชีเท็จ ปกปิดเงินให้กู้บริษัทตัวเอง 58 ล. แต่ได้รอลงอาญา 1 ปี ปรับเงิน 8 พันบาท -เจ้าตัวโพสต์ขอบคุณ ให้หยุดการเมืองตลอดชีวิต มีเงินเที่ยวกิน หาความสุขส่วนตัวตามประสา คนว่างงาน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาตัดสินคดี นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ
โดยศาลฯ มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ เป็นเวลา 2 เดือน ปรับเงิน 8 พันบาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา เป็นเวลา 1 ปี
สำหรับคดีนี้ ป.ป.ช.มีมติชี้มูล นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ เนื่องจากว่ามีพฤติกรรมการยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จในส่วนของเงินให้กู้ยืมแก่ บริษัท เอสดีที พาราวู้ด จำกัด จำนวน 58,050,495.00 บาท และบ้านสองชั้นของคู่สมรส กรณีพ้นจากตำแหน่งตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
ภายหลังจากศาลฯ มีคำพิพากษา เฟซบุ๊กส่วนตัว นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ ระบุข้อความว่า “ขอบคุณ ปปช.ที่ให้ผมหยุดการเมืองตลอดชีวิต มีเงินเที่ยวกิน หาความสุขส่วนตัวตามประสา คนว่างงาน” มีคนรู้จัก เข้าไปโพสต์ข้อความให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
กล่าวสำหรับ นายเสน่ห์ ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจเจ้าของกิจการโรงงานแปรรูปส่งออกไม้ยางพารา และประธานสโมสรฟุตบอลเมืองตรังยูไนเต็ด และเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในระบบปาร์ตี้ลิสต์ มีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย ดูแลพื้นที่ภาคใต้ ต่อมาหลังแพ้เลือกตั้งได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการนายก อบจ.ตรัง สมัยล่าสุดที่มีนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ เป็นนายก อบจ.ตรัง ก่อนตัดสินใจลาออกมาลงสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบต.เขากอบ อีกครั้ง เมื่อวันที่ 28 พ.ย.64 ที่ผ่านมา แต่แพ้การเลือกตั้ง
ส่วนคดีความอื่นๆ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2566 นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ อดีตนายก อบต.เขากอบ ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีบ่ายเบี่ยงละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 กรณีสร้างบ้านประชาชน ศาลอาญาทุจริตฯภาค 9 พิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 4 หมื่น แต่รับสารภาพ โดนโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 2 หมื่นบาท ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี เหตุไม่เคยทำผิด จนกระทั่งมาถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาในคดียื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ภายหลังจากถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเป็นคดีที่ 2 ตามข่าวข้างต้น
อ่านประกอบ :