
"...ในเชิงข้อเท็จจริงนายสมศักดิ์ควรจะต้องนำข้อเท็จจริงทางการแพทย์มาพิจารณาดู การที่แพทยสภาออกมาชี้ค่อนข้างชัดว่า ไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต ก็สมควรที่จะจบแล้ว ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดในสภาว่า ถึงที่สุดก็ให้แพทยสภาเป็นคนตัดสิน ฉะนั้น เมื่อไม่วิกฤต ความจำเป็นที่นายทักษิณจะต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป ก็จบแล้ว..."
หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org): เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้มีหนังสือแสดงความเห็นตอบกลับมติของแพทยสภา ในการลงโทษ 3 แพทย์ เกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
หลังจากนี้ ทางแพทยสภาต้องนำเรื่องดังกล่าวส่งเข้าที่ประชุมกรรมการแพทยสภา (บอร์ดแพทยสภา) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.2568
นำมาสู่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยมีหน่วยงานและองค์กรแพทย์ออกมาสนับสนุน 'มติแพทยสภา' อย่างต่อเนื่อง
@ แพทย์จุฬาฯรุ่น 34 หนุน 'แพทยสภา' ยืนยันมติเดิม ยึดอิสระวิชาชีพ
แพทย์จุฬาฯ รุ่นที่ 34 ออกแถลงการณ์ ว่า แพทย์จุฬาฯ ดังมีรายชื่อต่อท้ายแถลงการณ์นี้ ขอแสดงออกถึงจุดยืนร่วมกัน หลังจากที่ได้ทราบว่า สภานายกพิเศษ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) ได้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรมพ.ศ. 2525 ยับยั้งหรือวีโต้มติของที่ประชุมใหญ่แพทยสภา
ซึ่งประกอบด้วยกรรมการที่เป็นแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ จำนวน 70 คน เป็นกรรมการแพทยสภาโดยตำแหน่งจำนวน 35 คน ซึ่งรวมถึงคณบดีคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆถึง 28 คน และเป็นกรรมการแพทยสภาที่มาโดยการเลือกตั้งจากจำนวนแพทย์สมาชิกที่มีหลายหมื่นคน อีกจำนวน 35 คน
การที่คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ดังกล่าวข้างต้น จะมีมติใด โดยเฉพาะเรื่องการดูแลด้านจริยธรรม จรรยาบรรณของสมาชิกแพทย์ด้วยกันเองนั้น มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อยังประโยชน์ให้กับประชาชนหรือคนไข้จะได้รับการดูแลรักษาอย่างดียิ่ง กอปรไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนจรรยาบรรณ ซึ่งแพทยสภาจะให้ความเป็นธรรมเสมอมา
ในกรณีที่มีผู้ร้องเรียนแพทย์หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทยสภาจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายคือ ผู้ป่วยหรือผู้ร้องเรียน และแพทย์ผู้ทำการรักษา โดยการกลั่นกรองข้อมูลอย่างเป็นระบบและมีคุณภาพสูงยิ่งตั้งแต่ในชั้นคณะอนุกรรมการจริยธรรมซึ่งดูข้อเท็จจริงเบื้องต้น หลังจากนั้นถ้ามีมูล จึงจะส่งให้อนุกรรมการสอบสวน และสุดท้ายส่งเข้าคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ โดยที่ทางแพทยสภาได้จัดตั้งอนุกรรมการกลั่นกรองขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพื่อดูแง่มุมให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น
คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ จึงใช้ข้อมูลที่มีรายละเอียดที่ครบถ้วนสมบูรณ์สูงมาก จากอนุกรรมการทั้งสามคณะ ใช้เวลามากพอสมควร จนหลายครั้งมีเสียงร้องเรียนว่าทำไมเรื่องถึงล่าช้ามาก จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นของการทำงาน กว่าจะได้มาซึ่งมติของคณะกรรมการแพทยสภา จึงต้องใช้ความรู้ความสามารถ ความละเอียดรอบคอบในทุกมิติทุกประเด็น ตลอดจนระยะเวลานานพอสมควร จึงมีความน่าเชื่อถือสูง
อย่างไรก็ตาม เมื่อสภานายกพิเศษหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยความเห็นประกอบจากคณะกรรมการที่ท่านรัฐมนตรีตั้งขึ้นเองอีก 10 คน ใช้เวลาประชุมเพียง 3 ครั้ง และใช้เวลาไม่มากนัก แล้วมีความเห็นสรุปส่งให้กับท่านรัฐมนตรี จึงน่าเชื่อได้ว่าเป็นไปได้ยากมาก ที่จะมีข้อมูลข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่หนักแน่นมากเพียงพอและน่าเชื่อถือ จนกระทั่งนำมาสู่การยับยั้งหรือวีโต้มติของคณะกรรมการแพทยสภาดังกล่าวได้
ดังนั้นพวกเราแพทย์จุฬารุ่น 34 จึงขอเรียกร้องให้สังคมได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป โดยขอสนับสนุนและให้กำลังใจกับคณะกรรมการแพทยสภา ขอให้ท่านกรรมการแพทยสภาทุกท่าน ได้โปรดเข้าร่วมประชุม และละเว้นการงดออกเสียง โดยร่วมกันยืนยันมติของแพทยสภาเดิม เพราะเป็นสิ่งที่มีความชอบธรรม ถูกต้อง เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เพื่อเป็นการยืนยันถึงหลักการขององค์กรหรือสภาวิชาชีพ ที่นักการเมืองหรือเรื่องของทางการเมืองไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้อง ควรให้เป็นเรื่องอิสระของวิชาชีพที่จะตรวจสอบกันเองต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มแพทย์จุฬาฯ ออกมาแถลงการณ์แล้ว 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ 26 ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 สนับสนุนมติแพทยสภา และ รุ่นที่ 27 ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 สนับสนุนมติแพทยสภาเช่นกัน รวมไปถึงแถลงการณ์จากแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ด้วย

@ เสนอแพทย์ร่วมวิชาชีพ ลงรายชื่อถอดถอน 'สมศักดิ์' ออกจาก รมว.
ขณะที่ ผศ.นพ.ประยงค์ เต็มชวาลา อดีตนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ปี พ.ศ.2516 ออกแถลงการณ์ถึง “ประชาคมแพทย์” ทั่วประเทศ กรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ 'วีโต้' ไม่เห็นด้วยกับมติแพทยสภาที่เสนอลงโทษแพทย์ 3 คน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณ ชินวัตร 'กรณีชั้น 14' เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2568 ใจความระบุว่า
ผมขอขอบคุณท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านสร้างปรากฏการณ์แห่งความสามัคคีในหมู่มวลแพทย์ทั้งประเทศให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีกัน อีกครั้งหนึ่ง (อย่างไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ในช่วงเวลาที่ผ่านมา)
ขอบคุณท่านที่ปลุกพวกเราเหล่าแพทย์ที่แทบไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเหตุบ้านการเมือง หรือแม้การประชุมของแพทยสภาเท่าใดนัก
ด้วยสถานการณ์เวลานี้ ฝ่ายการเมืองได้วีโต้ มติของแพทยสภา (evidence based ได้แก่ ทักษิณ discredited องค์กรแพทยสภา, รัฐมนตรีสมศักดิ์ให้ข้อมูลแก่สาธารณะ ว่า ได้รับข้อมูลจากแพทยสภาไม่ครบ) ไปเรียบร้อย
คำถามคือ เราต้องการเห็นอะไรในบ้านเมืองนับต่อจากวันนี้
ผมใคร่ขอเสนอว่าแพทย์เราน่าจะต้องเตรียมหามาตรการ ที่จะเป็นแนวทางต่อสู้กับฝ่ายการเมืองนี้โดยเร่งด่วนที่สุด และการเปลี่ยนแปลงนี้ ต้องเป็นไปอย่าง radical change ที่เปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน
โดยมีข้อเสนอ ดังนี้
-
กระตุ้น และเชิญชวนแพทย์ที่เป็นกรรมการแพทยสภา(ทั้งที่มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง)ให้เข้าร่วมประชุมกรรมการแพทยสภา เพื่อให้ครบองค์ประชุมและมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ขององค์ประชุม คือไม่น้อยกว่า 47 คน เพื่อมีมติยืนยันมติของแพทยสภาอีกรอบ
-
ขอความร่วมมือ และรวบรวมรายชื่อแพทย์ และพี่น้องประชาชน เพื่อถอดถอนรัฐมนตรีสมศักดิ์และพลพรรค ที่วีโต้มติของแพทยสภา อันเป็นการทำให้เกียรติยศและศักดิ์ศรีขององค์กรแพทยสภาเสียหาย หรือลดต่ำลง
-
รวมพลังร่วมกับพี่น้องประชาชนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง และโค่นล้มรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง (ที่นำโดยลูกสาวของทักษิณ ชินวัตร)นี้อย่างเร็วที่สุด
-
ศึกษา วิเคราะห์ และถอดบทเรียน การเมืองการปกครองที่เป็นผลมาจากระบบการเลือกตั้ง (ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ที่ผ่านมา) เพื่อให้เกิดต้นแบบที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย
-
ร่วมด้วยช่วยกัน แบ่งปันบทความนี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม
อนาคตของประเทศไทยอยู่ในมือทุกท่าน สร้างการเปลี่ยนแปลงในวันนี้ “ก่อน” จะไม่มีโอกาสที่จะทำได้
ด้วยความรักต่อประเทศที่เป็นแผ่นดินเกิด มาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกันอีกครั้งให้กับหน้าประวัติศาตร์ของชาติไทยในวิกฤตการณ์ครั้งนี้ เปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาส
ธำรงไว้ซึ่งองค์กรแพทยสภา ที่เป็นศูนย์รวมของวิชาชีพแพทย์ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งแพทย์ทุกคนต่างมีปรัชญาที่ยึดมั่นในจริยธรรมและจรรยบรรณแพทย์ในตลอดชีวิตการทำงานโดยยึดโอวาทของสมเด็จพระราชบิดาที่ว่า “ขอให้ยึดประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่หนึ่ง”
ฉะนั้น แพทย์เราจึงคาดหวังว่าองค์กรแพทยสภา จะเป็นสถาบันหลักที่จะอยู่พิทักษ์รักษาคุณธรรมจริยธรรมของสังคมไทย และสมควรที่จะเป็นสถาบันลำดับท้ายๆที่จะผดุงรักษาความยุติธรรมถูกต้องของชาติและสังคมไทยอย่างจริงจังต่อเนื่องต่อไป

ผศ.นพ.ประยงค์ เต็มชวาลา
@ ยันแพทยสภาส่งเอกสารให้สภานายกพิเศษครบแล้ว
ด้าน ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ สาขานิติเวชวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยาคณะแพทย์ศาสตร์ รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และกรรมการแพทยสภา โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณี แพทยสภาส่งเอกสารให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะสภานายกพิเศษ ไม่ครบ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 ระบุว่า ขออธิบายสักเรื่องหนึ่งที่เป็นข่าวอยู่ช่วงนี้ แล้วทำให้คนเข้าใจผิดแพทยสภา แพทยสภาส่งเอกสารให้สภานายกพิเศษไม่ครบ?
คำตอบ ไม่จริง แพทยสภาได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับมติแพทยสภาที่รวมขั้นตอนตั้งแต่ผู้ร้องทำการร้อง หลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมมาได้ ความเห็นอนุกรรมการจริยธรรม ความเห็นอนุกรรมการสอบสวน ความเห็นอนุกรรมการกลั่นกรอง และความเห็นคณะกรรมการแพทยสภาเอง มีจำนวน 95 หน้า รวมทั้งยังให้เอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับคดี เช่น เวชระเบียน คำให้การ อีก 1500 กว่าหน้า ดังนั้นให้ข้อมูลไปครบแล้ว
แต่ทีมที่แต่งตั้งโดยสภานายกพิเศษกลับขอรายชื่ออนุกรรมการกลั่นกรอง กับรายงานการประชุมของอนุกรรมการกลั่นกรอง เพิ่มเติม
แพทยสภาจึงไม่ให้ เพราะไม่เกี่ยวกับส่วนของมติกรรมการแพทยสภา และไม่เข้าใจเหตุผลว่าต้องการไปเพื่ออะไร เพราะก็มีความเห็นของอนุกรรมการกลั่นกรองระบุในมติ 95 หน้าที่ส่งให้ไปแล้ว
ทั้งนี้อนุกรรมการกลั่นกรอง ไม่มีอยู่ใน พรบ. วิชาชีพเวชกรรม แต่มีข้อบังคับแพทยสภาให้มีขึ้นมา เพื่อช่วยแพทยสภาในการตรวจสอบคดี ก่อนที่แพทยสภาจะมีมติ แต่สุดท้ายแพทยสภาก็เป็นผู้ชี้ขาดอยู่ดี
แล้วเอาจริงๆ ถ้าคิดถึงเรื่องการมีมติลงโทษหรือไม่ลงโทษแพทย์ที่ถูกร้อง ควรเน้นที่ความเห็นของแพทยสภากับหลักฐานในคดีที่แพทยสภาใช้ประกอบความเห็นเท่านั้น เพราะแพทยสภาเป็นผู้ชี้ขาด ไม่ว่าอนุกรรมการไหนจะมีความเห็นอย่างไรก็ตาม
ดังนั้น ถ้าท้วงติงหรือขอข้อมูลเพิ่มเติม ควรดูถึงหรือขอหลักฐานที่แพทยสภาใช้ในการตัดสิน มากกว่ามาบอกว่า แพทยสภาส่งเอกสารไม่ครบ

ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์
@ สังคมฝากความหวัง แพทยสภา
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า วันนี้มาถึงจุดที่คนจำนวนมากหลายสิบคนต้องเดือดร้อนจากการช่วยเหลือนักโทษคนหนึ่งให้ไม่ต้องลำบากอยู่ในเรือนจำ ในอดีต หากใครมีอำนาจ การทำเรื่องราวดังกล่าวไม่ใช่เรื่องยาก เพราะกลไกต่างๆ ในระบบราชการที่อยู่ภายใต้เขา อาจหลับหูหลับตาช่วยเหลือ โดยคิดว่าอำนาจที่เขามีอยู่จะช่วยค้ำจุนและปกป้อง แต่วันนี้ไม่ใช่ พลังสังคมและพลังแห่งวิชาชีพ กลับตรงไปตรงมาและยิ่งใหญ่กว่า เราจึงเห็นการก่นด่าในช่องทางสื่อสังคม เห็นการสนับสนุนจากบุคคลในวิชาชีพต่างๆ รวมถึงบรรดาแพทย์อาวุโส ที่ให้กำลังใจต่อแพทยสภาที่กล้าตัดสินอย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยกลัวอำนาจทางการเมือง
ต่อจากนี้ คือการพิสูจน์ว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความถูกต้อง ความเสมอภาคภายใต้การบังคับใช้กฎหมายในบ้านเมืองนี้ อะไรจะเป็นฝ่ายชนะ
วันนี้ สังคมฝากความหวังไว้ที่แพทยสภา และอยากบอกว่าสิ่งที่ท่านต่อสู้ ไม่ใช่เพียงเพื่อความถูกต้องในวิชาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นการต่อสู้เพื่อความถูกต้องของหลักนิติธรรมในแผ่นดินนี้ด้วย ท่านไม่ได้ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวแน่นอน
@ วีโต้มติแพทยสภา ขบวนการปกป้องทักษิณ
ในส่วนทางด้านการเมือง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวว่า ในเชิงข้อเท็จจริงนายสมศักดิ์ควรจะต้องนำข้อเท็จจริงทางการแพทย์มาพิจารณาดู การที่แพทยสภาออกมาชี้ค่อนข้างชัดว่า ไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต ก็สมควรที่จะจบแล้ว ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดในสภาว่า ถึงที่สุดก็ให้แพทยสภาเป็นคนตัดสิน ฉะนั้น เมื่อไม่วิกฤต ความจำเป็นที่นายทักษิณจะต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป ก็จบแล้ว
"นั่นหมายความว่า กระบวนการทั้งหมด ที่มีการนำนายทักษิณไปอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นเรื่องของการช่วยเหลือกัน เพื่อทำให้นายทักษิณไม่ติดคุก แต่ให้ไปอยู่สบายๆ ยังไม่นับ ข้อเท็จจริง ที่ห้องพยาบาล อาจจะเรียกว่า หรูหราเกินความจำเป็น ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า นายทักษิณได้รับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าคนอื่น" นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ส่วนในแง่ของการที่จะลงโทษคนที่เกี่ยวข้องนั้น คนที่เป็นหมอ ก็คงจะอยู่ในกระบวนการว่า ทางแพทยสภาจะยืนยันกลับไปอีกครั้งหรือไม่ ภายหลังจากที่นายสมศักดิ์วีโต้กลับมา ตนไม่สามารถทำนายล่วงหน้าได้ แต่หวังว่าแพทยสภาจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยยึดเอาพยานหลักฐาน สิ่งที่เถียงไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องของความเห็น และคิดไปถึงมาตรฐานในอนาคต ว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ วันนี้มีนายทักษิณนอนอยู่ที่ชั้น 14 วันต่อไปจะเป็นใคร ต่อไปนี้หมอสามารถรับงานแบบนี้โดยที่ไม่สนใจกระบวนการยุติธรรม และเรื่องของวิชาชีพ ไปช่วยคนดัง คนมีอำนาจ ประเทศไทยจะอยู่กันอย่างไร
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องความสง่างามของนายสมศักดิ์ ที่ใช้กระบวนการวีโต้กลับมา เราทุกคนทราบว่า นายสมศักดิ์อยู่พรรคอะไร นายทักษิณมีอำนาจ มีอิทธิพลต่อใคร และเป็นพ่อของนายกรัฐมนตรี ก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติม ให้กรณีชั้น 14 เป็นเรื่องของการช่วยเหลือพวกพ้อง ต้องยอมรับว่ากระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ ไม่อายฟ้าดิน ไม่ได้สนใจว่าประชาชนจะมองต่อปรากฏการณ์นี้อย่างไร และทำให้เกิดมาตรฐานที่เลวร้ายต่อไปเรื่อยๆ
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ลำพังในอดีตที่มีนักโทษอภิสิทธิชนก็แย่พอแล้ว วันนี้เรามาเจอนักโทษเทวดาในรูปแบบกระบวนการยุติธรรมของเรามันเหลือจะทน เราคงไปหวังพึ่งนายสมศักดิ์ไม่ได้แล้ว หากจะให้พูดง่ายๆ นายสมศักดิ์มีหน้าที่ปกป้องนายใหญ่
ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็คงต้องติดตาม ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการของศาล หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หวังว่า จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ทำหน้าที่จนนำไปสู่การมีข้อครหา ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า รู้สึกว่า กระบวนการของ ป.ป.ช.ช้ามากเหลือเกิน นายกรัฐมนตรี ควรจะไปให้การได้แล้ว และควรมีการเรียกนายทักษิณเข้าไปให้การได้แล้ว ตนมองว่า กระบวนการเร็วกว่านี้ได้ แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าเท่าไหร่
ส่วนทิศทางคณะกรรมการสภานายกพิเศษ จะลงมติไปในทางเดียวกัน เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เสียงถึง 48 เสียง ในการวีโต้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถทำนายได้ แต่หวังว่าสิ่งที่แพทยสภาจะทำ เป็นสิ่งที่สังคมไทยจับตามอง หากสุดท้ายกลายเป็นกระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ สังคมไทยจะหมดศรัทธาในหมอไปมาก
“กรณีของนายทักษิณ ชัดยิ่งกว่าชัด พฤติกรรมของนายทักษิณ ตั้งแต่ที่ก่อนจะกลับมาประเทศไทย ถ้าจำกันได้ คุณอุ๊งอิ๊งค์ พูดชัดเจนว่า พ่อสบายดี มาถึงสนามบินก็ยิ้มแย้มแจ่มใส สามารถอุ้มหลานได้ ผ่านไป 10 ชั่วโมงในเรือนจำ นายทักษิณกลายเป็นคนที่ป่วยปางตาย ผมว่ามันไม่เมคเซนส์ ยังไม่รวมข้อเท็จจริง เรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือ ทุกองค์กรควรรู้ว่า การทำหน้าที่ของตนเอง นำมาซึ่งศรัทธาประชาชน” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวว่า วันนี้ในหลายภาคส่วน ก็ต้องยอมรับเรื่องปัญหาคอร์รัปชัน ความไร้ประสิทธิภาพของการบังคับใช้กฎหมาย ประชาชนสูญสิ้นศรัทธาไปเยอะแล้ว เราหวังว่าหมอจะไม่ถูกนับรวมไปด้วย
นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนการวีโต้ในครั้งนี้ จะทำให้น้ำหนักในการนำไปเป็นพยานหลักฐานคดี ซึ่งจะมีการตัดสินในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ หรือไม่ นายรังสิมันต์ ระบุว่า ตอบไม่ได้ ต้องไปดูในรายละเอียด นายสมศักดิ์ ก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเนื้อหาสาระของการวีโต้ ตนจึงตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วจะส่งผลอย่างไร แต่ก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ในเมื่อข้อเท็จจริงชัดว่า นายทักษิณป่วยวิกฤติเป็นเรื่องเท็จ คงต้องรอดู หากนายสมศักดิ์ไม่ดำเนินการในการให้รายละเอียด คงต้องพิจารณาว่า คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนเป็นประธาน จะมีการพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่
ทั้งนี้ จะต้องติดตามต่อไปว่า มติบอร์ดแพทยสภา ซึ่งจะมีการจัดประชุมขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.2568 ผลจะเป็นอย่างไร

นายรังสิมันต์ โรม
อ่านประกอบ :
- คดีทักษิณ ชั้น 14! แพทยสภา สั่งลงโทษ 3 หมอ ตักเตือน 1 พักใบอนุญาต 2
- 6 รายอยู่ในข่าย? เช็กชื่อ '3 หมอ' แพทยสภา สั่งลงโทษคดี 'ทักษิณ' ชั้น 14
- เปิดชื่อ 3 หมอ 'รวมทิพย์-โสภณรัชต์-ทวีศิลป์' โดนแพทยสภา สั่งลงโทษคดีทักษิณ ชั้น 14
- วัดกึ๋น 'สมศักดิ์ เทพสุทิน’ ใช้อำนาจวีโต้มติเอกฉันท์แพทยสภา ลงโทษ 3 หมอ คดีทักษิณชั้น14
- เปิดผลสอบแพทยสภา พักใบอนุญาต 2 หมอ 3/6 ด.- ทักษิณ ผ่าตัด 2 ครั้ง 'แก้นิ้วล็อก-ไหล่'
- แพทยสภา ลงนามรับรองครบถ้วน! ผลสอบ '3 หมอ' คดี ทักษิณ ชั้น 14 ถึงมือ 'สมศักดิ์' แล้ว
- ย้อนหลักฐานคลิปสัมภาษณ์อดีตแพทย์ใหญ่ รพ.ตร. ชนวนพักใบอนุญาต 3 ด.-ยัน'ทักษิณ' อาการหนัก
- เช็กชื่อ '70 กรรมการ' แพทยสภารับมือ 'สมศักดิ์' วีโต้มติลงโทษ 3 หมอ คดี 'ทักษิณ' ชั้น14
- สภานายกพิเศษถกมติลงโทษ 3 หมอ คดี'ทักษิณ'ชั้น 14 ชี้ยังขาดข้อมูล จี้แพทยสภาส่งเพิ่ม
- แพทยสภา ปัดส่งคำสั่งแต่งตั้ง อนุ กก.กลั่นกรองให้ ‘สมศักดิ์‘ - ยันครบถ้วนตาม กม.แล้ว
- ไม่มีผล! 'ธนกฤต' ยันต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จใน 15 วัน แม้แพทยสภาไม่ส่งเอกสารเพิ่ม
- ล้วงลึก บอร์ดเสนอความเห็น ‘สภานายกพิเศษ’-‘ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์’ : ใครก็กดดันผมไม่ได้
- 'กก.ชุดสมศักดิ์'นัดส่งความเห็นถกมติแพทยสภา 27 พ.ค.นี้-'ธนกฤต'ชี้ได้เอกสารไม่ครบ
- ‘สมศักดิ์’ กังขาอนุฯจริยธรรมฟัน 3 หมอก่อนแพทยสภาชุดใหญ่ โยน กก.เสนอเห็นพิจารณาวีโต้
- กก.ทีมสมศักดิ์ สรุปความเห็นมติลงโทษ 3 หมอ ยื่นสภานายกพิเศษฯ เผยไม่มีผลต่อคดีทักษิณชั้น 14
- สมศักดิ์ 'วีโต้' ทุกราย! บทลงโทษ 3 หมอ กรณี 'ทักษิณ' ชั้น 14 ส่งความเห็นให้แพทยสภาแล้ว
- ล้วงความเห็น 'สมศักดิ์' วีโต้บทลงโทษ 3 หมอ-ยัน แพทย์ใหญ่รพ.ตร.ไม่ผิดใส่ใจดูแลผู้ป่วย
- ฉบับเต็ม! 'สมศักดิ์' วีโต้มติแพทยสภากรณี 3 หมอ ชั้น 14 'ไม่ผิด-โทษหนักเกินไป'
- โฆษก สธ.ชี้คนวิจารณ์‘สมศักดิ์’ ปมวีโต้มติแพทยสภา เป็นพวกอาฆาตแค้น 'ทักษิณ'
- Mission: Impossible ผ่าภารกิจ 'สมศักดิ์' วีโต้แพทยสภา 'ทักษิณ' ได้ปย.คดีติดคุกทิพย์ ?
- ตรรกะวิบัติ? ของ'สมศักดิ์ เทพสุทิน'
- ตรรกะวิบัติ? ของ'สมศักดิ์ เทพสุทิน'(2) ตัวอย่างการลงโทษแพทย์ที่ออกใบรับรองเท็จ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา