"...ในเวลาที่ประชาชนกำลังทยอยมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยนาฬิกาของหน่วยเลือกตั้งบอกเวลา 11.13 น. สุภาพสตรี 1 ใน 3 คนนั้น ได้เข้าไปที่บริเวณที่ตั้งคูหาลงคะแนน โดยไม่เพียงแต่เข้าไปในบริเวณพื้นที่หวงห้ามสูงสุดเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสกับคูหาลงคะแนนในลักษณะหย่อนมือเข้าไปในคูหา โดยภาพถ่ายปรากฏให้เห็นส่วนของแขนซ้ายพาดอยู่บนผนังของคูหาลงคะแนน โดยแขนซ้ายบางส่วนตั้งแต่ใต้ข้อศอกลงไปพร้อมกับมือหายเข้าไปอยู่ในคูหาลงคะแนน..."
กรณีปรากฏข้อพิรุธการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีของเทศบาลปริศนาแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดเสี่ยงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นข้อผิดพลาดหรือเจตนาทำให้การลงคะแนนไม่เป็นความลับ เพื่อช่วยเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งบางรายที่ไม่สุจริตสามารถควบคุมการลงคะแนนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้นั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข้อมูลไปแล้วว่า
ข้อพิรุธที่หนึ่ง
เป็นกรณีมีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เข้าไปนั่งอยู่ด้านหลังคูหาลงคะแนนเยื้องไปทางด้านซ้ายของผู้ลงคะแนน ซึ่งสามารถมองเข้าไปในคูหาเห็นการกากบาทบัตรเลือกตั้งโดยไม่ถูกบังด้วยลำตัวของผู้ลงคะแนน
ข้อพิรุธที่สอง
เป็นกรณี กกต.ท้องถิ่น เข้าตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งในวันเลือกตั้งที่ 11 พฤษภาคม ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ประชาชนกำลังทยอยมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดย กกต.ท้องถิ่นได้นำเอาบุคคลอื่นจำนวน 3 ราย ที่ไม่ได้เป็นกรรมการเข้าไปในที่เลือกตั้งพร้อมกันด้วย โดยเข้าไปในที่เลือกตั้งของทุกหน่วยเลือกตั้งที่มีอยู่ทั้งหมด 8 หน่วยเลือกตั้ง บางรายเข้าไปถึงบริเวณที่ตั้งคูหาลงคะแนน และมีการเอามือล้วงเข้าไปในคูหาลงคะแนนด้วย
เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ได้พยายามติดต่อไปยัง กกต.ลำปาง เพื่อขอให้ผู้บริหารชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่ยังไม่ได้รับคำชี้แจง
เจ้าหน้าที่ กกต.ลำปาง รายหนึ่ง ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลผู้สื่อข่าว ระบุแค่เพียงว่า "เรื่องนี้อยู่ระหว่างดำเนินดำเนินคดี ยังเปิดเผยข้อมูลไม่ได้"
- จับพิรุธ! เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล จ.ลำปาง จัด กปน.นั่งหลังคูหามองเห็น ปชช.กาบัตร
- บรรยายชัดๆ พิรุธ กปน.นั่งหลังคูหามองเห็น ปชช.กาบัตร เลือกตั้งสภาเทศบาลปริศนาลำปาง
- พิรุธใหม่! เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล จ.ลำปาง มีพาคนนอกเข้าสถานที่ เอามือล้วงคูหาด้วย
โฟกัสข้อพิรุธที่สอง กรณี กกต.ท้องถิ่นนำเอาบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นกรรมการเข้าไปในที่เลือกตั้ง บางรายเข้าไปถึงบริเวณที่ตั้งคูหาลงคะแนน และมีการเอามือล้วงเข้าไปในคูหาลงคะแนนด้วย
สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลพร้อมภาพถ่ายหลักฐานว่า มี 2 เหตุการณ์ต่อเนื่องกันดังนี้
เหตุการณ์แรก
กกต.ท้องถิ่นอนุญาตให้ผู้ที่ไม่ใช่กรรมการซึ่งไม่มีสิทธิเข้าไปในที่เลือกตั้งให้เข้าไปได้ ในทุกหน่วยเลือกตั้งที่มีอยู่ทั้งหมด 8 หน่วยเลือกตั้ง มีภาพถ่ายจำนวนหลายภาพปรากฏสุภาพสตรีใส่เครื่องแบบข้าราชการสีกากี 3 คน อยู่ในที่เลือกตั้ง ในขณะที่ กกต.ท้องถิ่น ตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งของทุกหน่วยเลือกตั้ง บางภาพเป็นการตั้งใจยืนเรียงแถวหน้ากระดานถ่ายรูปร่วมกัน ระหว่าง กกต.ท้องถิ่น และ กปน.กับสุภาพสตรี 3 คนนี้ บางภาพเป็นการยืนอยู่กับ กปน.และใช้ปากกาเขียนบางอย่างลงในเอกสาร บางภาพเป็นการยืนพูดคุยกับ กปน. บางภาพยกมือไหว้สวัสดี บางภาพยืนอยู่ที่คูหาลงคะแนน ภาพทั้งหมดอยู่ในบริเวณที่เลือกตั้ง ปรากฏให้เห็นคูหาลงคะแนน หีบบัตรเลือกตั้ง โต๊ะเก้าอี้ที่มี กปน.นั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเวลานั้น
โดยสุภาพสตรีที่ใส่ชุดสีกากี 3 คน ไม่ได้มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือกรรมการในคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และไม่ได้เป็นผู้ที่ได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการเลือกตั้งจากส่วนกลาง ที่จะสามารถเข้าไปเพื่อทำการสอดส่องดูแลหรือแนะนำการปฏิบัติการเลือกตั้งได้เช่นเดียวกับ ผู้อำนวยการ กกต.และ กกต.ท้องถิ่น ตามระเบียบ กกต.ข้อ 155 วรรคสอง
เมื่อเข้าไปดูเว็ปไซด์ของเทศบาลแห่งนี้ ปรากฎว่าสุภาพสตรี 3 คนนี้ เป็นพนักงานเทศบาลในระดับหัวหน้าสำนัก, หัวหน้าฝ่าย และพนักงานระดับปฏิบัติการ ซึ่งทั้งหมดเป็นพนักงานเทศบาลที่มีสถานะเป็นข้าราชการของท้องถิ่นซึ่งจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่ได้ โดยจะเป็นได้เพียงเลขานุการหรือผู้ช่วยเลขานุการของ กกต.ท้องถิ่น หรือเป็นผู้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น จัดส่งมาช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับ ผู้อำนวยการ กกต.ท้องถิ่น และ กกต.ท้องถิ่น ตาม พรบ.เลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 30 เท่านั้น โดยไม่ใช่ผู้มีสิทธิเข้าไปในที่เลือกตั้งได้ ตามระเบียบ กกต.ข้อดังกล่าว
เหตุการณ์ต่อมา
อาจมีความรุนแรงยิ่งกว่าเหตุการณ์แรก คือ ในเวลาที่ประชาชนกำลังทยอยมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยนาฬิกาของหน่วยเลือกตั้งบอกเวลา 11.13 น. สุภาพสตรี 1 ใน 3 คนนั้น ได้เข้าไปที่บริเวณที่ตั้งคูหาลงคะแนน โดยไม่เพียงแต่เข้าไปในบริเวณพื้นที่หวงห้ามสูงสุดเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสกับคูหาลงคะแนนในลักษณะหย่อนมือเข้าไปในคูหา โดยภาพถ่ายปรากฏให้เห็นส่วนของแขนซ้ายพาดอยู่บนผนังของคูหาลงคะแนน โดยแขนซ้ายบางส่วนตั้งแต่ใต้ข้อศอกลงไปพร้อมกับมือหายเข้าไปอยู่ในคูหาลงคะแนน โดยหันหน้าไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นกิริยาอาการของการแอบล้วงเอาสิ่งของหรือหย่อนสิ่งของเข้าไปในคูหา แต่ก็อาจเป็นเพียงการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่ต้องการหาที่วางแขนที่ใกล้ที่สุดซึ่งพอดียืนอยู่ใกล้กับคูหาลงคะแนนที่ว่าง ๆ อยู่ เพราะไม่มีผู้กำลังใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนอยู่ในคูหาขณะนั้น จึงใช้คูหาเป็นที่วางแขนชั่วคราวแต่เผลอเรอยื่นมือและแขนบางส่วนเข้าไปในคูหาเท่านั้นก็ได้ โดยขณะเกิดเหตุการณ์ กกต.ท้องถิ่น ก็อยู่ใกล้เคียงกันในที่นั้น
ขณะที่ ระเบียบ กกต.ข้อ 155 วรรคหนึ่ง กำหนดไว้โดยเคร่งครัดว่า ในระหว่างเวลาเปิดการออกเสียงลงคะแนน จะให้ผู้ใดเข้าไปในที่เลือกตั้งไม่ได้ เว้นแต่ผู้มีหน้าที่ในการเลือกตั้ง “โดยเฉพาะบริเวณที่ตั้งคูหาลงคะแนน” นอกจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าไปเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว “ผู้ใด” จะเข้าไปไม่ได้ โดยผู้ใดหมายถึงทุก ๆ คน ไม่ว่าเป็นใคร แม้จะเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งสูงสุดในจังหวัดคือผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งก็ตาม ไม่ให้เข้าไปบริเวณที่ตั้งคูหาลงคะแนน นอกจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าไปเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งเท่านั้น แต่มีข้อยกเว้นเฉพาะกรณีที่จำเป็นซึ่งจะต้องทำบันทึกเหตุผลความจำเป็นไว้ในรายงานเหตุการณ์ประจำที่เลือกตั้ง แต่จากภาพถ่ายไม่ได้แสดงถึงความจำเป็น ดังนั้นการกระทำตามภาพถ่าย จึงอาจไม่ถูกต้องตามระเบียบ กกต.และเป็นการกระทำภายใต้การอนุญาตและการรับรู้ของ กกต.ท้องถิ่น
ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ตามที่สำนักข่าวอิศรา นำเสนอข้อมูลไปแล้ว จึงเป็นข้อพิรุธประการหนึ่งว่า การเลือกตั้งของเทศบาลปริศนาแห่งนี้จะสุจริตและเที่ยงธรรมอย่างแท้จริง หรือไม่
ปัจจุบัน กกต.ลำปาง และกกต. ส่วนกลาง ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นทางการต่อสาธารณชนแต่อย่างใด