7 พ.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมใจกันลงพื้นที่ โดยภารกิจหลักๆ คือ การไปแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า คือ หยุดการโจมตีเป้าหมายอ่อนแอ-เปราะบาง โดยเฉพาะประชาชนผู้บริสุทธิ์
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะกลางและระยะยาว มีการเสนอให้เร่งเปิดโต๊ะพูดคุยเจรจา ซึ่งแม้หลายฝ่ายจะเห็นตรงกัน แต่ดูเหมือน “ฝ่ายเราเอง” คือ “ฝ่ายรัฐไทย” จะยังไม่ค่อยเป็นเอกภาพเท่าที่ควร
“ทีมข่าวอิศรา” ถอดรหัสคำสัมภาษณ์ของผู้เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายมานำเสนอ
@@ ตรวจแถว “ฝ่ายไทย” เอกภาพอยู่ไหน ดับไฟความรุนแรง
นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ตอบคำถามนักข่าวเรื่องกระแสเรียกร้องให้เจรจากับตัวจริง หรือผู้นำจิตวิญญาณของ BRN ว่า ได้ประสานกับทางผู้อำนวยการสะดวก คือ มาเลเซียไปแล้ว เพื่อให้ติดต่อกับผู้ที่จะเข้ามาพูดคุย
ขณะที่ รองนายกฯภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่า ยินดีจะเจรจาพูดคุยภายใต้รัฐธรรมนูญไทย โดยรัฐไทยเป็นรัฐเดี่ยว แบ่งแยกไม่ได้ ดังนั้นการเจรจาเพื่อเป็นรัฐปาตานี หรือรัฐอะไรก็ตาม เราไม่พร้อมเจรจาด้วย แต่ถ้ายึดหลักที่ได้บอกไป ไม่แบ่งแยกเป็นรัฐอิสระ ไม่ดำเนินการนอกรัฐธรรมนูญไทย ก็มาคุยกันว่าจะเอาแบบไหน ได้ให้เงื่อนไขกับผู้อำนวยความสะดวกไปแล้ว
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตเลขาธิการ ศอ.บต. บอกว่า “การเจรจาก็เป็นกุศโลบายหนึ่ง เพราะเราต้องยอมรับว่าคนที่ก่อเหตุเป็นคนไทยด้วยกัน ดังนั้นควรหันหน้ามาคุยกัน”
นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญสันติภาพชายแดนใต้ บอกเอาไว้น่าสนใจ
“การพูดคุยเป็นประโยชน์ เปิดโอกาสให้กับผู้ขัดแย้งกับรัฐได้หาทางออกโดยสันติวิธี แต่จะมีผลแค่ไหนหรือ แก้ปัญหาได้หรือไม่จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
นายรอมฏอน ปันจอร์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน บอกว่า “ต้องขีดเส้นใต้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในประเทศเรา ต้องริเริ่มด้วยตนเอง ไม่ใช่ให้ BRN หรือมาเลเซีย เป็นผู้กำหนดการพูดคุยหรือการทูต”
จะเห็นได้ว่า ความเห็นของแต่ละคนยังมีความต่างในรายละเอียด ฉะนั้นรัฐบาลต้องรีบประมวล และตกผลึกเป็นยุทธศาสตร์ เพื่อกำหนดทิศทางให้ได้โดยเร็ว
@@ ปธ.พูโล ย้อนเกล็ดเจรจา ไทยไม่จริงจัง หวังแต่ข้อมูล
ฟัง “ฝ่ายเรากันเอง” ไปแล้ว “ทีมข่าวอิศรา” พาไปฟังความเห็นของ “ฝ่ายที่ต่อสู้กับรัฐไทย” บ้างว่าคิดอย่างไรกับการพูดคุยเจรจา
นายกัสตูรี มาห์โกตา ประธานองค์การพูโล ซึ่งเป็นองค์กรที่ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยปาตานีที่เก่าแก่ที่สุดขบวนการหนึ่ง และตัวนายกัสตูรีก็เคยร่วมโต๊ะพูดคุยเจรจา ทั้งในทางลับ และทางเปิดเผยมาหลายครั้ง
นายกัสตูรี บอกว่า ปัญหาของการพูดคุยเจรจา คือ รัฐไทยไม่จริงจังอะไรเลย เป้าหมายของฝ่ายไทยคือ “แค่อยากจะรู้ว่าใครที่กำลังก่อเหตุอยู่เท่านั้นเอง”
“สิ่งที่รัฐไทยอยากรู้ คือใครที่กำลังระเบิด กำลังยิง เขาหาคนกลุ่มนี้ แต่คนกลุ่มนี้ไม่เปิดตัวเองอยู่แล้ว”
นายกัสตูรี ประธานองค์การพูโล บอกว่า ขบวนการที่เคลื่อนไหวอยู่ มีทั้งพูโล บีอาร์เอ็น บีไอพีพี และอีกหลายองค์กร แต่ละองค์กรมีตัวแทนร่วมกัน เหมือนเป็น “องค์กรร่วม” ซึ่งได้คุยกันหมดแล้ว และได้ข้อตกลงกันแล้วว่า “จะขึ้นโต๊ะเจรจาร่วมกัน”
“พวกเราพร้อมเจรจา แต่ฝ่ายไทยที่ยังเล่นๆ ไม่จริงจัง เพราะฝ่ายไทยแค่อยากรู้ว่าใครเป็นคนก่อเหตุเท่านั้น ความต่างระหว่างพวกเรากับฝ่ายไทย คือ เราอยากคุยเพื่อให้จบปัญหาจริงๆ แต่สิ่งที่รัฐไทยทำคือ แค่อยากให้หยุดยิง หยุดระเบิด ไม่ได้ต้องการแก้ปัญหาจริง ทำให้ระยะหลัง พวกเราก็ไม่ได้อยากพูดคุยอะไรแล้ว ทั้งที่ความจริง ถ้าคุยกับปีกการเมืองของขบวนการจบ กลุ่มที่ก่อเหตุก็จะหยุดเอง”
