
‘พาณิชย์’ เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เม.ย.68 ลดลง 0.22% หดตัวครั้งแรกในรอบ 13 เดือน จากปัจจัย ‘ราคาพลังงาน-อาหารสด’ ลดลง คาด 'เงินเฟ้อ' พ.ค.68 หดตัวต่อเนื่อง
...............................
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า เดือน เม.ย.2568 ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ในเดือน เม.ย.2568 เท่ากับ 100.14 ลดลง 0.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงครั้งแรกในรอบ 13 เดือน โดยปัจจัยหลักมาจากการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ น้ำมันเบนซิน และค่ากระแสไฟฟ้า ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก และมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ
ประกอบกับมีการลดลงของราคาผักสด และไข่ไก่ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนน้อยกว่าปีก่อน ขณะที่ราคาสินค้าอาหารบางชนิดปรับตัวสูงขึ้น อาทิ เนื้อสุกร อาหารสำเร็จรูป และเครื่องประกอบอาหาร สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเป็นรายหมวดสินค้าในเดือน เม.ย.2568 พบว่า หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ขยายตัว 1.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการสูงขึ้นของสินค้าสำคัญ เช่น เนื้อสุกร ปลานิล ปลาทู และกาแฟผงสำเร็จรูป เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง เช่น ไข่ไก่ มะนาว ถั่วฝักยาว ผักชี แตงกวา พริกสด และส้มเขียวหวาน เป็นต้น
ขณะที่หมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม หดตัว 1.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ เช่น แก๊สโซฮอล์ ค่ากระแสไฟฟ้า แชมพู สบู่ถูตัว และผลิตภัณฑ์ซักผ้า เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น เช่น น้ำมันดีเซล ค่าเช่าบ้าน ค่าทัศนาจรต่างประเทศ และค่าแต่งผมบุรุษและสตรี เป็นต้น
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า เมื่อเทียบราคาสินค้าและบริการในเดือน เม.ย.2568 กับช่วงเดียวกันของปีก่อน (เม.ย.2567) พบว่าสินค้าที่ราคาเพิ่มขึ้นมีจำนวน 270 รายการ จากสินค้าทั้งหมด 464 รายการ เช่น เนื้อสุกร ปลานิล ปลาทู กล้วยน้ำว้า กาแฟผงสำเร็จรูป กาแฟ (ร้อน/เย็น) น้ำมันพืช ขนมหวาน ค่าเช่าบ้าน ค่าแต่งผมชาย และน้ำมันเชื้อเพลิง (ดีเซล) เป็นต้น
ส่วนสินค้าที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมี 49 รายการ เช่น ค่าบริการขนขยะ ค่าน้ำประปา ค่าโดยสารเรือ ค่าโดยสารรถประจำทางปรับอากาศชั้น 1 ค่าโดยสารรถไฟ ค่าภาษีรถจักรยานยนต์ประจำปี และค่าใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น ขณะที่สินค้าที่ราคาปรับตัวลดลงมีจำนวน 145 รายการ เช่น ไก่ย่าง ไข่ไก่ มะนาว ถั่วฝักยาว ผักชี แตงกวา พริกสด ส้มเขียวหวาน ผลิตภัณฑ์ซักผ้า สบู่ถูตัว แชมพู ค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง (แก๊สโซฮอล์)
สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 4 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-เม.ย.2568) อยู่ที่ 100.40 ขยายตัว 0.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เดือน เม.ย.2568 เท่ากับ 101.28 ขยายตัว 0.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 4 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-เม.ย.2568) ขยายตัว 0.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายพูนพงษ์ กล่าวถึงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ค.2568 ว่า คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ระดับใกล้เคียงกับเดือน เม.ย.2568 และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อลดลง ได้แก่ 1.ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ และจะส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ภายในประเทศปรับตัวลดลงทิศทางเดียวกัน 2.ภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดราคาค่ากระแสไฟฟ้างวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2568 ลง 17 สตางค์ เหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย
3.ฐานราคาผักสดในปีก่อนหน้าที่อยู่ระดับสูง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ขณะที่ในปี 2568 สภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้น และ 4.การจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ได้แก่ 1.ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศปัจจุบันเท่ากับ 31.94 บาทต่อลิตร ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 2.ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดและเครื่องประกอบอาหารมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อนหน้า เช่น มะพร้าว มะขามเปียก กาแฟ เกลือป่น น้ำมันพืช และเนื้อสุกร เป็นต้น
เมื่อถามว่า หากในเดือน พ.ค.2568 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับตัวลดลงอีก จะถือว่าเข้าสู่ภาวะเงินฝืดหรือไม่ นายพูนพงษ์ กล่าวว่า “อยากให้ไปดูที่ Core CPI เดือน เม.ย.2568 อยู่ที่ 0.98% นั่นหมายถึงว่า เมื่อเราตัดกลุ่มพลังงาน ซึ่งอยู่ในตะกร้าเงินเฟ้อคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 12% จึงยังไม่เกิด (ภาวะเงินฝืด) เพราะน้ำหนักอยู่ที่พลังงานและกลุ่มอาหารสด เช่น เนื้อสุกร ที่ยังราคาสูงขึ้น”
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า สนค.จะมีการปรับลดคาดการณ์ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปี 2568 ใหม่ จากปัจจุบันที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 0.3-1.3% (ค่ากลาง 0.8%) แต่ขอดูตัวเลขในเดือน พ.ค.2568 ก่อน อย่างไรก็ดี คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงไตรมาส 2/2568 จะลดลงในช่วง 0.1-0.2%
อ่านประกอบ :
‘พาณิชย์’เผย‘เงินเฟ้อทั่วไป’ มี.ค. โต 0.84%-จ่อหั่นคาดการณ์ทั้งปี 68 รับ‘ภาษีทรัมป์’
‘ค่าอาหาร-ดีเซล-ค่าไฟ’เพิ่มขึ้น! เงินเฟ้อทั่วไป ก.พ.68 โต 1.08%-เฉลี่ย 2 เดือนแรก 1.2%
ราคา‘น้ำมัน-ผลไม้สด’สูงขึ้น ดัน‘เงินเฟ้อทั่วไป’ ม.ค.68 ขยายตัว 1.32%-Core CPI แตะ 0.83%
‘พาณิชย์’เผย CPI ธ.ค.67 ขยายตัว 1.23% เฉลี่ยทั้งปีโต 0.4%-ขึ้น'ค่าแรง'ไม่กระทบ'เงินเฟ้อ'
'พาณิชย์'เผย'เงินเฟ้อทั่วไป' พ.ย.67 ขยายตัว 0.95%-ทั้งปีไม่เกิน 0.5%-มองปีหน้า 0.3-1.3%
เงินเฟ้อทั่วไป ต.ค.67 ขยายตัว 0.83%-เฉลี่ย 10 เดือน 0.26% 'สนค.'คาดทั้งปีโตไม่เกิน 0.5%
เงินเฟ้อทั่วไป ก.ย.67 โต 0.61% หั่นเป้าทั้งปี 0.2-0.8% เผยแจก‘หมื่น’ไม่กระทบราคาสินค้า
ราคา'ผัก-อาหาร'เพิ่มขึ้น ดันเงินเฟ้อทั่วไป ส.ค.67 ขยายตัว 0.35%-เฉลี่ย 8 เดือนโต 0.15%
เงินเฟ้อทั่วไป ก.ค.67 ขยายตัว 0.83%-‘พาณิชย์’เชื่อ‘ดิจิทัลวอลเลต’ไม่ทำราคาสินค้าขยับขึ้น
‘พาณิชย์’เผย‘เงินเฟ้อทั่วไป’พ.ค.67 ขยายตัว 1.54% สูงสุดในรอบ 13 เดือน-คงเป้าทั้งปี 0-1%
‘พาณิชย์’เผย‘อัตราเงินเฟ้อทั่วไป’ เม.ย.67 ขยายตัว 0.19% พลิกบวกครั้งแรกในรอบ 7 เดือน
‘พาณิชย์’ เผยเงินเฟ้อทั่วไป มี.ค.67 ติดลบ 0.47%-ปรับคาดการณ์ทั้งปีเป็นขยายตัว 0-1%
‘พาณิชย์’เผยเงินเฟ้อทั่วไป ก.พ.67 ติดลบ 0.77% หดตัวเป็นเดือนที่ 5-'Core CPI'ยังโต 0.43%
หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน! ‘พาณิชย์’เผยเงินเฟ้อทั่วไป ม.ค.67 ติดลบ 1.11%-Core CPI บวก 0.52%
หดตัวเดือนที่ 3! เงินเฟ้อทั่วไป ธ.ค.66 ลบ 0.83%-‘พาณิชย์’ย้ำยังไม่ถึงจุดเป็นภาวะเงินฝืด
ต่ำสุดรอบ 33 เดือน! เงินเฟ้อทั่วไป พ.ย.66 หด 0.44%-ธ.ค.ส่อลบอีก แต่ไม่เข้านิยาม‘เงินฝืด’
ยันไม่ใช่เงินฝืด! เงินเฟ้อ พ.ย. ลบ 0.31% หดตัวครั้งแรกรอบ 25 เดือน รับอานิสงส์มาตรการรัฐ
