
‘คณะกรรมการวินิจฉัยฯ’ ก.คลัง ร่อนหนังสือซักซ้อมแนวทางจัดซื้อจัดจ้างฯ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ชี้หากยื่น 'รายเดียว' ก็พิจารณาได้
.................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ โดยนางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการวินิจฉัย ได้ทำหนังสือ เรื่อง ซ้อมความเข้าใจการเตรียมการจัดซื้อจัดจ้าง กรณีการดำเนินโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ลงวันที่ 7 ก.ค.2567 ส่งไปถึงปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้ารัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารท้องถิ่น และหัวหน้าหน่วยงานอื่นของรัฐต่างๆ ซึ่งมีเนื้อหาว่า
ตามหนังสือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในคราวการประชุมเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2568 ได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท และให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไป โดยให้ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งองระบบเศรษฐกิจ พ.ศ.2567 รวมทั้งกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด นั้น
คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ โดยใด้มอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 29 วรรคหนึ่ง (3) แห่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ซักซ้อมความเข้าใจการเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 กรณีการดำเนินโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ดังนี้
1.การที่จะถือว่าหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบฯ ข้อ 11 ในกรณีที่เป็นรายจ่ายงบกลางที่หน่วยงานของรัฐได้รับอนุมัติแล้วตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ตามหนังสือที่อ้างถึง 2 ข้อ 2.3 การได้รับอนุมัติแล้วตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณนั้น หมายถึง การได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ดังนั้น กรณีโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว หน่วยรับงบประมาณสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต่อไปได้
2.สำหรับระยะเวลาการเผยแพร่ร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ การเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป และการพิจารณาผลกรณีที่มีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว ในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในปิ้งประมาณ พ.ศ.2568 ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติตามหนังสือที่อ้างถึง 3 (หนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.4/ว 195 ลงวันที่ 20 มี.ค.2568)
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.4/ว 195 ลงวันที่ 20 มี.ค.2568 มีเนื้อหาว่า คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (คณะกรรมการวินิจฉัย) พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การเร่งรัดเบิกจ่ายเงินงบประมาณเกิดความคล่องตัว รวดเร็ว และสอดคล้องกับ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 เรื่อง มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 24 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 29 วรรคหนึ่ง (4) และ (7) แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ยกเว้นการปฏิบัติ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 45 ข้อ 46 ข้อ 51 วรรคหนึ่ง ข้อ 110 วรรคหนึ่ง และข้อ 145 โดยมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
1.การเผยแพร่ร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ จากเดิม “กำหนดให้วงเงินเกิน 500,000 แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท” เป็น “กำหนดให้วงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000,000 บาท ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่จะให้มีการเผยแพร่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการหรือไม่ก็ได้”
2.การเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป ให้ดำเนินการดังนี้
2.1 การซื้อหรือการจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้หน่วยงานของรัฐ ดำเนินการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับการซื้อหรือจ้าง ครั้งหนึ่งซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000,000 บาท ตามระเบียบฯ ข้อ 48 เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงระยะเวลาในการให้ผู้ประกอบการเตรียมการจัดทำเอกสาร เพื่อยื่นข้อเสนอ สำหรับการซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 100,000,000 บาท ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 20 วันทำการ
2.2 การจ้างที่ปรึกษา และการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง โดยวิธีประกาศ เชิญชวนทั่วไป ให้หน่วยงานของรัฐเผยแพร่ประกาศและเอกสารการจ้างที่ปรึกษา และเผยแพร่ประกาศ และเอกสารการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ
3.การพิจารณาผลกรณีที่มีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว หรือมีผู้ยื่นข้อเสนอหลายราย แต่ถูกต้องตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เพียงรายเดียว ให้คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคอิเล็กทรอนิกส์ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 56 วรรคหนึ่ง ต่อไป
อนึ่ง ระยะเวลาการดำเนินการตามข้อ 1 และ 2 ให้ใช้กับการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป สำหรับเงินงบประมาณตามนิยามนัยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติฯ ที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เท่านั้น จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจ้งให้หน่วยงานในสังกัดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป
อ่านเอกสารเพิ่มเติม : ข้อเสนอโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท
อ่านประกอบ :
เจาะแผนขับเคลื่อนศก.(จบ) จัดสรร 1 หมื่นล.ปล่อยกู้ส่งเสริม'จ้างงาน'-ทำ‘Super App’150 ล้าน
เจาะแผนขับเคลื่อนศก.(3) จัดสรร'ททท.'2.2 พันล.พีอาร์ท่องเที่ยว เทงบ'ซ่อมถนน-สร้างห้องน้ำ'
เจาะแผนขับเคลื่อนศก.(2) ‘งบคมนาคม’4.5 หมื่นล.‘ทล.-ทช.’ปูพรมซ่อม‘ถนน’-เน้นไม่เกิน 20 ล้าน
เจาะแผนขับเคลื่อนศก.(1)‘งบน้ำ’3.9 หมื่นล.เน้น‘ซ่อม-สร้าง-ขุดลอก’-ก.เกษตรฯได้ 2.7 หมื่นล้าน
งบ 80%ซ่อม-ลงทุน‘ถนน-น้ำ’! ครม.อนุมัติ 1.15 แสนล. กระจาย 8.9 พันรายการ กระตุ้นเศรษฐกิจ
