
"...พี่วิทย์ทิ้งท้ายไว้ว่า “ที่ผ่านมาเราให้คนอื่นมาเยอะแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้อง "ให้" กับตัวเองบ้าง "ความฝันของเรา" จงทำมันก่อนที่จะไม่มีโอกาส จะได้ไม่ "เสียดาย" ไปตลอดชีวิตเมื่อ "เวลา" เป็นของตัวเองแล้ว” ถือได้ว่า พี่วิทย์ได้เดินตามความฝันในวัยเกษียณอย่างที่ตั้งใจไว้อย่างสมบูรณ์แบบ..."
การเดินทางไปออสเตรเลียของพี่วิทยา เทียมเศวต (พี่วิทย์) เพื่อนร่วมรุ่นที่เกษียณปีเดียวกัน เริ่มต้นที่นครซิดนีย์เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยไปอาศัยอยู่บ้านพักแบบ Airbnb ช่วยงานบ้าน จัดการติดกล้องวงจรปิด แถมถ่ายรูปเจ้าของบ้านใส่กรอบแขวนบนฝาผนัง จนชอบใจให้อาศัยอยู่ฟรีอีก 10 วัน รวมทั้งใช้ยุทธการยิ้มสยาม ทำความรู้จักผู้คนไปทั่วเมืองแบบถ้าอยู่ต่ออีกไม่ถึงอึดใจมีสิทธิ์ลุ้นตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครซิดนีย์ แต่เหตุการณ์เหล่านั้น ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นการผจญภัยวัยเกษียณ เพราะพี่วิทย์ตัดสินใจเช่ารถบ้าน เพื่อขับรถเพียงลำพังขึ้นเหนือไปยังเมืองบริสเบน ซึ่งมีระยะทางไกล 900 กิโลเมตร ให้ทันงานแสดงมอเตอร์โชว์ที่นั่นตอนต้นเดือนมิถุนายน มีเรื่องราวทั้งน่าระทึกและชวนลุ้น ที่ต้องนำมาเล่าสู่กันฟัง
พี่วิทย์เล่าว่า ก่อนเดินทาง 1 วัน ไปตลาดซื้ออาหารแห้ง ไข่ไก่ ผลไม้ แบบ 7 วัน 7 คืน พร้อม มาม่าครบทุกรสชาติ แห้ง น้ำ ยำ ที่เตรียมมาจากเมืองไทย มาเก็บใส่ตู้เย็นในรถบ้าน แบบไม่ต้องพะวงว่าจะอดตาย จากนั้นให้ ChatGPT เจ้าปัญญาประดิษฐ์ช่วยค้นคิดว่า หากจะเดินทางไปเมืองบริสเบนต้องแวะตามสถานที่ท่องเที่ยวใดบ้าง และที่พักแคมป์รถบ้านแบบไม่เสียค่าบริการ มีอยู่ที่ไหนบ้าง ซึ่งเมื่อมาประกบกับ Google Map แผนที่นำทางทั่วสารทิศ พี่วิทย์ก็พร้อมสำหรับการเดินทาง
บ่ายสองโมงของวันที่ 20 พฤษภาคม พี่วิทย์ขับรถออกจากเมืองพารามัตตา (Parramatta) แต่ขับไปไม่ถึง 2 กิโลเมตร พบทางแยกมีลักษณะเป็นวงเวียน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติบนท้องถนนในออสเตรเลียที่ไม่ทำเป็นสี่แยก ไม่มีไฟจราจร แต่เมื่อก้ม ๆ เงย ๆ ดู Google Map ทำให้วนเลี้ยวเข้าช่องผิด จะขับกลับก็ไม่ได้เพราะรถหลังจี้ท้าย บีบแตร บอกกับตัวเองว่า วันนี้ฤกษ์ไม่ดีแล้ว จึงตัดสินใจขับกลับไปบ้านพัก เพื่อรวบรวมสติก่อนออกเดินทางใหม่ในวันรุ่งขึ้น
วันรุ่งขึ้นยังคงออกรถตอนบ่ายสองเช่นเดิม แต่มีลางสังหรณ์ว่าการเดินทางครั้งนี้น่าจะมีเรื่องตื่นเต้นแน่ ๆ เพราะฝนตกหนักตลอดเส้นทาง ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ในการเดินทาง 100 กิโลเมตร ไปถึงที่พักแคมป์รถบ้านแบบไม่ต้องเสียค่าบริการ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ยกเว้นไฟฟ้า ทำใจดีสู้เสือไปขอความช่วยเหลือจากรถบ้านที่จอดใกล้เคียง ให้สาธิตวิธีใช้งานต่าง ๆ จนสามารถใช้แบตเตอรี่รถให้ตู้เย็นใช้งานและชาร์จแบตเตอรี่มือถือได้ พอเล่นมือถือสักพักปรากฏหน้าจอรถสามารถเชื่อมกับ Google Play ได้แบบไม่ตั้งใจ เรียกว่า ดีใจจนลิงโลด เพราะได้ดูแผนที่บนหน้าจอเต็มตา ไม่ต้องก้มดูจากมือถือ แถมได้เปิดฟังเพลงไทยสร้างบรรยากาศให้เข้ากับเส้นทางธรรมชาติที่ขับรถผ่านไป

วันต่อมา ฝนยังไม่หยุดตก แต่ ChatGPT บอกว่าต้องเดินทางแล้ว จึงเดินทางไปตามเส้นทางที่กำหนด ขับไปเรื่อย ๆ เริ่มสังเกตว่าไม่มีรถสวนมาและไม่มีรถตามหลังมาสักคัน แถมคุณ Google Map ที่ไม่เชื่อเขาแล้วจะเชื่อใคร พาเข้าไปในเส้นทางบริเวณป่าเขา มีต้นไม้สูง ในขณะที่ท้องฟ้าเริ่มมืด ข้างหน้ามองแทบไม่เห็นอะไรแล้ว พอขับไปได้อีกพักหนึ่งปรากฏว่า สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่มี แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมแผนที่บนจอหน้ารถยังพาไปได้อีก ไม่ลบหลู่ ขับไปตามเส้นทางนั้น แต่ยิ่งขับไปยิ่งเป็นเส้นทางลึกลับ จนไปถึงต้นทางที่จะขึ้นเขา ถนนเป็นอิฐบด สองจิตสองใจว่า จะขึ้นไปหรือไม่พอส่องดูกระจกหลัง ปรากฏเห็นสามีภรรยาคู่หนึ่งวิ่งมาที่รถแบบสุดชีวิตพร้อมโบกไม้โบกมือ ตอนแรกนึกว่าวิ่งมาต้อนรับอาคันตุกะจากต่างแดน แต่พอถึงกลับทำหน้าตกอกตกใจ บอกว่านำรถขึ้นไปไม่ได้เพราะเป็นทางตัน พี่วิทย์จึงขับรถถอยลงมา แต่เจ้ากรรม ถอยมาติดหล่ม เคลื่อนรถไม่ได้ ตอนนั้นเรียกว่า จิตตกมืดแปดด้าน คิดว่าชีวิตวัยเกษียณอาจต้องกลายมาเป็นพรานป่าอยู่บนเทือกเขาในแดนออสซี่เสียแล้ว
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อ สามีภรรยาคู่ดังกล่าวบอกให้รออยู่ในรถ ไม่นานสามีนำรถขุดดิน มาช่วยขุดดินออก จนล้อรถสามารถหลุดจากหล่มได้ และบอกกับพี่วิทย์ว่า คืนนี้ไม่ต้องเดินทางไปไหน ให้พักอยู่แถวนี้เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ พร้อมกับนำอาหารเย็นมาให้ทาน ถือเป็นการพักอยู่กลางป่า ที่มืดสนิท แต่รู้สึกว่าปลอดภัยเพราะมีผู้อาศัยอยู่ใกล้ ๆ
วันรุ่งขึ้น นอกจากสามีภรรยาคู่นั้นแล้ว ยังมีเพื่อนบ้านมาสมทบอีก เอาอาหารเช้ามาให้ทาน พร้อมกับเขียนแผนที่ให้เดินทางกลับไปสู่ถนนหลักอย่างละเอียด ซึ่งพี่วิทย์ซาบซึ้งมาก พร้อมสัญญาในใจว่า สักวันหนึ่งต้องกลับมาเยี่ยมเยียนและตอบแทนพวกเขา และเมื่อขับรถออกไปสัญญาณอินเทอร์เน็ตกลับมา แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เพิ่งประสบมาเลยอึ้ง ๆ เอ๋อ ๆ คลำทางยังไม่ค่อยถูก แต่โชคยังเข้าข้างมีรถตามมา และอาสาให้ขับตามไปสู่ถนนใหญ่ ถือว่าใจดีมากเพราะนำทางให้ไม่เพียงแค่ 1-2 กิโลเมตร แต่เป็นระยะทางถึง 50 กิโลเมตร จนสามารถมาถึงถนนหลัก และเข้าไปพักที่แคมป์รถบ้านอีกแห่งหนึ่งจนได้
เมื่อถึงแคมป์ ได้รับทราบจากคนขับคันอื่นว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมามีพายุเข้า ฝนตกหนักทำให้ถนนหลักบางสายถูกปิด ถึงบางอ้อว่าทำไม Google Map จึงแนะนำให้ไปเส้นทางรอง และที่สำคัญคือ การเดินทางขึ้นไปยังเมืองบริสเบน ไม่สามารถขับขึ้นไปทางตรงเพื่อเลียบมหาสมุทรได้ ต้องขับอ้อมไปกว่า 100 กิโลเมตร พี่วิทย์ไม่มีทางเลือก ต้องไปตามเส้นทางนั้น เพราะเช่ารถมาแค่ 7 วัน ต้องทำเวลา โชคดีที่ฝนซา ทำให้ขับรถได้ราบรื่นขึ้น เริ่มขับรถได้คล่องเหมือนกับคนออสซี่ โบกมือพร้อมให้รอยยิ้มกับคนที่ขับขี่สวนไปมา
พอใกล้ถึงเมืองบริสเบน ขอแวะชมอ่าวไบรอน (Byron Bay) ที่ขึ้นชื่อเป็นชายหาดที่สวยงามที่สุดของออสเตรเลีย แต่เมื่อขับไปถึงตรงอ่าวปรากฏว่าไม่มีที่จอดรถ จึงตัดสินใจขับขึ้นเขาไปตรงประภาคาร สัญลักษณ์ของอ่าวที่ตั้งอยู่บนยอดเขา พอขับไปได้สักพักเห็นที่จอดรถริมเขา เป็นเขตก่อสร้างบ้านบริเวณนั้น ตัดสินใจหักพวงมาลัยเข้าไปจอดทันที พร้อมนำกล้องโดรนออกมาถ่ายรูปจากมุมสูง แบบว่า เท้าไม่แตะน้ำ แต่ตาแตะวิว ถือว่าได้ขิงคนอื่นแล้ว เมื่อนำกล้องโดรนขึ้นไปถ่ายได้ไม่กี่นาที คนงานก่อสร้างรีบปรี่เข้ามาหา หน้าตาไม่ค่อยจะยิ้มแย้ม นึกในใจว่า “แย่แน่แล้วตู” แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อพวกเขากลับขอร้องให้พี่วิทย์ถ่ายรูปบ้านที่กำลังก่อสร้างจากมุมสูง พี่วิทย์เลยจัดให้เต็มแบบทุกซอกทุกมุมแถมโหลดใส่มือถือให้เสร็จสรรพ สร้างความปีติยินดีให้กับคนงานเหล่านั้น ทำให้พี่วิทย์สามารถจอดรถได้เกินชั่วโมงเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของอ่าวอย่างหนำใจ

พี่วิทย์ขับรถถึงบริสเบนตามกำหนดการ แต่ด้วยการขับแบบค่ำไหนพักนั่น รวมทั้งขับเลี่ยงถนนหลักทำให้ขับไกลถึง 2,000 กิโลเมตร ไปพักบ้านเพื่อนหลาน ทำหน้าที่ดูแลความสะอาดให้เช่นเคย พร้อมได้ไปดูงานมอเตอร์โชว์ตามที่ตั้งใจไว้ แต่ยังไม่ค่อยมีเวลาขี่จักรยานไปเที่ยวในเมือง เพราะยังไม่หายจากอาการตื่นเต้น แต่นั่ง ๆ นอน ๆ ได้เพียง 2 วัน กลับมีเรื่องตื่นเต้นเข้ามาอีก เพราะสามีของเพื่อนหลานมีเครื่องบินเล็ก จึงถูกชวนไปขึ้นบินกับเขา เพราะชอบเล่นกล้องโดรนถ่ายภาพเหมือนกันและอยากให้พี่วิทย์ถ่ายภาพให้
พี่วิทย์ตอบตกลงแบบไม่ต้องคิด และเมื่อขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินยังรู้สึกเฉย ๆ ตื่นตาตื่นใจไปกับหน้าจอบนเครื่อง แต่จุดระทึกเกิดขึ้นเมื่อนักบินให้ดูแอปเส้นทางการบินเพื่อบินไปตามชายหาด และให้พี่วิทย์บังคับเครื่องเอง พอโยกเพียงนิดเดียวลำตัวเครื่องก็หันไปตามที่ต้องการ แต่ที่หัวใจเต้นแรงขึ้นคือตอนที่นักบินตีโค้งในฝั่งที่พี่วิทย์นั่งสามรอบ “ถ้าอีกสักสองรอบ ผมคงอ้วกกลางอากาศแน่ ๆ โอ้วว! มันตื่นเต้นมากครับ” พี่วิทย์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ยังตื่นเต้นไม่หาย นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยได้สัมผัสจนมาถึงวัยเกษียณ

พี่วิทย์กล่าวว่า แม้อายุวีซ่าจะยาวถึง 1 ปี แต่ต้องเดินทางออกจากออสเตรเลียก่อนเมื่ออยู่ครบ 3 เดือน จึงวางแผนเดินทางไปท่องแดนนิวซีแลนด์ เช่ารถบ้านบุกเกาะเหนือ ลุยเกาะใต้ แบบนับแกะให้ครบทุกตัวในแดนกีวี ก่อนกลับมาเที่ยวออสเตรเลียต่อจนถึงสิ้นปี
พี่วิทย์ทิ้งท้ายไว้ว่า “ที่ผ่านมาเราให้คนอื่นมาเยอะแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้อง "ให้" กับตัวเองบ้าง "ความฝันของเรา" จงทำมันก่อนที่จะไม่มีโอกาส จะได้ไม่ "เสียดาย" ไปตลอดชีวิตเมื่อ "เวลา" เป็นของตัวเองแล้ว” ถือได้ว่า พี่วิทย์ได้เดินตามความฝันในวัยเกษียณอย่างที่ตั้งใจไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
อ่านเพิ่มเติม : ผจญภัยวัยเกษียณ : ยุทธการยิ้มสยาม

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา