
ดีเอสไอ แจงคดีฟอกเงินขายที่ดินคลองจั่นฯ 477 ล. ดำเนินการต่อเนื่องไม่ได้ปล่อยผู้ต้องหาลอยนวล ยังไม่ขาดอายุความ นัดหมายให้ 'ณฐพร โตประยูร' พบพนักงานสอบสวนส่งตัวอัยการฟ้องภายในวันที่ 28 พ.ค.68 นี้ หลังมีเหตุขอเลื่อนอ้างอยู่ระหว่างขอความเป็นธรรม อสส. ไม่มาอีกดำเนินการตามขั้นตอนกม. แน่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีหนังสือจากอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 จำนวน 2 ฉบับ ถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีฟอกเงินการขายที่ดิน ของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วงเงิน 477 ล้านบาท ซึ่งมี นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็น 1 ใน 14 ผู้ถูกกล่าวหาด้วย เนื่องจากคดีใกล้จะขาดอายุความ 15 ปี ในวันที่ 15 มิถุนายน 2568
โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันว่า คดีนี้ดำเนินการต่อเนื่องไม่ได้ปล่อยผู้ต้องหาฟอกเงินลอยนวล คดียังไม่ขาดอายุความ ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนพิเศษได้นัดหมายให้ นายณฐพรฯ มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อเดินทางไปพบพนักงานอัยการ ภายในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 นี้ หากไม่มาพบตามหมายเรียกก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ปรากฏรายละเอียดดังนี้
ตามที่ปรากฏการเผยแพร่ข่าวสารในสื่อสาธารณะว่า นายณฐพร สงวนนามสกุล 1 ใน 14 ผู้ถูกกล่าวหา คดีฟอกเงินการขายที่ดินของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วงเงิน 477 ล้านบาท ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้ต้องหา 14 ราย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 แต่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 สำนักงานอัยการสูงสุด ยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้องคดีต่อศาล และเรียกร้องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ชี้แจงความคืบหน้าในส่วนของคดีอาญาดังกล่าว นั้น
กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจสอบแล้วพบว่า กรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 42/2559 กล่าวหานายศุภชัยฯ กับพวก รวม 14 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน” ตามมาตรา 5 มาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 60 และมาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยสอบสวนเสร็จสิ้น และมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการไปเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้พิจารณาสำนวนแล้วมีคำสั่งฟ้องนายศุภชัยฯ กับพวก รวม 14 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน” และมีการฟ้องผู้ต้องหาบางรายต่อศาลและสืบพยานแล้ว
สำหรับนายณฐพรฯ พนักงานอัยการมีการนัดหมายให้ไปพบเพื่อฟังคำสั่ง แต่ไม่ได้ไปตามนัดหมายจนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 พนักงานอัยการจึงมีหนังสือให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จัดการให้ได้ตัวนายณฐพรฯ มายื่นฟ้องต่อศาล ภายในอายุความ 15 ปี นับแต่วันกระทำความผิด พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ออกหมายเรียกนายณัฐพรให้มาพบเพื่อนำตัวส่งพนักงานอัยการ จำนวน 3 ครั้ง และต่อมาผู้ต้องหาได้มีหนังสือ ฉบับลงวันที่ 2 เมษายน พ.ศ 2568 แจ้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษทราบว่าได้รายงานตัวกับพนักงานอัยการแล้ว พร้อมแนบสำเนาหนังสือที่มีถึงอธิบดีอัยการคดีพิเศษขอให้เลื่อนนัดหมายฟ้องคดีเนื่องจากอยู่ระหว่างขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด
จนวันที่ 1 พฤษภาคม2568 สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ได้มีหนังสือขอให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการเพื่อให้ได้ตัวนายณฐพรฯ มาเพื่อฟ้องอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนพิเศษได้นัดหมายให้ นายณฐพรฯ มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อเดินทางไปพบพนักงานอัยการ ภายในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 นี้ หากไม่มาพบตามหมายเรียก ก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป อันเป็นการดำเนินการต่อเนื่องตามคำสั่ง ของพนักงานอัยการ มิได้เป็นไปตามที่ปรากฎเป็นข่าวแต่อย่างใด จึงประชาสัมพันธ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา