แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ทราบ ป.ป.ช. รับเรื่องจัดทำร่างพ.ร.บ.งบปี 68 -โปะโครงการแจกเงินหมื่น จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นึกภาพไม่ออก รับเรื่องได้อย่างไร แต่พร้อมไปชี้แจง ยืนยัน ไม่เข้ามาตรา 144 ‘เลขาฯกฤษฎีกา’ เชื่อ เป็นการบริหารงบประมาณ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 17 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับเรื่องกรณีกล่าวหา นางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี และพวกกว่าร้อยคน ทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่ได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 โดยการนำเงินที่ต้องไปชดใช้หนี้ไปใช้ในโครงการเงินดิจิทัลวอลเลต เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ว่า ยังไม่ทราบ
อ่านข่าวประกอบ : ป.ป.ช.รับสอบคดีจัดทำงบฯปี 68 แจกเงินหมื่น ขัดรธน.ม.144 กล่าวหา ‘แพทองธาร-สส.-สว.' ยกคณะ
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ยังนึกภาพไม่ออกว่า รับคำร้องได้อย่างไร แต่พร้อมไปชี้แจง อ่านรัฐธรรมนูญกี่ตลบมันก็ชัดเจนว่ามันไม่ใช่ ไม่เข้าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144
“มันเป็นมาตรา 28 ไม่ใช่เรื่องการกู้เงินตามคำนิยาม ไม่ใช่การชำระดอกเบี้ยตามคำนิยาม เพราะเป็นการดำเนินการมาตราการการเงินการคลัง คนละเรื่องเลย แต่เมื่อรับแล้วถ้าป.ป.ช.มีคำถามก็จะชี้แจง แต่ยังไม่มีหนังสืออะไรมาให้ต้องไปชี้แจง”นายจุลพันธ์กล่าว
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า เรื่องงบประมาณ รัฐธรรมนูญจะบอกว่า การใช้จ่ายเงินแผ่นดินใช้ได้ตามกฎหมายอะไรบ้าง ซึ่งมีประมาณ 4-5 ฉบับ อาทิ กฎหมายเงินคงคลัง กฎหมายวิธีการงบประมาณรายจ่าย พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง
“เวลาจะไปดูว่า มันอยู่ที่ไหน ก็ไปดูที่กฎหมายวินัยการคลัง ซึ่งจะบอกว่า หนี้ของประเทศ คือ อะไรบ้าง เขาก็จะโยนไปให้หนี้สาธารณะ เพราะฉะนั้นกฎหมายหนี้สาธารณะก็จะนิยามว่า หนี้สาธารณะคืออะไร และงบชำระหนี้คืออะไร มันก็คือชำระหนี้สาธารณะก้อนนั้น มันจะอยู่คนละมาตรากับเรื่องการใช้จ่ายเงินตามมาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ เป็นการบริหารจัดการงบภายใน ส่วนงบใช้หนี้ ในพ.ร.บ.งบประมาณจะอยู่อีกมาตรา เพราะฉะนั้นจึงเป็นเงินคนละก้อนกัน”นายปกรณ์กล่าว
เมื่อถามว่า การนำงบประมาณที่ต้องนำไปชำระหนี้หน่วยงานตามมาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังรัฐ โยกไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเลตสามารถทำได้หรือไม่ นายปกรณ์กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการบริหารงบประมาณ เหมือนการใช้เงินตามมาตรา 28 บอกว่าให้ทำไปก่อนแล้วเราจะตั้งงบประมาณชดใช้ ไม่ใช่หนี้ตามนัยของพ.ร.บ.หนี้สาธารณะ คนละประเด็นกัน
“ตอนนี้ยังไม่ส่งผลอะไรกับรัฐบาล เนื่องจากยังเป็นเพียงการรับเรื่องร้องเรียนและยังต้องมีการสืบสวนไต่สวนตามกระบวนการของ ป.ป.ช. ยังไม่ได้ตัดสินว่าถูกหรือผิด เพราะสุดท้ายแล้ว ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วก็ยังต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี จึงยังถือว่าเด็ดขาด”นายปกรณ์กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องประกอบ :