
‘นายกฯ’ กำชับ ‘ส่วนราชการ-หน่วยงานรัฐ’ พิจารณาจัดทำ ‘ร่าง พ.ร.บ.งบปี 69-งบกระตุ้น 1.57 แสนล้าน-ของบกลางฯ’ ต้อง ‘ละเอียด-รอบคอบ-เหมาะสม’ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ม. 144
..........................................
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับเรื่องกล่าวหา กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยปรับลดงบประมาณสำหรับใช้หนี้ของรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง 3.5 หมื่นล้านบาท และนำไปเพิ่มเป็นงบประมาณรายจ่ายตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รายจ่ายงบกลาง (5) ค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ (Digital Wallet) 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตั้งสอบสวนกรณีนี้ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 88 โดยกำหนดกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และหากสอบสวนแล้วเห็นว่า ‘มีมูล’ ให้เสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป นั้น (อ่านประกอบ : ย้อนพฤติการณ์โยกงบ'ใช้หนี้'3.5 หมื่นล.โปะ'ดิจิทัลวอลเล็ต'ส่อขัดรธน. ก่อน'ป.ป.ช.'รับสอบฯ)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2568 ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้สั่งการและกำชับให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ พิจารณาจัดทำงบประมาณต่างๆ ได้แก่ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ,การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท
และการพิจารณางบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามคำขอของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ โดยต้องพิจารณาด้วยความละเอียด รอบคอบ เหมาะสม คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนผ่านการพิจารณาและกลั่นกรองอย่างถี่ถ้วนจากสำนักงบประมาณและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ถูกต้อง เป็นไปตามกรอบและขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 144
“ด้วยในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2568 นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในขณะนี้เป็นช่วงเวลาของการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี ดังนี้
1.การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ซึ่งที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร์ได้มีมติเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2568 รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569
2.การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะได้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามชั้นตอนต่อไป
3.การพิจารณางบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามคำขอของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ
เพื่อให้แผนงาน/โครงการต่างๆ ที่ขอใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งผ่านการพิจารณาอนุมัติของคณะรัฐมนตรี เป็นไปด้วยความรอบคอบ ถูกต้อง และสอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จึงขอกำชับให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ พิจารณาจัดทำงบประมาณและโครงการที่เสนอขอรับการจัดสรรรประมาณ ด้วยความละเอียด รอบคอบ เหมาะสม คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนผ่านการพิจารณาและกลั่นกรองอย่างถี่ถ้วนจากสำนักงบประมาณและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ถูกต้อง เป็นไปตามกรอบและขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 144 ที่บัญญัติให้ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะแปรญัตติเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการหรือจำนวนในรายการมิได้ แต่อาจแปรญัตติในทางลดหรือตัดทอนรายจ่าย ซึ่งมิใช่รายจ่ายตามข้อผูกพันอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ เงินส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย
ซึ่งในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือคณะกรรมาธิการ การเสนอ การแปรญัตติหรือการกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาหรือกรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย จะกระทำมิได้ ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ” หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0515/14726 แจ้งมติ ครม. เรื่อง การพิจารณาจัดทำงบประมาณของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ลงวันที่ 13 มิ.ย.2568 ระบุ
อ่านประกอบ :
ระเบิดลง! สตง.เตือนใช้งบ 1.57แสนล้าน , สงป.เบรก5.1หมื่น ล.-ปปช.สอบขัด รธน.มาตรา144
ฮั้วดึง 7.4 พันล.ลงพื้นที่'สส.เพื่อไทย' เหตุ'ป.ป.ช.'สอบขัด รธน.-สำนักงบฯเบรก 5 หมื่นล้าน
ย้อนพฤติการณ์โยกงบ'ใช้หนี้'3.5 หมื่นล.โปะ'ดิจิทัลวอลเล็ต'ส่อขัดรธน. ก่อน'ป.ป.ช.'รับสอบฯ
‘พิชัย’ ลั่น จัดทำงบปี 68 ‘แจกเงินหมื่น’ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 144
ป.ป.ช.รับสอบคดีจัดทำงบฯปี 68 แจกเงินหมื่น ขัดรธน.ม.144 กล่าวหา ‘แพทองธาร-สส.-สว.' ยกคณะ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา