
‘กรมที่ดิน’ เปิดรับฟัง ‘ร่าง พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิฯ’ วันสุดท้าย ก่อนเปลี่ยนแปลง 'รัฐบาล' เปิดทาง ‘หน่วยงานของรัฐ’ ก่อตั้ง ‘ทรัพย์อิงสิทธิ’ ในอสังหาริมทรัพย์ ได้ไม่เกิน 99 ปี
............................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันนี้ (5 ก.ย.) เป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับฟังความคิดเห็น ร่าง พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ของกรมที่ดิน หลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว มาตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ให้มีผลบังคับใช้นั้น มีความเป็นไปได้น้อยมาก เนื่องจากจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ไปเป็นรัฐบาลที่มีพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำ
ทั้งนี้ สาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562 ได้แก่ 1.กำหนดให้หน่วยงานของรัฐสามารถก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่ตนเป็นเจ้าของอยู่เดิมหรือได้รับโอนจากบุคคลอื่นได้ โดยมีกำหนดเวลาได้ไม่เกิน 99 ปี จากเดิม 30 ปี และ 2.การเพิ่มข้อกำหนดเกี่ยวกับผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิที่เป็นคนต่างด้าว
สำหรับรายละเอียดของ ร่าง พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ที่เปิดรับฟังความคิดเห็นฯ ประกอบด้วย 11 มาตรา มีดังนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ (ฉบับที่..) พ.ศ. ....”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในบทนิยามคำว่า “อสังหาริมทรัพย์” ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
““อสังหาริมทรัพย์” หมายความว่า ที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน ห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด และที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างของหน่วยงานของรัฐที่มีเอกสารหรือหลักฐานอื่นที่แสดงกรรมสิทธิ์”
มาตรา 4 ให้เพิ่มบทนิยามคำว่า “หน่วยงานของรัฐ” ระหว่างบทนิยามคำว่า
“อสังหาริมทรัพย์” และ “พนักงานเจ้าหน้าที่” ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562
““หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐตามที่กำหนดในกฎกระทรวง”
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ภายใต้บังคับมาตรา 4/1 เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ผู้ใดประสงค์จะก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิ ให้ยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่พร้อมกับแสดงโฉนดที่ดินหรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด แล้วแต่กรณี”
มาตรา 6 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 4/1 แห่งพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562
“มาตรา 4/1 ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐประสงค์จะก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ที่ตนเป็นเจ้าของ ให้ยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่พร้อมกับแสดงโฉนดที่ดินหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด หรือเอกสารหรือหลักฐานอื่นที่แสดงกรรมสิทธิ์ แล้วแต่กรณีทรัพย์อิงสิทธิที่ก่อตั้งขึ้นตามวรรคหนึ่งมีกำหนดเวลาได้ไม่เกินเก้าสิบเก้าปี
การก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิตามวรรคหนึ่ง อาจกระทำเฉพาะบางส่วนในอสังหาริมทรัพย์ได้ เว้นแต่อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวเป็นห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด”
มาตรา 7 ให้เพิ่มความดังต่อไปนี้เป็นมาตรา 4/2 แห่งพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562
“มาตรา 4/2 กรณีที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐประสงค์จะก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิที่มีกำหนดเวลาเกินกว่าที่กำหนดไว้ในมาตรา 4 วรรคสอง ให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์โอนอสังหาริมทรัพย์นั้นให้หน่วยงานงานของรัฐเป็นผู้ก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิตามมาตรา 4/1 และเมื่อครบระยะเวลาทรัพย์อิงสิทธิแล้ว ให้อสังหาริมทรัพย์นั้นตกเป็นของแผ่นดิน
การโอนอสังหาริมทรัพย์ให้หน่วยงานของรัฐตามวรรคหนึ่ง การจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้โอนอสังหาริมทรัพย์ ค่าใช้จ่ายอื่น และการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องอื่นใด ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง”
มาตรา 8 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 5 เมื่อได้รับคำขอก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิตามมาตรา 4 หรือมาตรา 4/1 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนการก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิในโฉนดที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดหรือเอกสารหลักฐานอื่นใด แล้วแต่กรณี พร้อมทั้งออกหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิ”
มาตรา 9 ให้ยกเลิกความในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 6 การขอก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิตามมาตรา 4 หรือมาตรา 4/1 การจดทะเบียนและการออกหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิตามมาตรา 5 การยกเลิกทรัพย์อิงสิทธิตามมาตรา 14 และการเพิกถอนหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง”
มาตรา 10 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 10/1 แห่งพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562
“มาตรา 10/1 ห้ามมิให้ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิที่เป็นคนต่างด้าวตามมาตรา 5/2 วรรคสองแห่งกฎหมายว่าด้วยการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบเกษตรกรรม
เกษตรกรรมตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า เกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม”
มาตรา 11 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
กรมที่ดินระบุว่า สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าประชาชนจะได้รับจากการมีกฎหมายฉบับนี้ ได้แก่
1.ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิสามารถใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ของหน่วยงานของรัฐได้มากยิ่งขึ้น
2.ส่งผลให้ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิ สามารถใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์มาสร้างสินทรัพย์ประเภทใหม่ (New Asset Class) เป็นระยะเวลายาวนานขึ้น และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศษฐกิจอย่างเต็มที่
3.ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างของหน่วยงานของรัฐ เฉพาะบางส่วนเท่าที่มีความจำเป็นได้
4.เพื่อให้การจดทะเบียนก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิและการออกหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของหน่วยงานรัฐที่มีหลักฐานนอกเหนือจากโฉนดที่ดินและหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย
5.เพื่อจำกัดสิทธิในการใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของคนต่างด้าว
อ่านเพิ่มเติม : ร่าง พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …
อ่านประกอบ :
พ.ย. 68 จับฉลาก ‘บ้านเพื่อคนไทย’ ลอตแรก 5-6 พันยูนิต - SRTA เร่งศึกษาเพิ่ม-ทำ EIA ให้จบ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา