
‘ธปท.’ เผยเครื่องชี้เศรษฐกิจไทย ก.ย. ดีขึ้นจากเดือนก่อน จับตา ‘คนละครึ่ง’ หากมีการ ‘จับจ่ายใช้สอย’ ดีเกินคาด จะช่วยดัน ‘จีดีพี’ ปี 68 โตเกิน 2.2% ได้
.......................................
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. นางปราณี สุทธศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงสรุปภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือน ก.ย.2568 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ย.2568 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน จากภาคการผลิตที่ทยอยกลับมาผลิต หลังจากการหยุดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในช่วงก่อน ส่งผลให้ภาคบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาคขนส่ง และภาคการค้าดีขึ้น
ด้านอุปสงค์ต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น จากรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและการส่งออก อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในประเทศชะลอลง ทั้งการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน
ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.ย. ติดลบจากหมวดพลังงานและอาหารสด แต่ติดลบน้อยลง ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเป็นบวกลดลง ตลาดแรงงาทรงตัว และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ชะลอลงจากไตรมาสก่อน โดยด้านอุปทานชะลอลงจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงจากการหยุดผลิตชั่วคราวในบางสินค้า ส่งผลให้กิจกรรมในภาคบริการที่เกี่ยวข้องปรับลดลง ส่วนด้านอุปสงค์ชะลอลงตามอุปสงค์ในประเทศโดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน ประกอบกับรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง ขณะที่การส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นจากหมวดอิเล็กทรอนิกส์
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสที่ 3 ติดลบจากหมวดอาหารสดและพลังงาน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก ตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล
นางปราณี กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปมีแนวโน้มฟื้นตัว จากการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หยุดผลิตทยอยกลับมาเปิด หลังจากปิดไปในช่วงไตรมาส 3/2568 และส่งผลดีต่อภาคบริการที่เกี่ยวข้อง ส่วนการส่งออกสินค้ายังไปต่อได้ โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายในประเทศมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1.การฟื้นตัวของภาคการผลิตอุตสาหกรรม 2.ผลกระทบของมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ 3.พัฒนาการในภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในภาพรวม และ 4.ผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
“สำหรับมาตรการคนละครึ่ง เราได้ใส่สมมติฐานเข้าไปตัวประมาณการเศรษฐกิจ (ปี 2568) ที่ 2.2% แล้ว แต่ถ้ามีการจับจ่ายใช้สอยมากกว่าที่เราคาด ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมี upside กับตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 4/2568 ซึ่งตรงนี้ยังต้องจับตาดู” นางปราณี กล่าว
ส่วนกรณีที่ไทยเปิดตลาดให้กับสินค้าสหรัฐคิดเป็น 99% ของรายการทั้งหมด จะมีการผลกระทบต่อประมาณการเศรษฐกิจหรือไม่ นั้น นางปราณี กล่าวว่า ตอนที่ ธปท. จัดทำประมาณการเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ ได้มีการตั้งสมมติฐานว่า ไทยจะเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐเกือบทั้งหมดอยู่แล้ว ซึ่งสินค้าบางอย่างเป็นสินค้าที่ไทยไม่ได้ผลิตเอง เช่น ไวน์ ดังนั้น ผลกระทบจากการเปิดตลาดฯดังกล่าว ได้รวมไว้ในประมาณการเศรษฐกิจแล้ว
“อย่างถั่วเหลือง เราไม่พอใช้อยู่แล้ว หรือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เราก็มีการนำเข้าอยู่แล้ว ใน 2 ส่วนนี้ และเท่าที่เราทราบ ทางรัฐบาลจะมีการบริหารจัดการ เช่น จะมีการนำเข้าในช่วงไม่ตรงกับฤดูเก็บเกี่ยว เพื่อบรรเทาไม่ให้มีผลกระทบต่อเกษตรกร ก็คิดว่าน่าจะอยู่ในแนวทางที่รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นว่าจะบริหารจัดการได้” นางปราณี ระบุ
สำหรับรายละเอียดภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือน ก.ย.2568 มีดังนี้
การบริโภคภาคเอกชน
เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลปรับลดลงจากเดือนก่อน จากการใช้จ่ายในหมวดบริการเป็นสำคัญ ตามการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไทยที่ลดลง หลังเร่งใช้จ่ายผ่านโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งไปแล้วในเดือนก่อน
อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายในหมวดอื่นๆ ปรับเพิ่มขึ้น โดยหมวดสินค้าไม่คงทนเพิ่มขึ้นตามยอดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง สอดคล้องกับกิจกรรมในภาคการขนส่งที่ปรับดีขึ้น หมวดสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นจากยอดขายกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ส่วนหนึ่งจากการเปิดตัวรถยนต์ไฮบริด (HEV) รุ่นใหม่ และหมวดสินค้ากึ่งคงทนเพิ่มขึ้นจากทั้งยอดจำหน่ายสินค้ากึ่งคงทน อาทิ อุปกรณ์ประดับยนต์ และปริมาณการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม สำหรับความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจากความชัดเจนทางการเมืองและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

การลงทุนภาคเอกชน
เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงจากเดือนก่อน จากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ลดลงตามการนำเข้าสินค้าทุนในหมวดอุปกรณ์สื่อสาร สำหรับหมวดยานพาหนะปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน ตามมูลค่าการนำเข้าเครื่องบินที่ปรับลดลง ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ปรับเพิ่มขึ้นในทุกองค์ประกอบย่อย อย่างไรก็ดี หมวดก่อสร้างเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ

จำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มระยะใกล้ (Short-haul) โดยเฉพาะมาเลเซียที่มีวันหยุดยาว และอินเดียที่มีการเพิ่มเส้นทางบินตรงใหม่ ด้านรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้น จากจำนวนวันพักที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวและพบว่าในระยะหลังมีการใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวตามภูมิภาคต่างๆ ในไทยมากขึ้น

การส่งออกสินค้า
มูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ในหลายหมวด อาทิ (1) สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ตามการส่งออกอุปกรณ์โทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ และเครื่องปรับอากาศไปสหรัฐฯ (2) ยานยนต์ ตามการส่งออกรถกระบะไปตะวันออกกลาง และชิ้นส่วนยานยนต์ไปอาเซียน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ และ (3) อัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าในฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าเกษตรลดลงตามการส่งออกทุเรียนไปจีน และข้าวไปแอฟริกาใต้และอินโดนีเซีย และการส่งออกปิโตรเลียมลดลงตามการส่งออกไปมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ จากการเร่งส่งออกไปในเดือนก่อน สำหรับการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ที่ถูกเก็บ Reciprocal tariffs ชะลอลงหลายรายการมากขึ้น อาทิ สินค้าเกษตร ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และยานยนต์
การนำเข้าสินค้า
มูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากหมวดวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางไม่รวมเชื้อเพลิง ตามการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนเพื่อผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม ประกอบกับการนำเข้าหมวดสินค้าอุปโภคและบริโภคที่เพิ่มขึ้น ตามการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าและโทรศัพท์มือถือจากจีนเป็นสำคัญ ขณะที่การนำเข้าเชื้อเพลิงและสินค้าทุนไม่รวมเครื่องบินปรับลดลงจากเดือนก่อน
การผลิตภาคอุตสาหกรรม
ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน หลังบางอุตสาหกรรมที่หยุดผลิตชั่วคราวเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพทยอยกลับมาเปิด โดยกลุ่มผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 30 เพิ่มขึ้นจากการผลิตปิโตรเลียมและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังโรงงานกลับมาดำเนินการตามปกติ ขณะที่กลุ่มผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วนร้อยละ 30-60 เพิ่มขึ้นจากการผลิตยานยนต์กลุ่ม EV เป็นหลัก
อย่างไรก็ดี การผลิตรถยนต์สันดาปยังปรับลดลงต่อเนื่อง ด้านกลุ่มผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 60 เพิ่มขึ้นจากการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง หนังฟอก และเครื่อง ประดับเป็นสำคัญ
ภาคบริการ
เครื่องชี้ภาคบริการที่ไม่รวมการซื้อขายทองคำและขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิต ได้แก่ ภาคการค้าและการขนส่งสินค้า สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดขายยานยนต์ และปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค อย่างไรก็ตาม กิจกรรมในภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวปรับลดลงจากธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร ตามการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไทยที่ชะลอลงหลังเร่งใช้จ่ายผ่านโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งไปแล้วในเดือนก่อน ส่วนปริมาณการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ

การใช้จ่ายภาครัฐ
การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางที่ไม่รวมเงินโอน โดยรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางหดตัวจากการเบิกจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ งบบุคลากร ค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ และงบกลาง ขณะที่รายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางหดตัวจากผลของฐานสูงปีก่อนที่มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 อย่างไรก็ตาม รายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัวจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและสาธารณูปโภค

รายได้เกษตรกร
รายได้เกษตรกรหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน จากทั้งราคาและผลผลิตสินค้าเกษตร โดยราคาข้าวขาวและยางพาราลดลงจากปริมาณผลผลิตของทั้งไทยและตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนและลำไยที่ยังได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการตรวจสอบสารตกค้างของจีนและผลผลิตที่ออกมากในช่วงก่อน สำหรับผลผลิตสินค้าเกษตรหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน ตามผลผลิตผลไม้ โดยเฉพาะลำไย ทุเรียน และมังคุด ที่ปรับลดลงหลังจากผลผลิตออกมากในช่วงที่ผ่านมา และเป็นการเหลื่อมฤดูกาลเมื่อเทียบกับปีก่อน
ภาวะการเงิน
การระดมทุนของภาคธุรกิจ โดยรวมปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนจากช่องทางสินเชื่อเป็นสำคัญ โดยการระดมทุนผ่านสินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้นตามการกู้ยืมเงินระหว่างบริษัทในเครือของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผลิตเครื่องดื่ม ขณะที่การระดมทุนผ่านตลาดทุนเพิ่มขึ้นจากธุรกิจให้บริการทางการแพทย์และการโฆษณา ด้านการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ลดลง หลังจากที่เร่งไปในเดือนก่อนหน้า ในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT)
สำหรับต้นทุนการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ ตั้งแต่ 1 ก.ย. ถึง 27 ต.ค. 68 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยทั้งระยะสั้นและระยะยาวเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าจะมีการชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ประกอบกับนักลงทุนสถาบันมีการปรับกลยุทธ์การลงทุนโดยเน้นถือพันธบัตรระยะสั้นมากขึ้น ซึ่งทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะยาวเพิ่มขึ้นมากกว่าระยะสั้น
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ สรอ. ในเดือน ก.ย. ค่าเงินบาทเฉลี่ยแข็งค่า จากปัจจัยภายนอก ได้แก่ การเพิ่มคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าคาด รวมถึงปัจจัยเฉพาะภายในประเทศ หลังสถานการณ์ทางการเมืองไทยมีความชัดเจนขึ้น
สำหรับเดือน ต.ค. (ข้อมูลถึง 27 ต.ค. 68) เงินบาทปรับอ่อนค่าจากปัจจัยความไม่แน่นอนในตลาดการเงินโลกที่ปรับแย่ลง ทั้งจากสงครามการค้าและสถานการณ์การเมืองของฝรั่งเศสและญี่ปุ่น ด้านดัชนีค่าเงินบาท (NEER) เฉลี่ยแข็งค่าในเดือน ก.ย. จากปัจจัยเฉพาะของไทยทั้งสถานการณ์การเมืองในประเทศ และราคาทองคำ ขณะที่ดัชนีค่าเงินฯ ปรับอ่อนค่าลงในเดือน ต.ค.
เสถียรภาพเศรษฐกิจ
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน จากอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานที่ผลของฐานสูงในปีก่อนทยอยลดลง ประกอบกับราคาน้ำมันเบนซินขายปลีกในประเทศปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดใกล้เคียงกับเดือนก่อน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นบวกลดลงจากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งจากการทำโปรโมชันอาหารโทรสั่งและของใช้ส่วนตัว

ด้านภาวะตลาดแรงงาน การจ้างงานทรงตัวจากเดือนก่อน สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ใกล้เคียงเดือนก่อนตามการจ้างงานในภาคบริการเป็นสำคัญ ขณะที่การจ้างงานในภาคการผลิตลดลงบ้าง โดยต้องติดตามการจ้างงานที่ยังคงลดลงในกลุ่มการผลิตสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันของสินค้านำเข้า สำหรับสัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงานรวมและรายใหม่ต่อผู้ประกันตนทรงตัวจากเดือนก่อน ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากดุลการค้าที่เกินดุลเป็นสำคัญ


อ่านประกอบ :
ธปท.ชี้เศรษฐกิจ ส.ค.68 ชะลอตัว มอง‘คนละครึ่ง’สร้างความเชื่อมั่น-กระตุ้น GDP ไม่ถึง 0.4%
‘ภาคท่องเที่ยว-ลงทุนเอกชน’ลดลง! ‘ธปท.’เผยเศรษฐกิจ ก.ค.68 ชะลอตัว-แนวโน้มแผ่วต่อเนื่อง
‘ส่งออก-บริโภค-ท่องเที่ยว’ลด! ‘ธปท.’ชี้เศรษฐกิจ มิ.ย.68 ชะลอ-คาดGDPไตรมาส 2 ใกล้เคียง 3%
ธปท.เผยเศรษฐกิจ พ.ค.68 ชะลอตัวจากเดือนก่อน-ชี้‘เงินบาท’เคลื่อนไหวสอดคล้องปัจจัยพื้นฐาน
ธปท.ชี้เศรษฐกิจ เม.ย.ดีขึ้น-มองเจรจาการค้า‘สหรัฐ-จีน’สัญญาณบวก ‘จีดีพี’ปีนี้อาจโตเกิน 2%
‘ธปท.’ชี้เศรษฐกิจ มี.ค.68 ชะลอตัวจากเดือนก่อน เผย‘ส่งออก-ท่องเที่ยว-บริโภค-ลงทุน’แผ่ว
‘ธปท.’ชี้‘ท่องเที่ยว-ส่งออก-บริโภคเอกชน’โต หนุนเศรษฐกิจ ม.ค.68 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน
‘ธปท.’เผยเศรษฐกิจไทย ธ.ค.ชะลอตัว-หั่นคาดการณ์จีดีพีไตรมาส 4/67 เติบโตไม่ถึง 4%
‘ธปท.’ชี้เศรษฐกิจ พ.ย.ชะลอ หลังเร่งตัวจาก‘เงินโอน’-แนะรัฐบาล‘ลงทุน’ได้ผลดีกว่า‘แจกเงิน’
IMF มองจีดีพีไทยปีหน้าโต 2.9% แนะ‘กนง.’ลดดบ.อีก 1 ครั้ง-‘ธปท.’ชี้เศรษฐกิจ ต.ค.67 ดีขึ้น
‘ธปท.’เผยเศรษฐกิจไทย ก.ย.67 ชะลอลงจากเดือนก่อน-คาดจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวใกล้ 3%

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา