
สธ.เผยตัวเขผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมหาดใหญ่เพิ่มเป็น 140 ราย ส่วนอีก 7 จังหวัด ให้ติดตามตรวจสอบ-รายงานเข้ามาในระบบต่อไป เปิด รพ.สนามเป็น 11 แห่ง ส่งทีมหมอเดินเท้าออกตามชุมชนครอบคลุมพื้นที่กว่า 75% คัดกรองสุขภาพจิตไปแล้วกว่า 3,800 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 1 ธันวาคม 2568 นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงข่าวในประเด็นการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขในสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วม หาดใหญ่ ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 น. มีทั้งสิ้น 140 ราย ส่วนอีก 7 จังหวัดที่เหลือได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส ให้ติดตามตรวจสอบและรายงานเข้ามาในระบบต่อไป
นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า สำหรับโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบทุกแห่งกลับมาเปิดบริการได้ แต่บางแห่งยังไม่เต็มรูปแบบ ได้เปิดโรงพยาบาลสนามช่วยเพิ่มการดูแลประชาชน รวม 11 แห่ง ได้แก่ 1) สนามบินหาดใหญ่ 2) หอประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่ 3) โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ 4) บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) 5) โรงพยาบาลรัตภูมิ 6) โรงเรียนเทศบาล 4 (วัดคลองเรียน) 7) โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 8) ศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองคลองแห 9) วัดคลองแห 10) โรงพยาบาลค่ายเสนาณรงค์ และ 11) โรงเรียนนานาชาติเซาท์เทิร์น หาดใหญ่ ให้บริการสะสม 1,423 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยใน 205 ราย ผู้ป่วยนอก 1,038 ราย ส่งต่อ 134 ราย และบริการฟอกไต 46 ราย
ด้าน นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดสธ. กล่าวว่า ในส่วนของ รพ.หาดใหญ่ ขณะนี้เปิดบริการแล้ว และควบคู่การฟื้นฟูเพื่อให้บริการเต็มรูปแบบในอนาคต โดยขณะนี้อยู่ในระยะฟื้นฟูพื้นที่ รวมถึงมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเจ้าหน้าที่จากภายนอก เข้ามาช่วย เพื่อให้บุคลากรของรพ.หาดใหญ่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้เร็วขึ้น
นพ.ศักดา กล่าวถึงตัวเลขผู้เสียชีวิต ว่า ผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์อุทกภัย ใน จ.สงขลา โดยนำเสนอในพื้นที่หาดใหญ่ ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นศูนย์รวบรวมศพผู้เสียชีวิต ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน 1 ธ.ค. 2568 เวลา 16.00 น. มีผู้ที่เสียชีวิตในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ทั้งหมด 140 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 2 ราย รวมทั้งหมด 140 ราย โดยการเสียชีวิตทั้งหมดได้มีการพิสูจน์อัตลักษณะทั้งหมด 104 ราย เหลือ 36 ราย ที่รอการพิสูจน์ตัวบุคคลโดยภาพรวมมีการรับศพคืนสู่ญาติแล้ว 23 ราย
ส่วนจังหวัดอื่นๆ มีข้อมูลรายงานเข้ามา แต่ขอทำกระบวนการให้ครบถ้วนก่อน และจะมีรายงานให้ทราบต่อไป
นพ.ศักดา กล่าวถึงจำนวนผู้เสียชีวิต 1,000 ราย ตามที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีตรอง ผบ.ตร.) ว่า หากไปดูจากวันแรกที่รับศพ เราไม่ได้ประมาท เรามีการเตรียมการ ให้ไปดูหน้างานที่เตรียมไว้จะมีตู้คอนเทนเนอร์ 7 ตู้ ซึ่งเราไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ไม่อยากให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งวันแรก 85 ร่าง จากนั้นเป็น 110 และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 4 วัน คิดว่าจะเพิ่มมากที่สุดคือ 2 วันที่แล้ว เพิ่มมาอีก 10 ร่าง จากตัวเลขหากจะเพิ่มขึ้นน่าจะเป็นหลักหน่วย
“ ส่วนการเสียชีวิต ที่มีสาเหตุอื่น นอกจากจมน้ำนั้น มีคำถามว่า หากเสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมจะรวมด้วยหรือไม่ ก็ต้องไปดูในสำนวนสืบสวนสอบสวน ซึ่งมาจากตำรวจและญาติชี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในรายบุคคลจะมีการระบุชัดเจน และจะมีการรวบรวมและประมวลอีกครั้ง” นพ.ศักดา กล่าว
นพ.ศักดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ข่าวดังกล่าวไม่บั่นทอนจิตใจคนทำงาน ซึ่งตนเองบอกกับทีมงานและให้สื่อสารตามความจริง และไม่สื่อสารตามความเชื่อหรือความรู้สึก เพราะหากเอา 2 อย่างมาปนกัน ประชาชนจะสับสน หน้าที่ตนเองพยายามจะสื่อสาร โดยเฉพาะหน้างานที่ทำทุกวัน หากไม่เชื่อก็ให้ไปดูที่หน้าตู้คอนเทนเนอร์ อยากจะเปิดให้ดู แต่เป็นสถานที่หวงห้ามของกระบวนการชันสูตร ซึ่งมีข้อห้ามในการเข้าถึง
สธ.จัดทัพแพทย์ ดูแลกายใจประชาชน
นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมถึงมาตรการการจัดทีมแพทย์เข้าดูแลประชาชนในพื้นที่ ว่า สธ.ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ (Mini-MERT) รวม 104 ทีม ตั้งแต่วันที่ 25 - 30 พ.ย. 2568 ให้บริการสะสม 11,147 ราย ส่งต่อทางบก 259 ราย ส่งต่อทางอากาศ 213 ราย และยังเสริมทีมแพทย์เดินเท้าออกเคาะประตูบ้านในชุมชนต่างๆ รวม 124 ทีม ตั้งแต่วันที่ 29- 30 พฤศจิกายน 2568 ออกบริการครอบคลุม 78 ชุมชน จาก 103 ชุมชน คิดเป็น ร้อยละ 75.7 ให้บริการสะสม 10,427 ราย ส่งต่อ 16 ราย
นพ.เอกชัย กล่าวเพิ่มเติมในส่วนการดูแลด้านสุขภาพจิต ว่า ได้ส่งทีม MCATT ดูแลสุขภาพจิตหลังน้ำท่วมจำนวน 30 ทีม ให้บริการประเมินสุขภาพจิตสะสม 3,820 ราย พบเครียดสูง 216 ราย เสี่ยงฆ่าตัวตาย 8 ราย โดยทุกรายได้รับการปฐมพยาบาลทางใจและส่งต่อเข้าสู่ระบบการรักษาแล้ว พร้อมทั้งจะติดตามต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ประชาชนกลับเข้าทำความสะอาดบ้านเรือน ให้ระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุของมีคมทิ่มตำ สัตว์มีพิษต่างๆ ฝุ่นจากโคลนแห้ง รวมถึงไฟฟ้าดูด ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น รองเท้าบูท ถุงมือยาง หน้ากากอนามัย เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ ตรวจสอบปลั๊ก สวิตช์ไฟ เบรกกอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยก่อนใช้งาน นอกจากนี้ ขอให้ระมัดระวังโรคที่มาหลังน้ำลด โดยเฉพาะโรคฉี่หนู ซึ่งเชื้อจะปนเปื้อนอยู่ในน้ำที่ท่วมขัง ดินโคลน หากมีไข้สูง ปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้อน่องรุนแรง ให้สงสัยโรคฉี่หนู ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือแจ้งทีมแพทย์เดินเท้าที่ลงไปชุมชน ขณะนี้มียารักษาโรคฉี่หนูครอบคลุมแล้ว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา