
"...มีการตกลงร่วมกันให้บริษัท เอสทีดี โซลูชั่น จำกัด และบริษัท ไฮเทค เอดดูเคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการเสนอราคา ส่วนบริษัท เพชรนาโน จำกัด และบริษัท นิวสกายกรุ๊ป จำกัด จะทำหน้าที่เป็นบริษัทคู่สอบราคา เพื่อให้ดูเสมือนว่าได้มีการจัดซื้อสื่อโดยโปร่งใสและมีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมแล้ว ทั้งที่ข้อเท็จจริงได้มีการตกลงกันมาอยู่ก่อนแล้วว่าจะให้บริษัทใดเป็นผู้ชนะการสอบราคา..."
กรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีกล่าวหา นายสมศักดิ์ หรือนายพชร ศรีรักษา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์เขต 3 จังหวัดเพชรบูรณ์ กับพวก ร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีอนุมัติและจัดซื้อครุภัณฑ์ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 (งบแปรญัตติ) ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์เขต 3 ของโรงเรียนทั้ง 158 แห่ง
มีการเปิดเผยพฤติการณ์การกระทำความผิดของผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ ไปแล้วว่า
1. ในการเลือกและจัดซื้อครุภัณฑ์ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 (งบแปรญัตติ) ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์เขต 3 ในครั้งนี้ของโรงเรียนทั้ง 158 แห่ง เป็นการเลือกและจัดซื้อตามที่ถูก นายสมศักดิ์ ศรีรักษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์เขต 3 จังหวัดเพชรบูรณ์ และนายสมนึก พันธุ์วงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลบึงสามพัน บังคับให้จัดซื้อกับผู้ขายที่นายสมนึก พันธุ์วงศ์ ได้ประสานงานติดต่อไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว และแต่ละโรงเรียนก็ได้ดำเนินการสอบราคาซื้อจนได้ผู้ชนะการสอบราคาตามที่บุคคลทั้งสองได้กำหนดให้แต่ละโรงเรียนไปดำเนินการก่อนหน้านั้น
2. กลุ่มผู้ประกอบการซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท เอสทีดี โซลูชั่น จำกัด (มีนายประชา ขันติศิริ เป็นกรรมการของบริษัท), บริษัท ไฮเทค เอดดูเคชั่น จำกัด (มีนายพยงค์ เกลี้ยงสอาด เป็นกรรมการของบริษัท), บริษัท เพชรนาโน จำกัด (มีนางสาวสายพิน แซ่โล้ว เป็นกรรมการของบริษัท) และบริษัท นิวสกาย กรุ๊ป จำกัด (มีนางสาวเสาวลักษณ์ จันทร์สุข เป็นกรรมการของบริษัท) ได้มีการสมรู้ร่วมคิดกับนายสมนึก พันธุ์วงศ์ มาตั้งแต่ขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งขั้นตอนในการจัดทำรายงานผลการวิเคราะห์ความขาดแคลนและเลือกรายการครุภัณฑ์ที่จะจัดซื้อ ตลอดจนขั้นตอนการเข้าเสนอราคาจัดซื้อสื่อของโรงเรียนทั้ง 158 แห่ง
โดยมีการตกลงร่วมกันให้บริษัท เอสทีดี โซลูชั่น จำกัด และบริษัท ไฮเทค เอดดูเคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการเสนอราคา
ส่วนบริษัท เพชรนาโน จำกัด และบริษัท นิวสกายกรุ๊ป จำกัด จะทำหน้าที่เป็นบริษัทคู่สอบราคา เพื่อให้ดูเสมือนว่าได้มีการจัดซื้อสื่อโดยโปร่งใสและมีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมแล้ว ทั้งที่ข้อเท็จจริงได้มีการตกลงกันมาอยู่ก่อนแล้วว่าจะให้บริษัทใดเป็นผู้ชนะการสอบราคา

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเอกชน ทั้ง 4 ราย จากกรมพัฒนาธุุรกิจการค้า มานำเสนอแบบชัดๆ ณ ที่นี้
@ บริษัท เอสทีดี โซลูชั่น จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้ง 26 กุมภาพันธ์ 2551 ทุน 20,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 3382 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายสื่อการเรียนการสอนทุกชนิด ปรากฏชื่อ นาย ประชา ขันติศิริ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ 31 พฤษภาคม 2560 นาย ประชา ขันติศิริ ถือหุ้นใหญ่สุด 75% มูลค่าหุ้น 15,000,000 บาท นางสาว ดรุณี เถาว์เพ็ง ถืออยู่ 20% มูลค่าหุ้น 4,000,000 บาท นาย นาทิต มังคละมณี 5% มูลค่า 1,000,000 บาท
ศาลล้มละลายกลางได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 ให้ บริษัท เอสทีดี โซลูชั่น จำกัด ล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่ ล.1575/2565 บริษัทจึงสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแล้วตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง
@ บริษัท ไฮเทค เอดดูเคชั่น จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้ง 8 ตุลาคม 2552 ทุน 18,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 760/470 ซอยพัฒนาการ 38 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบกิจการบริหารจัดการและประมวลผลข้อมูล ผลิตสื่อด้านอิเล็คทรอนิคส์ ปรากฏชื่อ นาย พยงค์ เกลี้ยงสอาด เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ 15 กุมภาพันธ์ 2561 นาย พยงค์ เกลี้ยงสอาด ถือหุ้นใหญ่สุด 97.7778% มูลค่าหุ้น 17,600,000 บาท หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย พัชรพล สัสเลขวิทย์ และ นางสาว หทัยรัตน์ ศิริโยธา
ศาลล้มละลายกลางได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ให้ บริษัท ไฮเทค เอดดูเคชั่น จำกัด ล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่ ล.2947/2564 บริษัทจึงสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแล้วตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง
@ บริษัท นิวสกาย กรุ๊ป จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้ง 31 มีนาคม 2554 ทุน 3,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 65/134 หมู่ 4 ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี แจ้งประกอบธุรกิจ ประกอบกิจการจำหน่ายสื่อการเรียนการสอนทุกชนิด ปรากฏชื่อ นาย เอกพล สุขชัย เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ 22 เมษายน 2557 นางสาว เสาวลักษณ์ จันทร์สุข ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9933% มูลค่า 2,999,800 บาท หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย จันทร์ คงพันธ์ และนาย วิวัฒน์ กันทะเจตน์
ศาลล้มละลายกลางได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2561 ให้ บริษัท นิวสกาย กรุ๊ป จำกัด ล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่ ล.3203/2560 บริษัทจึงสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแล้วตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง
@ บริษัท เพชรนาโน จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้ง 16 มิถุนายน 2554 ทุน 1,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 55/29 หมู่ 3 หมู่บ้านทิพย์พิมาน การ์เด้น ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี แจ้งประกอบธุรกิจ จำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ สื่อสิ่งพิมพ์ชนิดต่างๆ และรับจ้าง ทำงานตามสั่งทุกชนิด ปรากฏชื่อ นางสาว สายพิน แซ่โล้ว เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ 30 เมษายน 2568 นางสาว สายพิณ แซ่โล้ว ถือหุ้นใหญ่สุด 80% หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง สมพร แซ่โล้ว และ นางสาว ปาริฉัตร แซ่โล้ว ปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจอยู่
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า ในบรรดาเอกชนทั้ง 4 ราย ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ศาลสั่งล้มละลายไปแล้ว 3 แห่ง เหลือแค่ บริษัท เพชรนาโน จำกัด ที่ยังดำเนินธุรกิจอยู่

ขณะที่คดีนี้มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า นายสมศักดิ์ หรือนายพชร ศรีรักษา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้ถึงแก่ความตายแล้ว เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (1) และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจดำเนินการไต่สวน เพื่อดำเนินคดีอาญา หรือดำเนินการทางวินัยต่อไปได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 57 จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ
ส่วน นายสมนึก พันธุ์วงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แต่ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และมาตรา 7 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) จึงให้ยุติการดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานนี้ และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 84 วรรคสาม และมาตรา 85 วรรคสอง
กลุ่มเอกชนที่เกี่ยวข้อง บริษัท เอสทีดี โซลูชั่น จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 มีสถานะล้มละลาย โดยศาลล้มละลายกลาง ได้มีคำพิพากษา คดีหมายเลขแดงที่ ล.1575/2565 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 และบริษัท ไฮเทค เอดดูเคชั่น จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 มีสถานะล้มละลาย โดยศาลล้มละลายกลาง ได้มีคำพิพากษา คดีหมายเลขแดงที่ ล.2947/2564 เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ
ขณะที่ การกระทำของ นายประชา ขันติศิริ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นายพยงค์ เกลี้ยงสอาด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 บริษัท เพชรนาโน จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 นางสาวสายพิน แซ่โล้ว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 และนางสาวเสาวลักษณ์ จันทร์สุข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 91 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91
แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7 และมาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) จึงให้ยุติการดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานนี้
อย่างไรก็ดี ตามขั้นตอนหลังการชี้มูลความผิดคดีอาญาและวินัย คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีและส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป
ขณะที่ การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
บทสรุปท้ายสุดผลการต่อสู้คดีในชั้นศาลฯ จะออกมาเป็นอย่างไร คอยติดตามดูกันต่อไป

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา