
“...บริษัทจะไม่ขยายวันที่กำหนดให้เงื่อนไขสำเร็จครบถ้วนออกไปเพิ่มเติมแล้ว และเมื่อพ้นวันที่ 31 ก.ค. 2568 บริษัทจะพิจารณาใช้สิทธิตามกฎหมายและสัญญาร่วมลงทุนกับ สกพอ.ต่อไป ซึ่งรวมถึงการเรียกให้ชดเชยค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บริษัท จนถึงปัจจุบันรวมกันแล้วเป็นจำนวนประมาณไม่น้อยกว่า 5,100,000,000 บาท (ห้าพันหนึ่งร้อยล้านบาท)...”
“ไม่มีการขอยกเลิกโครงการแต่อย่างใด”
คือคำชี้แจงของ ‘จุฬา สุขมานพ’ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.หรือ EEC) ที่มีถึงกระแสข่าวที่ บจ.อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น (UTA) เอกชนผู้รับสัมปทานโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่าโครงการ 290,000 ล้านบาท ส่งหนังสือสอบถามความคืบหน้าในการส่งมอบหนังสือให้เริ่มงาน (NTP: Notice to Proceed) โครงการ
ซึ่งเลขาธิการ EEC บอกกับสำนักข่าวอิศราเพียงว่า UTA ส่งหนังสือเพื่อสอบถามความคืบหน้าในการส่งมอบ NTP ว่าจะทันวันที่ 31 ก.ค.นี้เท่านั้น และยังกังวลความต่อเนื่องของโครงการที่เอาไปโยงไว้กับ ‘โปรเจ็กต์รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน’ ซึ่งยังลูกผีลูกคน เพราะเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่หากไม่เคลียร์ให้จบ ก็ส่งมอบโครงการไม่ได้เช่นกัน
ท้ายสุด จึงนำมาสู่การประชุมคณะกรรมการ EEC ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ เพื่อหาทางออกกันต่อไป
ส่วนท่าทีเอกชน ‘วีรวัจน์ ปัณฑวังกูร’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ UTA ยังไม่สะดวกให้ข้อมูลกับสำนักข่าวอิศรา

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับจดหมายจาก UTA ที่ทำถึงนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานประธานบอร์ด EEC และนายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการ EEC แล้ว โดยทำขึ้นเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2568
โดยหัวเรื่องบอกชัดเจนว่า “แจ้งไม่ขยายเวลาวันที่กำหนดให้เงื่อนไขสำเร็จครบถ้วนเพิ่มเติม และพิจารณาใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย และสัญญาร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก”
ต่อไปนี้คือ เนื้อหาของจดหมายที่ทาง UTA ทำถึงคณะกรรมการ EEC ซึ่งมีนายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา จากบมจ.การบินกรุงเทพ (บางกอกแอร์เวย์ส) และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา จากบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการของ UTA เป็นผู้ลงนาม

(ซ้าย) อนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายงานการเงินและบัญชี บมจ.การบินกรุงเทพ (บางกอกแอร์เวย์ส) และ (ขวา) สุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการใหญ่สายธุรกิจ MOVE บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) ทั้งสองคนคือ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการของ UTA ที่ส่งหนังสือมาถึง EEC ในครั้งนี้
@ไม่ขยายเวลาอีก พร้อมเรียกค่าเสียหาย 5,100 ล้านบาท
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.หรือ EEC) ขอให้มีการพิจารณาขยายวันที่กำหนดให้เงื่อนไขสำเร็จครบถ้วน และ บจ.อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น (UTA) ตกลงขยายวันดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ 31 ก.ค. 2568
บริษัท ได้มีหนังสือขอให้ สกพอ. พิจารณาแก้ไขปัญหาของโครงการตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2567 และต่อมาบริษัท ได้แจ้งปัญหาทั้งหมดในปัจจุบันของโครงการ พร้อมทั้งได้นำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งหมด เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้
บัดนี้ ระยะเวลาได้ล่วงเลยมากกว่า 7 เดือน จนพ้นกำหนดวันที่ 18 มิ.ย. 2568 ซึ่งเป็นวันที่เดิมในสัญญาร่วมลงทุนกำหนดให้เงื่อนไขบังคับก่อนสำหรับการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มนับระยะเวลาโครงการ (Notice to Proceed: NTP) สำเร็จครบถ้วน และบริษัทได้มีการขยายวันดังกล่าวตามที่ สกพอ.ร้องขอออกไปหลายคราวจนถึงวันที่ 31 ก.ค. 2568 ซึ่งเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว แต่เงื่อนไขบังคับก่อนนั้นก็ยังไม่แล้วเสร็จครบถ้วนและการแก้ไขปัญหาในปัจจุบันทั้งหมดของโครงการ ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ
ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงขอเรียนว่า บริษัทจะไม่ขยายวันที่กำหนดให้เงื่อนไขสำเร็จครบถ้วนออกไปเพิ่มเติมแล้ว และเมื่อพ้นวันที่ 31 ก.ค. 2568 บริษัทจะพิจารณาใช้สิทธิตามกฎหมายและสัญญาร่วมลงทุนกับ สกพอ.ต่อไป ซึ่งรวมถึงการเรียกให้ชดเชยค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บริษัท จนถึงปัจจุบันรวมกันแล้วเป็นจำนวนประมาณไม่น้อยกว่า 5,100,000,000 บาท (ห้าพันหนึ่งร้อยล้านบาท) โดยสรุปข้อมูลค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายทั้งหมดปรากฎตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิที่จะเรียกค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายอื่นใดในอาคตที่จะเกิดขึ้นเพิ่มเติม



@ย้อนดูเงื่อนไขส่งมอบ NTP ‘อู่ตะเภา’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเงื่อนไขบังคับก่อนเริ่มต้นนับระยะเวลาโครงการ มีดังนี้
1.เมื่อ สกพอ. ได้ส่งมอบพื้นที่โครงการฯตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในแผนการเตรียมและส่งมอบพื้นที่โครงการ ซึ่งอย่างน้อยต้องมีการสำรวจพื้นที่ภายในสนามบินอู่ตะเภาทั้งหมดเพื่อรังวัดและกำหนดขอบเขตพื้นที่โครงการ ขอบเขตพื้นที่ที่ สกพอ. และเอกชนคู่สัญญารับผิดชอบ และเพื่อสำรวจหาสาธารณูปโภค รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างและวัตถุอื่นใด และมีการรื้อย้ายแล้วเสร็จในสิ่งปลูกสร้าง สาธารณูปโภค และสิ่งอื่นใดในพื้นที่โครงการที่หน่วยงานของรัฐประสงค์จะถือเอาและ/หรือมีกฎหมายไทยกำหนดให้อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ สกพอ. จะไม่ส่งมอบพื้นที่โครงการ ให้แก่เอกชนคู่สัญญาก่อนครบระยะเวลา 18 เดือน นับจากวันที่สัญญาร่วมลงทุนมีผลใช้บังคับหรือระยะเวลาอื่นที่คู่สัญญาตกลงกัน
2. เมื่อ สกพอ. ได้ลงนามในสัญญาให้เช่าพื้นที่ภายในสนามบินอู่ตะเภาทั้งหมดกับผู้ประกอบการกิจการสาธารณูปโภคในส่วนประปาและไฟฟ้า
3. เมื่อกองทัพเรือ (ทร.) ได้ออกประกาศเชิญชวนจัดซื้อจัดจ้างหรือหนังสือเชิญชวนจัดซื้อจัดจ้างผู้รับจ้างเพื่อดำเนินงานก่อสร้างทางวิ่งที่สอง
4.เมื่อคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโยบาย หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายไทยได้อนุมัติให้กรมทางหลวงหรือหน่วยงานของรัฐอื่นดำเนินโครงการก่อสร้างทางเชื่อมที่เชื่อมระหว่างพื้นที่โครงการกับถนนสุขุมวิท
5. เมื่อมีการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างโครงการรถไฟความเร็วสูงและโครงการ (อย่างน้อยต้องประกอบด้วยผู้แทนของ สกพอ. ผู้แทนของ รฟท. ผู้แทนของผู้ร่วมลงทุนของโครงการรถไฟความเร็วสูง ผู้แทนของเอกชนคู่สัญญา และผู้เชี่ยวชาญตามที่ สกพอ. เห็นสมควร) และคณะกรรมการดังกล่าวได้จัดทำเอกสารตามที่กำหนดไว้ในสัญญาร่วมลงทุนแล้วเสร็จ เว้นแต่คู่สัญญามีการตกลงเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ การจัดทำแผนงานข้างต้นจะอยู่ในรูปแบบและเนื้อหาตามที่ สกพอ. กำหนด และแผนงานดังกล่าวทั้งหมดจะต้องเป็นที่ยอมรับของเอกชนคู่สัญญาก่อนด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูการประชุมบอร์ด EEC ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ว่าจะสามารถหาทางออกให้กับปัญหาใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นได้หรือไม่?
เพราะถ้าไม่ได้ ก็ไม่แคล้วจะต้องถูกจารึกเป็นหนึ่งใน ‘ค่าโง่’ ที่ซ้ำรอยกับหลายๆโครงการในอดีตนั่นเอง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แสดงความยินดีกับนายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพการบิน (BA) (ยืนขวา) ในฐานะตัวแทนบจ. UTA หลังจากลงนามในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล
ที่มาภาพ: Facebook EEC
อ่านประกอบ
- ‘อัยการฯ’ ตรวจสัญญาไฮสปีด 3 สนามบินใกล้จบ จับตาค่ารถไฟฟ้า 20 บาท อาจทำสะดุดอีกรอบ
- 'อีอีซี’ ขยายเวลา 1 เดือน ส่งมอบ NTP สนามบินอู่ตะเภา รับ UTA มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญา
- ขีดเส้น 18 มิ.ย. 68 ส่งมอบ ‘สนามบินอู่ตะเภา’ - ไฮสปีดรอ ‘อัยการ’ ตรวจร่างสัญญา
- ครม.อนุมัติ 'คลัง‘ กู้ AIIB สร้างรันเวย์ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา 13,891 ล้านบาท
- ‘สุริยะ’ ชี้แก้สัญญาไฮสปีด ไม่ได้เอื้อใคร ผุดทางด่วน 2 ชั้นแก้จราจร
- ลุ้นบอร์ดรถไฟนัด 13 มี.ค. 68 พิจารณาร่างแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน
- สตง.แนะไฮสปีด 3 สนามบิน การแก้สัญญาควรยืนอยู่บนหลักการร่วมทุน
- ชงร่างสัญญาใหม่ ไฮสปีด 3 สนามบินให้ ‘อัยการฯ’ ตรวจ คาด เม.ย. 68 ก่อสร้าง
- ‘ภูมิใจไทย’ ขวางเสนอ ครม.อนุมัติแก้สัญญาไฮสปีด หวั่นลาม รมต.ร่วมรับผิดชอบ-รัฐเสียประโยชน์
- ไฮสปีด 3 สนามบิน จบไม่ลง ถกเถียงหลักเกณฑ์เสนอ ครม.
- พรรคร่วมฯ’ ขวาง ดันแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบินเข้า ครม.
- สุริยะ’ ยันแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน ไม่มีเอื้อ ซี.พี.
- ปะชาชน’ ถามแก้สัญญาไฮสปีดเอื้อเอกชนหรือไม่? ‘พิชัย’ โต้แต่ละเงื่อนไขบีบวางหลักประกัน
- เปิดรายงาน‘สตง.’ชำแหละ‘ไฮสปีด 3 สนามบิน’ล่าช้า เสี่ยง‘ค่าโง่’-พบ‘คู่สัญญา’ขาดสภาพคล่อง
- สตง.เตือน‘ไฮสปีด 3 สนามบิน’เสี่ยงค่าโง่-แบ่งจ่าย'แอร์พอร์ตเรลลิงก์’กระทบหลักการร่วมทุนฯ
- บอร์ดอีอีซี อนุมัติเงียบ แก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน เร่งชงครม. ต.ค.นี้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา