
'สรรพสามิต' ออกข่าวแจงเป็นทางการ! กรณี จนท.สระบุรี มั่วอ้างตาวัย 80 ปี ติดหนี้บังคับคดีรถยนต์คันแรกหลักแสน ตามสืบทรัพย์ถึงบ้าน ยันดำเนินการตามขั้นตอนบังคับคดี หลังพบเป็นบุคคลคนละคนกับลูกหนี้ ยุติทันที พร้อมทั้งกล่าวขอโทษ ทำความเข้าใจเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ก่อนหน้านี้ ญาติโวยไม่รอบคอบ หากตกใจซ็อก-ป่วย ใครรับผิดชอบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีปรากฏข่าวมีผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตจังหวัดสระบุรี ในการเข้าติดตามบังคับคดีชายสูงอายุ วัย 80 ปี บ้านหัวถนน หมู่ 6 ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี โดยอ้างว่าค้างชำระกรณีรถยนต์คันแรกประมาณหลักแสนบาท แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า เป็นคนละคันกันเพียงมีชื่อและสกุลเหมือนกัน

- ร้อง‘สรรพสามิต’ มั่ว! ส่ง จนท.สืบทรัพย์ ‘ตาวัย 80 ปี อ้างบังคับคดี ก่อนพบ ‘คนละคน’ กัน
- แค่ไปตรวจสอบชื่อ! อธิบดีสรรพสามิตแจงกรณีจนท.สระบุรีมั่วสืบทรัพย์ตาวัย80 ปี คดีรถคันแรก
ล่าสุด กรมสรรพสามิต ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ชี้แจงกรณีนี้เป็นทางการน ระบุว่าเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพย์ในจังหวัดสระบุรีตามขั้นตอนบังคับคดีจากลูกหนี้โครงการรถยนต์คันแรก ก่อนพบว่าผู้ครอบครองทรัพย์ในพื้นที่เป็นบุคคลคนละคนกับลูกหนี้ เพียงแต่มีชื่อ-นามสกุลตรงกัน จึงยุติการดำเนินการโดยทันที พร้อมทั้งกล่าวขอโทษ ทำบันทึกข้อเท็จจริงและทำความเข้าใจกับเจ้าของทรัพย์เรียบร้อยแล้ว
โดย ดร. นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจากการดำเนินงานตามกระบวนการบังคับคดีจากลูกหนี้ในโครงการรถยนต์คันแรกตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งกรมสรรพสามิตได้รับแจ้งข้อมูลว่า ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของศาลชื่อนายสนั่น XXX มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแห่งหนึ่งในอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนเข้าสู่ขั้นตอนบังคับคดี เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สระบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพทรัพย์สินจริง เพื่อยืนยันว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของลูกหนี้ตามคดีหรือไม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนส่งเรื่องไปยังหน่วยงานบังคับคดีในพื้นที่
เมื่อเจ้าหน้าที่สรรพสามิต พื้นที่สระบุรีลงพื้นที่พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พบผู้ครอบครองทรัพย์ ชื่อ นายสนั่น XXX แต่เป็นบุคคลละคนกับลูกหนี้ตามคดี โดยมีเลขประจำตัวประชาชนและภูมิลำเนาตรงกัน ผู้ครอบครองทรัพย์ ได้นำเอกสารมายืนยันยันต่อเจ้าหน้าที่ว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีรถยนต์คันแรก และเมื่อทราบข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ยุติการดำเนินการทันทีพร้อมทั้งกล่าวขอโทษ และขอให้มีการลงบันทึกเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐาน
โฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวต่อว่า การดำเนินการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบทรัพย์ดังกล่าวเป็นการดำเนินการในขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทรัพย์ที่กรมสรรพสามิตได้รับแจ้ง ซึ่งเป็นการดำเนินการตามปกติเพื่อความรอบคอบและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน หากมีการบังคับคดีเกิดขึ้นโดยกรมสรรพสามิตจะมีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทรัพย์นั้น หากพบว่าทรัพย์นั้นเป็นของลูกหนี้ในโครงการรถยนต์คันแรกจริง จึงจะดำเนินการส่งให้บังคับคดีจังหวัดทำการบังคับคดีต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าหาที่สรรพสามิตสระบุรีได้ทำการชี้แจงให้ทราบในขั้นตอนการปฏิบัติและได้ทำความเข้าใจกับนายสนั่น XXX เพื่อยืนยันว่าไม่ได้เป็นลูกหนี้ตามคดีดังกล่าวแต่อย่างใด
โฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมสรรพสามิต ขอยืนยันว่าการลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพย์เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่กำหนดไว้ เพื่อให้การบังคับคดีเป็นไปอย่างถูกต้องและรอบคอบ เมื่อพบว่าผู้ครอบครองทรัพย์ไม่ใช่ลูกหนี้ตามคดี เจ้าหน้าที่ได้ยุติการดำเนินการทันที พร้อมชี้แจงและขอโทษเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตยังคงยึดมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ถูกต้องตามกฎหมาย และคำนึงถึงสิทธิของประชาชนเป็นสำคัญ
อนึ่งก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจากญาติของนายสนั่น ว่า กรณีนี้ ต้องการสื่อไปถึงผู้บริหารหน่วยงานกรมสรรพาสามิต กระบวนการทำงาน ตรวจสอบข้อมูล กระบวนการสืบทรัพย์ ควรกระทำอย่างรอบคอบ ไม่ผิดพลาดอันส่งผลกระทบต่อประชาชนที่สุจริต และควรตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหากพบว่าเลินเล่อในเรื่องกระบวนการตรวจสอบและการเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่โดยไม่มีหมายอนุญาต
หากพบข้อเท็จจริงว่า ไม่ปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการและหรืออย่างหนึ่งอย่างใด ควรดำเนินการลงโทษด้วย
ญาตินายสนั่น ยังระบุว่า กรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า นายสนั่นมีภาษีสรรพสามิตค้างชำระกรณีรถยนต์คันแรกประมาณหลักแสนบาท ในข้อเท็จจริง นายสนั่น (สระบุรี) เคยเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์เก่าหนึ่งคัน ไม่เคยซื้อรถยนต์
เมื่อได้รับแจ้งว่า จะต้องถูกบังคับคดีและติดตามเอาทรัพย์สิน นายสนั่น ซึ่งมีอายุเกือบ 80 ปี และมีโรคประจำตัวรู้สึกตกใจ ถ้าป่วยหรือช็อกใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ และถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของเจ้าหน้าที่บ้างจะเป็นอย่างไร

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา