ปิยบุตร แสงกนกกุล : คำวินิจฉัยศาลรธน.หยุด 'ธนาธร' ไม่ได้ อนาคตใหม่ไม่เสียขวัญ

"...เคยประเมินเอาไว้แล้วตั้งแต่ตั้งพรรคว่าไม่ช้าก็เร็ว เราก็ต้องเจออะไรแบบนี้ แต่เราก็ยังเชื่อมั่นว่าด้วยความปรารถนาดีของพวกเรา ผู้มีอำนาจทั้งหลายก็ควรเปิดโอกาสให้พวกเราได้แสดงออกและช่วยกันพัฒนาบ้านเองนี้ ออกจากความขัดแย้งแบบเดิมๆ ส่วนคดีต่างๆ ตอนนี้หักคดีของนายธนาธรไปแล้วก็เหลือ 24 คดี ทางพรรคอนาคตใหม่ก็ไม่มีความกังวลที่จะสู้คดีเหล่านี้แม้ว่าคดีจะเพิ่มขึ้นก็ตาม..."

Piyabutrrrrrre

หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียงวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2562 มีข้อพิรุธหลายประการ และมีพยานหลักฐานอื่นที่มีน้ำหนักหักล้างพยานของนายธนาธรได้ จึงวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของนายธนาธร สิ้นสุดลง โดยนับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่คือ ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2562 เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 20 พ.ย.2562 ที่รัฐสภา (อ่านข่าวประกอบ : หลักฐานโอนหุ้นข้อพิรุธเพียบ! ศาล รธน.วินิจฉัยให้ 'ธนาธร'พ้น ส.ส. มีผล 23 พ.ค. 62)

นายปิยบุตร กล่าวว่า "อย่างที่เคยพูดอยู่เสมอว่าปากกาไม่ได้อยู่ที่เรา อำนาจการตัดสินคดีนั้นอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญกำหนดให้คำพิพากษารัฐธรรมนูญนั้นเป็นที่สุดและผูกพันทุกองค์กร ดังนั้น ต่อให้เราจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ในรัฐธรรมนูญนั้นก็ระบุแล้วว่าคำพิพากษาของรัฐธรรมนูญเป็นที่สุดและผูกพันทุกองค์กร"

“แต่ในส่วนของผมซึ่งเรียนกฎหมายรัฐธรรมนูญ และก็เคยประกอบอาชีพเคยเป็นอาจารย์สอนในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมขอใช้เสรีภาพที่จะแสดงความเห็นที่จะไม่เห็นด้วยต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าเมื่อไรก็ตาม ที่ศาลรัฐธรรมนูญเอาคำวินิจฉัยเต็มออกมาเผยแพร่และความเห็นส่วนตนของตุลาการแต่ละท่าน ซึ่งออกเป็น 7 ต่อ 2 ถ้าออกมาแล้วผมคงต้องใช้เสรีภาพของผมในการวิจารณ์คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอนว่าเราไม่เห็นด้วย”

ส่วนการทำงานของนายธนาธรหลังจากนี้ นายปิยบุตร กล่าวยืนยันว่า นายธนาธรยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีถ้าหากมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งใหม่ และพรรคอนาคตใหม่ก็ยังมีเส้นทางทางการเมืองอันยาวไกลต่อจากนี้อยู่

นายปิยบุตร ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับสภาฯ แล้ว ส่วนตัวก็เสียดายที่นายธนาธรไม่ได้มีส่วนเข้ามาทำหน้าที่ โดยเฉพาะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้ เพราะนายธนาธรนั้นเป็นหัวหน้าทีมในการเตรียมข้อมูลและประเด็นการอภิปรายต่างๆ โดยเฉพาะกับการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณในครั้งที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามการเมืองนั้นไม่ใช่สิ่งเกิดนสภาอย่างเดียว แต่ยังมีกิจกรรมการรณรงค์ต่างๆที่เกิดขึ้นนอกสภาด้วย

Piyabutrrrrrre2

"ขอย้ำว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ไม่มีทางหยุดยั้งความตั้งใจของนายธนาธร และไม่ทำให้ลูกพรรคเสียขวัญอย่างแน่นอน"

เมื่อถามว่าคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาวันนี้นั้นไม่ได้มีผลตัดสิทธินายธนาธรลงสมัคร ส.ส.ในอนาคต หมายความว่า นายธนาธรจะยังสามารถลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขตได้หรือไม่

นายปิยบุตรกล่าวว่า ถ้าหากดูตามรัฐธรรมนูญก็มีสิทธิที่จะลงสมัคร ส.ส.เขต ได้ แต่ตอนนี้พรรคอนาคตใหม่ยังไม่ได้พิจารณาถึงประเด็นนั้น

เมื่อถามถึงความกังวลเกี่ยวกับคดีต่างๆที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ นายปิยบุตรกล่าวว่า "ไม่ได้กังวลอะไร"

"เพราะเคยประเมินเอาไว้แล้วตั้งแต่ตั้งพรรคว่าไม่ช้าก็เร็ว เราก็ต้องเจออะไรแบบนี้ แต่เราก็ยังเชื่อมั่นว่าด้วยความปรารถนาดีของพวกเรา ผู้มีอำนาจทั้งหลายก็ควรเปิดโอกาสให้พวกเราได้แสดงออกและช่วยกันพัฒนาบ้านเองนี้ ออกจากความขัดแย้งแบบเดิมๆ ส่วนคดีต่างๆ ตอนนี้หักคดีของนายธนาธรไปแล้วก็เหลือ 24 คดี ทางพรรคอนาคตใหม่ก็ไม่มีความกังวลที่จะสู้คดีเหล่านี้แม้ว่าคดีจะเพิ่มขึ้นก็ตาม"

“หนังม้วนเก่ามันฉายไปแล้วรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมาท่านใช้หนังม้วนนี้ฉายซ้ำแล้วซ้ำอีก แล้วหนังเรื่องนี้ก็ไม่เคยทำให้ท่านสำเร็จ ผมคิดว่าหมดเวลาที่จะฉายหนังม้วนเก่าได้แล้ว ตกลงประเทศนี้จะลงทุนถึงขนาดเอาทุกองคาพยพเพื่อมาจัดการพรรคการเมือง จัดการนักการเมือง จะเอากันแบบนี้หรือครับ หนังม้วนนี้ฉายมาแล้วหลายที ผมคิดว่าควรจะปิดกองถ่ายหนังเรื่องนี้แล้วเดินหน้าไปสู่อนาคตแบบใหม่ๆดีกว่า”

ต่อข้อซักถามประเด็นเรื่องการนำเอามวลชนลงท้องถนน เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวย้ำว่า "10 กว่าปีที่ผ่านมานั้นคนมักจะมีภาพว่าการชุมนุมมายถึงความขัดแย้งและความเสียหายรุนแรง และตอนนี้ก็พยายามเอาภาพการชุมนุมในต่างประเทศเข้ามา แต่ต้องขอเรียนว่าการชุมนุมสาธารณะนั้นเป็นสิทธิเสรีภาพพื้นฐานและการชุมนุมก็ไม่ได้หมายถึงความไม่สงบเสมอไป เราสามารถชุมนุมโดยสันติได้"

เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยังกล่าวถึงกฎหมายมาตราที่ 98 วงเล็บ 3 ว่าศาลรัฐธรรมนูญในระหว่างอ่านคำพิพากษาได้พูดถึงกฎหมายมาตราดังกล่าวว่า "มีเจตนาที่จะป้องกันไม่ให้นักการเมืองมีอิทธิพลในการครอบงำสื่อ แต่ก็น่าเสียดายที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่เคยพูดถึงคดีนี้เลยว่าตกลงแล้วการเข้าไปถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดียนั้นมีส่วนในการใช้อิทธิพลในการใช้สื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือไม่ อย่างไร และสุดท้ายบรรทัดฐานจะอยู่ตรงไหน"

“ตอนนี้ ส.ส.ทั้งสภานั้นเขาก็รู้สึกไม่สบายใจว่าตัวเองจะโดนแบบนี้บ้างหรือไม่ เพราะคดียังอยู่ในศาลกันอีก 30-40 คนแต่มี ส.ส.บางคนที่ไม่ต้องลุ้นอะไรเลย ทั้งๆที่มีคู่สมรสเป็นเจ้าของสื่อ แต่คนอื่นๆที่ไม่ได้ทำสื่อหรือมีอิทธิพลต่อสื่อ กลับต้องมาลุ้น แล้วสุดท้ายเจตนารมณ์ของกฎหมายมาตรา 98 วงเล็บ 3 มันจะอยู่ตรงไหนกันแน่ ต้องการให้กฎหมายมาตรานี้จัดการกับนักการเมืองทีครอบงำสื่อจริงๆ หรือท้ายที่สุด 98 วงเล็บ 3 จะกลายเป็นเครื่องมือของสื่อบางค่ายบางสำนักที่พยายามจะขุดคุ้ยและจับผิดนักการเมือง”

ทั้งนี้ ภายหลังการให้สัมภาษณ์ของนายปิยบุตร จบสิ้นลง นายภูมิธรรม เวชชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านได้เข้ามาจับมือนายปิยบุตร พร้อมกล่าวให้กำลังใจที่ต้องเผชิญกับมรสุมหลายลูก และถ้ามีโอกาสก็จะชวนไปเลี้ยงอาหาร เลี้ยงไวน์กันข้างนอก