แม้สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในบริบทของการพูดคุยสันติสุข/สันติภาพ จะยังอึมครึม ไม่ชัดเจน และมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นเนืองๆ
แต่ในอีกด้าน คืองานการพัฒนา การส่งเสริมการค้าการลงทุน กลับมีความคืบหน้าค่อนข้างแจ่มชัด
โดยเฉพาะความร่วมมือใหม่ๆ จาก “มหามิตร” อย่าง ซาอุดีอาระเบีย หลังจากเปิดศักราชความสัมพันธ์รอบใหม่ ปิดฉากความตึงเครียดที่ดำเนินมากว่า 30 ปี
เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมคณะ เดินทางไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย เข้าพบกับผู้อำนวยการสำนักประสานงานนานาชาติหอการค้า กรุงริยาด เพื่อหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการค้า การลงทุน และสานสัมพันธ์ทางการค้า ทั้งยังมีการนำผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปพบปะกับผู้ประกอบการในซาอุดีอาระเบีย
ล่าสุดผ่านมาเพียง 1 เดือน นายขดดะรี บินเซ็น ประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย นายอับดุลหาลีม ล่าเต๊ะ คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ ผู้แทนจาก ศอ.บต. และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ได้ร่วมให้การต้อนรับ Mr. Mansour Al-Ajmi ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ หอการค้าเมืองริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ที่เดินทางเยือนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยลงเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนแนวทางด้านการค้า การลงทุน รวมถึงส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้งผลักดันการจับคู่ธุรกิจระหว่างนักลงทุนไทยและซาอุดีอาระเบีย เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน
คณะได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ มุ่งหน้าไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับ นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา โดยได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้แทนภาคส่วนต่างๆ เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดสงขลาอย่างรอบด้าน
Mr. Mansour Al-Ajmi ได้กล่าวแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น พร้อมทั้งขออวยพรให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขและความเจริญ เนื่องในโอกาสวันอีฎิ้ลอัฎฮา ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญของพี่น้องชาวมุสลิมทั่วโลก
“รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสพบปะ พูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกภาคส่วนในครั้งนี้ เพื่อแสวงหาความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ร่วมกันในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและประเทศไทย ซึ่งกำลังพัฒนาอย่างมั่นคงและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”
Mr. Mansour Al-Ajmi กล่าวเพิ่มเติมว่า รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งต่อการต้อนรับอย่างอบอุ่นเกินความคาดหมาย และขอขอบคุณจากใจจริง การเดินทางในครั้งนี้ทำให้รู้สึกสบายใจและประทับใจเป็นอย่างมาก โดยมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่การขยายความร่วมมือในหลายด้านในอนาคต
@@ ศักยภาพครบ จบที่ลงทุน
ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ หอการค้าเมืองริยาด บอกต่อว่า หลังจากที่คณะจากประเทศไทยได้เดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียเมื่อครั้งก่อน ได้รับทราบว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยมีศักยภาพโดดเด่น ทั้งยังได้รับการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจและการลงทุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
การเยือนในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ได้สัมผัสถึงความพร้อมของพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีความเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการลงทุน ทั้งในด้านการท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น
“การเดินทางในครั้งนี้เป็นการมาในนามของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน โดยมีพันธกิจหลักในการส่งเสริมความร่วมมือด้านธุรกิจและการลงทุนในระดับนานาชาติ ไม่เพียงแต่ภายในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย แต่ยังรวมถึงทั่วโลก และยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงอย่างจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ภูมิประเทศที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และวัฒนธรรมการต้อนรับที่อบอุ่นจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก”
“เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และจะนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต” Mr. Mansour Al-Ajmi กล่าว
@@ 3 ความร่วมมือ “เศรษฐกิจ - การศึกษา - ปราบยา”
นายศักดิ์กรียา บิลแสละ กล่าวว่า ในนามประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา และในฐานะประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 15 จังหวัดภาคใต้ ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง และขอต้อนรับ Mr. Mansour Al-Ajmi ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ หอการค้าเมืองริยาด แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจากราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
“การมาเยือนในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการสานต่อความสัมพันธ์และเปิดโอกาสใหม่ๆ ด้านเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการมาเยือนของท่านในครั้งนี้จะสร้างความประทับใจ และขอขอบคุณที่ให้ความสนใจเลือกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายในการขยายการลงทุน ซึ่งจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับชุมชนในพื้นที่ และเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคในระยะยาว”
นายขดดะรี บินเซ็น กล่าวว่า การมาเยือนของประธานหอการค้าในวันนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมสร้างความร่วมมือทั้งสองประเทศในประเด็นสำคัญ ได้แก่
1. การส่งเสริมเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในอนาคต
2. ความร่วมมือด้านการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนในพื้นที่
3. การแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยัง อ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อเยี่ยมชมสภาพพื้นที่โดยรอบและรับฟังข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับศักยภาพของ อ.จะนะ ในด้านต่างๆ ก่อนจะเดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.ปัตตานี เพื่อเข้าร่วมงาน “ฮัลโหลแดนใต้ปลายด้ามขวาน Southern Border Connect Expo 2025” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้โครงการมหกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่สนามออมทอง โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี
@@ เยือนสถาบันฮาลาล มอ.ปัตตานี - การแพทย์แผนไทยเทพา
ช่วงที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดนใต้ Mr. Mansour Al-Ajmi ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือระหว่างประเทศหอการค้าเมืองริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ได้เข้ารับฟังการขับเคลื่อนงานของสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ซึ่งเป็นสถาบันฮาลาลชั้นนำของระเบียงอิสลามในภูมิภาคอาเซียน ขับเคลื่อนและยกระดับระบบกิจการฮาลาลครบวงจร สู่การยอมรับระดับนานาชาติ
ปัจจุบัน สถาบันฮาลาลมีหลักสูตรที่เปิดสอน 3 หลักสูตร ได้แก่ HALAL SYSTEM MANAGEMENT การจัดการระบบกิจการฮาลาล, HALAL LOGISTICS MANAGEMENT การจัดการระบบโลจิสติกส์ฮาลาล และ Halal tourism and hospitality management การจัดการการท่องเที่ยวและบริการฮาลาล
ทั้งนี้ มีเป้าหมายเน้นการพัฒนากำลังคน กล่าวคือ เน้นการสร้างกำลังคนและพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรด้านฮาลาลผ่านหลักสูตรระยะสั้น “การจัดการระบบกิจการฮาลาล” และหลักสูตรอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการในอนาคต
อีกทั้งยังมีบริการศูนย์วิจัยและนวัตกรรม บริการวิชาการ รวมถึงสร้างเครือข่าย โดยเฉพาะกลุ่มโลกมุสลิม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบการรับรองมาตรฐานฮาลาลไทยผ่านการพัฒนากำลังคน และการตรวจวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ด้านฮาลาล
จากนั้น Mr. Mansour Al-Ajmi ได้เดินทางไปยังวิทยาลัยชุมชน อ.เทพา จ.สงขลา เยี่ยมชมการแพทย์แผนไทย ภายใต้โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการนวดไทยเพื่อสุขภาพ ภาษาอาหรับ และวัฒนธรรม เพื่อการทำงานในประเทศตะวันออกกลาง โดยใช้หลักสูตรการนวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง ฝึกฝนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
พร้อมกันนี้ยังได้พูดคุยกับผู้เข้ารับการฝึกอบรมการนวดว่า ปัจจุบันตลาดทางตะวันออกกลางมีความต้องการแรงงานเพื่อไปประกอบอาชีพ “แพทย์แผนไทย” จำนวนมาก พร้อมกล่าวรู้สึกชื่นชมผู้เข้าร่วมฝึกการนวดแผนไทยทุกคน ขอให้ทุกคนตั้งใจฝึกฝนวิชาชีพนี้จนมีฝีมือ อนาคตหากได้รับคัดเลือกไปเป็นแรงงานในตะวันออกกลาง เชื่อว่าจะทำให้มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง และคุณภาพชีวิตดีขึ้นด้วย
นอกจากนั้น ยังได้ไปเยี่ยมชม ด่านศุลกากรสะเดา (แห่งใหม่) และนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา ซึ่งทางหอการค้าซาอุดีอาระเบียมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่ทองคำ ใกล้ด่านสะเดา และมีการขนส่งคมนาคมที่พร้อม ทั้งรถไฟทางคู่ ขนส่งทางเรือ รวมถึงอื่นๆ
ข้อได้เปรียบในพื้นที่ คือ มีความพร้อมทั้งเรื่องของวัตถุดิบ กำลังแรงงาน การวิจัยและนวัตกรรม อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางอาเซียน ถือเป็นฐานการผลิตที่ดีในการส่งออกในประเทศใกล้เคียง