
บรรยากาศหนึ่งที่สวนทางกับข่าวสารจากชายแดนใต้ คือ ความคึกคักของนักท่องเที่ยว และสถานที่ท่องเที่ยวทั้งเก่า ทั้งใหม่ และ “อันซีน” ซึ่งมีสีสันเป็นอย่างยิ่ง
ปัจจุบันการท่องเที่ยวในพื้นที่ปลายด้ามขวานได้รับความสนใจอยางกว้างขวาง มีนักเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศหลั่งไหลกันไปเยือนสถานที่ต่างๆ มีการรีวิวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เปิดเพจทางสื่อสังคมออนไลน์แนะนำของดี ของอร่อย ของหายาก หรือแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์มากมาย
ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่ ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีสำนึกรักบ้านเกิด
เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ร่วมกับวิทยาลัยชุมชนนราธิวาส กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างประเทศ ได้ประกอบอาชีพและผ่านการรับรองสมรรถนะในการปฏิบัติงาน “การฝึกอบรมวิชามัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยว” หลักสูตรการฝึกอบรมมัคคุเทศก์ทั่วไป (ต่างประเทศ) รุ่นที่ 2 ที่ห้องประชุมน้อมเกล้า อาคาร ศอ.บต. อำเภอเมือง จ.ยะลา

โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมเป็นเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และจบการศึกษาจากต่างประเทศกว่า 40 คน มี นางกนกรัตน์ เกื้อกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดกิจกรรม
ในการฝึกอบรมมัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยว แบ่งออกเป็น 2 กิจกรรม ประกอบด้วย
- การฝึกอบรมไกด์
- การศึกษาเส้นทางในจังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศไทย
โดยจะมีการฝึกอบรมเป็นเวลา 2 เดือน ระหว่างวันที่ 29 พ.ค. ถึง 29 ก.ค.2568 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้มีโอกาสสอบวัดความรู้ใบประกอบวิชาชีพมัคคุเทศก์ และเพื่อให้เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จบการศึกษาจากต่างประเทศ และมีทักษะภาษามลายู อาหรับ ภาษาาอังกฤษ และภาษาอื่นๆได้มีงานทำในพื้นที่ถิ่นกำเนิด

นางกนกรัตน์ เกื้อกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า เป็นโครงการต่อจิ๊กซอว์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะ “มัคคุเทศก์” ที่เป็นคนในพื้นที่จริงๆ จะสามารถต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และสร้างความเข้าใจที่ดีต่อนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่เข้าเที่ยวประเทศไทยได้ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะ จึงมีเสน่ห์ และต้องการคนพื้นที่จริงๆ มาทำหน้าที่นี้
“เราหวังให้นักท่องเที่ยวหลงใหลในวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร ความเป็นอยู่ของพื้นที่ปลายด้ามขวาน สามารถสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพและประเทศต่อไปในอนาคต” ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. บอก
และย้ำถึงคุณสมบัติสำคัญของงานนำเที่ยว ดูแลนักท่องเที่ยว...
“ไกด์หรือมัคคุเทศก์จำเป็นต้องรู้จุด Landmark และสถานที่สำคัญที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมบ้านเมืองเรา ให้มีความรู้สึกมาครั้งนี้ แล้วอยากมาตลอดไป”

ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินงานนั้น ศอ.บต.บูรณาการการทำงานร่วมกับวิทยาลัยชุมชนนราธิวาส กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดกิจกรรมขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สำเร็จการศึกษาและผู้ที่สนใจได้แสดงศักยภาพความสามารถทางวิชาชีพตามมาตรฐานที่กำหนด และเพื่อสนับสนุนการประเมินและรับรองสมรรถนะให้เป็นไปตามมาตรฐานอาชีพและเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ
พร้อมกันนี้ยังเป็นการส่งเสริมการมีงานทำ เพิ่มโอกาสในการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน
โดยการอบรมมัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยว จะแบ่งออกเป็นการอบรมความรู้ด้านวิชาการ วิชาความรู้พื้นฐาน, และความรู้เฉพาะทาง
@@ ผลักดันศูนย์ซ่อมสร้างกายอุปกรณ์ที่ยะลา เสริมพลังผู้พิการ

อีกกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา (อบจ.ยะลา) เจ้าหน้าที่กองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจการพิเศษ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่ประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของ “ศูนย์ซ่อมสร้างกายอุปกรณ์ จ.ยะลา” พร้อมติดตามการจัดตั้งของ “ศูนย์ซ่อมบำรุงกายอุปกรณ์และพัฒนานวัตกรรมการศึกษาพิเศษอาชีวศึกษาจังหวัดยะลา (วิทยาลัยเทคนิคยะลา)” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก อบจ.ยะลาที่บูรณาการกับส่วนราชการในพื้นที่
นางปารีดา มะสะอะ หัวหน้าฝ่ายบริหารงานสาธารณสุข อบจ.ยะลา กล่าวว่า ปีนี้ อบจ.ยะลา ได้ดูแลในส่วนของชมรมคนพิการในการผลักดันการจัดตั้งศูนย์ซ่อมสร้างกายอุปกรณ์ จ.ยะลา ให้สามารถขับเคลื่อนงานได้ เพื่อให้คนพิการหรือกลุ่มคนเปราะบางสามารถพึ่งพาตนเองได้โดยไม่เป็นภาระของครอบครัวหรือสังคม รวมทั้งทำให้ตนเองรู้สึกมีคุณค่าและใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
“ภาครัฐโดยเฉพาะท้องถิ่น ยืนยันจะยืนเคียงข้าง ไม่ทอดทิ้ง และส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับผู้พิการต่อไป” นางปรีดา กล่าว

ด้าน นายวสันต์ แสงเตา รองประธานฝ่ายบริหารชมรมกีฬาคนพิการ จ.ยะลา กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์ซ่อมสร้างกายอุปกรณ์ ว่า การจัดตั้งศูนย์ฯ ริเริ่มมาจากการลงพื้นที่แล้วพบเจอกับคนพิการ ซึ่งมีอุปกรณ์ที่ชำรุดและไม่สามารถซ่อมแซมเองได้ หรือไม่มีที่ซ่อม จึงเกิดแนวความคิดในการจัดตั้งศูนย์ซ่อมสร้างกายอุปกรณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ
“วันนี้รู้สึกดีใจที่ภาครัฐได้เข้ามามีส่วนช่วยผลักดันการทำงานของผู้พิการ ทำให้ผู้พิการมีที่ยืนอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม”
ขณะที่ นายวุฒิชัย รัตน์น้อย รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคยะลา กล่าวถึงบทบาทการทำงานของศูนย์ซ่อมสร้างกายอุปกรณ์ว่า ทางวิทยาลัยเทคนิคยะลาได้ดึงนักศึกษามาช่วยในการซ่อมแซมกายอุปกรณ์ที่ชำรุด เช่น รถวิลแชร์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีการส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้เพิ่มเติมในส่วนของการเย็บเบาะรองนั่ง เพื่อที่จะนำวิชาที่ได้รับมาถ่ายทอดให้กับผู้พิการได้มีความรู้ในเบื้องต้น และสามารถดูแลรักษากายอุปกรณ์ได้ด้วยตนเอง
@@ สนองพระกระแสรับสั่ง “กรมสมเด็จพระเทพฯ”

อีกด้านหนึ่ง นายแวปันดี วาเย๊ะ ผู้อำนวยการกลุ่มอํานวยการและบริหาร กองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจการพิเศษ ศอ.บต. กล่าวว่า กว่า 6 ปี จากพระกระแสรับสั่งของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยผู้พิการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ดำริให้ ศอ.บต.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลด้านคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้พิการ จึงเกิดการริเริ่มในการสนับสนุนกายอุปกรณ์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการใช้ชีวิตของผู้พิการ
ต่อมาเป็นการพัฒนาด้านคุณภาพชีวิตของผู้พิการ การส่งเสริมอาชีพให้มีรายได้ แต่จะต้องเป็นการประกอบอาชีพที่บ้าน เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้สามารถดูแลครอบครัว รวมถึงบุตรหลานของตนเองได้ด้วย
“ดังนั้นหัวใจสำคัญของการดูแลกลุ่มผู้พิการหรือกลุ่มเปราะบาง คือ ผู้พิการจะต้องได้รับความเท่าเทียมเสมือนคนปกติทั่วไป ให้เขาสามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และใช้ชีวิตอยู่เหมือนคนทั่วไปได้อย่างมีความสุข” นายแวปันดี กล่าว
