
รมช.เกษตรและสหกรณ์ป้ายแดง “อามินทร์ มะยูโซ๊ะ” สร้างกระแสฮือฮาทันทีเมื่อเข้ารับหน้าที่รัฐมนตรีจากชายแดนใต้ โดยประกาศนโยบายผลักดันราคายางพาราให้ขึ้นไปแตะระดับ 70 - 100 บาทต่อกิโลกรัมให้ได้ภายใน 4 เดือน ซึ่งเป็นอายุของรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
พร้อมยืนยันอย่างหนักแน่นว่า จะไม่ยอมให้ราคายางพารา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ลดต่ำลงกว่านี้อีกแล้ว
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการลงพื้นที่ จ.ยะลา เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ต.ค.68 โดย รมช.อามินทร์ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าสำคัญที่ 4 หน่วยงานหลักในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำ บันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) กับ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เพื่อเพิ่มการใช้ยางพาราในประเทศ ในการผลิตยางรถยนต์และท่อน้ำต่างๆ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการดึงราคายางพาราให้สูงขึ้นและมีความมั่นคง
นายอามินทร์ ประกาศเรื่องนี้บนเวทีตลาดกลางยางพาราจังหวัดยะลา ซึ่งจัดขึ้นที่ อำเภอเมืองยะลา จ.ยะลา
@@ “ธรรมนัส” นำทีม “รมต.กล้าธรรม” ลุยส่งเสริมใช้ยางพารา

สำหรับการทำ MOU ส่งเสริมการใช้ยางพาราในภาครัฐ ซึ่ง รมช.อามินทร์ พูดถึงนั้น มีการแถลงข่าวความร่วมมือกันเมื่อวันที่ 2 ต.ค.68 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้นำ 3 กระทรวงที่อยู่ในความรับผิดชอบของพรรคกล้าธรรม คือ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมลงนาม MOU ว่าด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ยางพาราในภาครัฐกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ สร้างเสถียรภาพราคา และยกระดับคุณภาพชีวิตชาวสวนยาง
เป้าหมายหลักคือการผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐนำผลิตภัณฑ์ยางพาราไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง โดยกระทรวงเกษตรฯ จะเป็นผู้ประสานงานและบูรณาการความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังมีการลงนามความร่วมมือระหว่าง กยท. กับ กรมชลประทาน เพื่อวิจัยและพัฒนาวัสดุยางพาราสำหรับงานชลประทานโดยเฉพาะด้วย
ร.อ.ธรรมนัส ได้ตั้งเป้าหมายชัดเจนว่า ภายในเดือน ต.ค.นี้ ราคาน้ำยางสดจะต้องขยับขึ้นไปถึง 60–70 บาทต่อกิโลกรัม จากระดับปัจจุบันที่ประมาณ 50 บาท และภายในสิ้นเดือนพ.ย. ราคาจะต้องปรับสูงขึ้นอีก เพื่อให้ชาวสวนยางมีความสุขในการเคาท์ดาวน์สิ้นปี 2568 โดยจะมีการออกระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดให้หน่วยงานภาครัฐเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ยางพาราจาก กยท. ซึ่งความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่เน้นเรื่องยางพาราเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมพืชเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด และมันสำปะหลัง โดยจะมีการประสานกับกระทรวงพลังงานและกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้างมาตรการสนับสนุนราคาพืชผลให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงด้วย
@@ นำทีมปศุสัตว์ทำหมันหมา-แมว ฉีดวัคซีนสกัดพิษสุนัขบ้า

สำหรับกิจกรรมของ รมช.อามินทร์ ที่ จ.ยะลา นอกเหนือจากการผลักดันราคายางพารา ตามนโยบายของเจ้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว เขายังเดินหน้าสร้างความ “อยู่ดีมีสุข” ให้ชาวใต้ในมิติอื่นๆ ด้วย โดยเป็นประธานเปิดโครงการเร่งรัดผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมว เพื่อควบคุมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่เสี่ยง ณ ตลาดกลางยางพารา อำเภอเมืองยะลา ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยฯ ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
กิจกรรมดังกล่าว กรมปศุสัตว์ได้นำหน่วยบริการเคลื่อนที่มาให้บริการ ผ่าตัดทำหมันและฉีดวัคซีนสุนัขและแมวกว่า 400 ตัว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการและบริการให้คำปรึกษาด้านการเกษตรจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงฯ เช่น ส.ป.ก., กรมชลประทาน และ กรมประมง เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกรอีกด้วย
วันเดียกวัน รมช.อามินทร์ ได้เดินหน้าสร้างความเข้าใจและสานสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยได้เดินทางไปพบปะพี่น้องชาวมุสลิมที่มัสยิด 5 แยกสะเตง ต.สะเตง อำเภอเมืองยะลา และเยี่ยมเยียนชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ศาลเจ้าแม่ก่อเหนี่ยวยะลา
ถือเป็นการบุกพื้นที่ทั้งงานในนโยบายด้านเกษตร และงานการเมือง เป็นครั้งแรกของ “รมช.อามินทร์” สส.นราธิวาส สมัยแรก ที่ผงาดขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทันที ในรัฐบาล “4 เดือน” ภายใต้การนำของพรรคภูมิใจไทย หลังเจ้าตัวเปลี่ยนสีเสื้อจากพลังประชารัฐ เป็นพรรคกล้าธรรม!
