
เหตุกราดยิงที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.โฆษิต อ.ตากใบ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย หนึ่งในนั้นคือ เด็กหญิงวัยเพียง 8-9 ขวบ และบาดเจ็บอีก 2 รายนั้น
เมื่อ “ทีมข่าว” เข้าไปสังเกตการณ์ยังที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน ทำให้พบว่าเป็นลักษณะการ “ยิงยกครัว - ยิงไม่เลือกหน้า” แต่เป้าหมายคือชุมชนชาวไทยพุทธ ซึ่งปลูกสร้างบ้านอยู่ติดๆ กันหลายหลัง
วิธีการก่อเหตุของคนร้าย คือกราดยิงจากด้านนอกบ้าน เข้าไปภายในบ้าน ซึ่งมีคนอยู่ข้างใน แต่ไม่ได้บุกเข้าไปยิงซ้ำถึงในบ้าน ทำให้เหยื่อบางคนได้รับบาดเจ็บ ไม่เสียชีวิตทั้งหมด และเหยื่อบางรายรอดคมกระสุน
ไล่เรียงรายชื่อผู้เสียชีวิต นายดำ จันทร์คง อายุ 46 ปี ด.ญ.สสิตา จันทร์คง อายุ 9 ขวบ และ นายแดง ตุนาสุข อายุ 59 ปี
ผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ นายเชาว์ จันทร์คง อายุ 44 ปี และ นายภาคีไนย รังเสาร์ อายุ 29 ปี
@@ แม่ของเด็กหญิงเล่านาทีสังหาร - พฤติการณ์คนร้าย

จากปากคำของ นางเฉลิมศรี เรือนสังข์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ และรอดตายมาได้ แต่ต้องเสียลูกสาว คือ ด.ญ.สสิตา จันทร์คง และสามี คือ นายเชาว์ จันทร์คง ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ทราบรายละเอียดของเหตุการณ์มากขึ้น
- คนร้ายมากัน 6 คน ขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ 3 คัน คันแรกจอดที่หน้าบ้าน คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนสงคราม (คาดว่าเป็นเอ็ม 16) ยิงถล่มเข้ามาในบ้าน โดยขณะนั้นแง้มประตูเอาไว้ นางเฉลิมศรีนั่งอยู่ข้างลูกสาว ส่วนนายแดง รวมทั้งนายภาคีไนย และนายเชาว์ สามีของนางเฉลิมศรี นั่งอยู่อีกกลุ่มหนึ่ง กำลังนั่งดูทีวีกันอยู่
- กระสุนที่ยิงเข้ามาทำให้นายแดงกับลูกสาวเสียชีวิต ส่วนนายภาคีไนยและนายเชาว์ สามี ได้รับบาดเจ็บ ส่วนนางเฉลิมศรีไม่โดนกระสุนปืน

- คนร้ายชุดที่ 2 จอดรถอยู่หน้าบ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ติดกัน ขณะเกิดเหตุ มีเสียงปืนดังขึ้น นายดำ จันทร์คง ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ได้วิ่งออกจากบ้าน พบคนร้ายที่นั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์อยู่ จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่นายดำ จนเสียชีวิตคาที่
- คนร้ายชุดที่ 3 ได้ไปจอดรถหน้าบ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของ นายจบ ชันสิทธิ์ และใช้อาวุธปืนพกยิงถล่มใส่เข้าไปในบ้าน แต่นายจบ และสมาชิกในครอบครัวไม่อยู่บ้าน เดินทางไปร่วมงานบุญนอกพื้นที่ จึงไม่มีใครได้รับอันตราย
- หลังจากก่อเหตุ คนร้ายได้ขับขี่รถหลบหนีไป โดยมุ่งหน้าที่ไปทาง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส (ต่อเนื่องกับ อ.ตากใบ)
นางเฉลิมศรี เล่าต่อว่า เมื่อเสียงปืนสงบลง ตนจึงตั้งสติได้ จึงได้ขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลตากใบ ส่วนนายแดง ลูกสาวตน และนายดำ เสียชีวิต เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุจึงได้ช่วยกันนำร่างส่งโรงพยาบาล
@@ ล็อกเป้าบ้าน 3 หลัง รัวกระสุนถล่ม

สำหรับสภาพที่เกิดเหตุ...
จุดที่ 1 บ้านเลขที่ 1/3 ซึ่งเป็นบ้านของนางเฉลิมศรี ที่ต้องสูญเสียลูกสาว และสามีได้รับบาดเจ็บ พบร่องรอยของกระสุนปืนที่บริเวณฝาผนังปูนด้านขวามือ 2 จุด และกระสุนทะลุประตูไม้เข้าไป ถูกคนในบ้านเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนบริเวณแคร่ไม่ไผ่หน้าบ้าน จำนวน 10 ปลอก
จุดที่ 2 หน้าบ้านเลขที่ 1/4 ซึ่งเป็นบ้านของนายดำ ที่นอนเสียชีวิตอยู่ด้านหน้า เจ้าหน้าที่ปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 8 ปลอก
จุดที่ 3 หน้าบ้านเลขที่ 1/6 ซึ่งบ้านของนายจบ ไม่มีคนอยู่บ้าน เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม.ตกอยู่ จำนวน 9 ปลอก
สำหรับพิธีศพ นายแดง ตุนาสุข จัดขึ้นที่วัดสิทธิสารประดิษฐ์ หรือ วัดโคกยาง ต.พร่อน อ.ตากใบ ส่วน ด.ญ.สสิตา จันทร์คง และนายดำ จันทร์คง ซึ่งเป็นญาติกัน ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดโคกม่วง หรือโคกมะม่วง ตำบลเดียวกัน
@@ ช่องโหว่ “ช่วงค่ำ - ชรบ.ละหมาด” คนร้ายฉวยก่อเหตุ

พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ไปร่วมงานศพของทั้ง 2 ครอบครัว พร้อมทั้งกล่าวว่า เป็นห่วงมาตังแต่แรกว่าการก่อเหตุของทางขบวนการต่อผู้นำศาสนา (ยิงอดีตอุสตาซที่สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส) ก็บิดเบือนว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นขบวนการอยู่เบื้องหลังที่นำไปสู่การก่อเหตุต่อพี่น้องไทยพุทธต่างๆ ตอบโต้ไปสู่เป้าหมาย จึงได้ย้ำในเรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัยในชุมชนต่างๆ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดงดลา เพื่อให้ทำงานได้เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ เน้นย้ำในเรื่องการนำผู้นำท้องที่ต่างๆ ชรบ.มาร่วมกันรักษาความปลอดภัย กำชับหน่วยในเรื่องของมาตรการการเดินทางต่างๆ ของพี่น้องไทยพุทธและมุสลิม กิจกรรมที่ล่อแหลมต่างๆ แต่ก็ยังเกิดช่องว่างที่ก่อเหตุทั้ง 2 เหตุการณ์ล่าสุดได้
ขณะนี้จึงเพิ่มมาตรการ คือให้ทางนายอำเภอ ฝ่ายปกครอง ร่วมกับตำรวจทหารในแต่ละพื้นที่ ชุมชนไหนที่ล่อแหลมอยู่ การใช้ชีวิตประจำวันต้องคุ้มครองมากขึ้น แต่ละคนต้องทำอะไรบ้างคื อทำอะไรต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัย ช่องว่างที่ฝ่ายตรงกันข้ามจะก่อเหตุช่วงละหมาดตอนค่ำ
“ที่ผ่านมา ฝ่ายตรงกันข้ามก่อเหตุ คือที่ก่อเหตุ สภ.โคกเคียน เมื่อวันที่ 20 เม.ย. หรือ เหตุการณ์ยิงชาวบ้านที่ อ.แว้ง และเมื่อวานเช่นเดียวกัน เลือกเวลาก่อเหตุช่วงที่ ชรบ.ไปละหมาด (ตอนค่ำ) ก็อาจจะมีการปรับแบ่งภารกิจในส่วนของเจ้าหน้าที่เอง ให้อยู่ในมาตรการ 100 เปอร์เซ็นต์ และดูว่ากำลังส่วนไหนไม่พอ ก็จะจัดไปเพิ่มเพื่อให้รองรับภารกิจได้ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุ
