องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ทำแคมเปญเรื่อง “อาคารถูกทิ้่งร้าง สร้างไม่เสร็จ” ประเมินตัวเลขงบประมาณที่สูญเสียไปกว่า 1 แสนล้าน
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มก่อความไม่สงบจากพื้นที่ชายแดนใต้ พยายามขยายพื้นที่ปฏิบัติการ และก่อวินาศกรรมในเมืองท่องเที่ยวโด่งดังอย่างจังหวัดภูเก็ต
ก่อนสิ้นเดือน พ.ค.68 ซึ่งมีเหตุรุนแรงรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงหยุดยาวสงกรานต์เดือน เม.ย. มีการสรุปสถิติเหตุการณ์ความไม่สงบ และปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่
งบดับไฟใต้ในระยะหลังๆ ถูกจัดเป็น “งบแผนงานบูรณาการ” เริ่มใช้มาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2560
เช็คผลเลือกตั้งนายกเทศมนตรีพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีทั้ง “คนเก่า” คว้าชัย และคนใหม่เข้าวิน ขณะที่โก-ลก “ภรรยา สส.บีลา” เบียดชนะ จับตาปักธงพรรคกล้าธรรม ส่วนเทศบาลนครหาดใหญ่ เมืองเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ตอนล่าง หักปากกาเซียน
สถานการณ์ของการใช้พืชกระท่อมของพี่น้องประชาชนในประเทศ ภายหลังจาก “พืชกระท่อม” ได้รับการปลดออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.64 ทำให้ประชาชนสามารถมี, ใช้, ปลูก และขายพืชกระท่อมได้
หมายเหตุความรุนแรงที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้ ต้องให้น้ำหนักไปที่ “ชุมชนไทยพุทธ” ในพื้นที่ปลายด้ามขวาน
ยุทธศาสตร์หนึ่งที่กลุ่มก่อความไม่สงบนำมาใช้ในการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเพื่อต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐไทย คือสร้างความเกลียดชังให้เกิดกับคนต่างศาสนา
การนำระเบิดแสวงเครื่องบรรทุกมากับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “รถโชเล่ย์” แล้วนำไปจอดเพื่อก่อเหตุวางระเบิดเป็น “โชเล่ย์บอมบ์” นั้น
คนพื้นที่เชื่อปมสังหาร “อส.มาหามะรอสดี” เหตุครอบครัวเคยช่วยงาน “ผกก.สมเพียร” เผยพ่อ อส.ก็ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ตามด้วยพี่เขยซึ่งเป็น อส.เช่นกันเมื่อปลายปีที่แล้ว ท่ามกลางกระแสขบวนการแบ่งแยกดินแดนเดินหน้ากำจัดชาวบ้านที่ให้ความร่วมมือฝ่ายรัฐ