จากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ย.67 ที่ผ่านมา เป็นคาร์บอมบ์เหตุการณ์ที่ 3 ของปี 67 ต่อจากคาร์บอมบ์ที่แฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา และคาร์บอมบ์ที่ทางเข้าท่าเทียบเรือปัตตานี อ.เมืองปัตตานี
ช่วงใกล้สิ้นปีงบประมาณที่จะมีการสับเปลี่ยนกำลังพลในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรงกับปลายๆ เดือนกันยายนของทุกปี ตามสถิติแล้วถือว่าเป็นอีกห้วงที่มักจะเกิดเหตุความไม่สงบขึ้นค่อนข้างถี่แทบทุกปี
เหตุรุนแรงทั้งระเบิดและเผาอาคาร บ้านพัก ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา อ.แว้ง จ.นราธิวาส เริ่มชัดเจนว่า เป้าหมายที่แท้จริงของกลุ่มคนร้าย คือ “ปล้นอาวุธปืน”
จากข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ปลายด้ามขวาน แชร์ข้อมูลที่อ้างว่ามาจากเครือข่ายผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แจ้งว่า มีการพบเห็น “โดรน” บินสอดแนมในพื้นที่ของโรงเรียนปอเนาะในเวลากลางคืน
เปิดข้อมูลแจ้งเตือนระดับตำบล สุ่มเสี่ยงโดนก่อเหตุป่วนลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ โจมตีฐานปฏิบัติการ วันสถาปนาเบอร์ซาตู 31 ส.ค. แฉปี 55 เคยฮือฮาแขวนธงมาเลย์ทั่วชายแดนใต้มาแล้ว
มีคนพูดกันว่าการเปลี่ยนรัฐบาลรอบนี้ อาจนำไปสู่เสถียรภาพทางการเมืองที่ดีขึ้นของประเทศไทย (หลังตกต่ำซ้ำๆ มาตลอดหลายปี)
วิสัยทัศน์ของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ได้โชว์เดี่ยวบนเวทีของสื่อเครือเนชั่น ที่ พารากอนฮอลล์ เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ 22 ส.ค.67 ในงาน Dinner Talk: Vision for Thailand นั้น
มุมวิเคราะห์ว่าด้วย “ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย” ซึ่งหลายสื่อและหลากหลายนักวิเคราะห์เปิดประเด็นนี้ทันทีตั้งแต่ได้เห็นชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทยนั้น
ความรุนแรงจากการลอบวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้จะผ่านมานานกว่า 20 ปีแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงเคลื่อนไหวปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง
ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นของเจ้าหน้าที่กำลังผสมหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดปัตตานี ในการเปิดยุทธการบ้านคลองช้าง ในพื้นที่ ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นเวลารวม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.67 – 1 ส.ค.67 นั้น มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต จำนวน 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย ขณะที่ฝ่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตจำนวน 3 ราย