‘มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน’ บุกยื่นหนังสือถึง ‘คณะกรรมการกฤษฎีกา’ ขอชะลอการพิจารณา ‘ร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ’ อย่างน้อย 60 วัน รอขั้นตอนยื่นขอทำ ‘ประชามติ’ พร้อมขอให้ยึดมั่น “ลูกค้าที่แท้จริง คือ ประชาชน” ดำรงความเป็นอิสระจาก ‘ฝ่ายการเมือง’
.............................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน โดยนายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา ผ่านเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2568
สำหรับหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาว่า ตามที่ที่ประชุม ครม. ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รับดำเนินการตรวจและปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... เพื่อพร้อมนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในลำดับถัดไป โดยก่อนหน้านั้นเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีหนังสือแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวต่อ ครม. เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา (อ้างถึงหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 0902/3)
มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยง และเครือข่ายนิสิตนักศึกษานิติศาสตร์ ใคร่ขอแสดงความเห็นและข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ดังนี้
1.มูลนิธิรณรงค์หยุดพนันและเครือข่ายฯ เห็นด้วยกับข้อเสนอของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า กิจการสถานบันเทิงครบวงจรกับกิจการสถานเล่นพนัน ควรแยกการพิจารณาออกจากกัน เพราะกิจการหนึ่งมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่อีกกิจการหนึ่งมีวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาการพนัน ด้วยแต่ละกิจการต่างมีกฎหมายเฉพาะที่ควบคุมอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีกฎหมายในเรื่องนั้นๆ เพิ่มขึ้นมาอีก เพราะจะเป็นความซ้ำซ้อน และควรใช้มาตรการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสำคัญ
การออกกฎหมายใหม่นี้ จึงดูมีเจตนาอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้อำนาจออกใบอนุญาต และผู้ประกอบ ธุรกิจ ในลักษณะจอดจุดเดียวจบ หรือ one-stop service ซึ่งไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องอำนวยความสะดวกให้มากเช่นนี้ และอาจขัดกับกฎหมายเดิมเมื่อถึงคราวปฏิบัติจริง การออกกฎหมายใหม่เพื่อการนี้ จึงเปรียบเสมือนการพยายาม “สวมเสื้อตัวใหญ่” ที่จะก่อให้เกิดความรุ่มร่าม จนสุดท้ายเป็นอุปสรรคต่อผู้ใช้งานเอง
2.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 77 บัญญัติว่า “รัฐพึงมีกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็น” และในเมื่อสถานกาสิโน คือ แหล่งเล่นพนันขนาดใหญ่ กิจการนี้ก็พึงอยู่ภายใต้กฎหมายที่่มีอยู่แล้ว คือ พ.ร.บ.การพนัน เป็นการเข้าตามตรอกออกตามประตูที่พึงกระทำ มิใช่การใช้วิธีสร้างทางลัดหรือทางลอดของตนเอง โดยใช้วิธีการออกกฎหมายพิเศษหรือกฎหมายเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทำในสิ่งที่ตนอยากทำได้
ที่สำคัญยิ่ง คือ รัฐพึงเป็นผู้ควบคุมการพนัน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อภาวะเศรษฐกิจ ความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพกายและจิตใจ และความมั่นคงของมนุษย์ รัฐจึงไม่พึงอยู่ในฐานะผู้ส่งเสริมหรือสนับสนุนการเพิ่มแหล่งพนันด้วยนโยบายของรัฐบาลเอง เพราะรัฐเปรียบเสมือนอัศวินผู้ปราบยักษ์มาร มิใช่ผู้เปิดประตูเมืองให้ยักษ์มารย่างกรายเข้ามาอย่างสง่างามโดยการออกกฎหมายใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบธุรกิจการพนัน และหากเอกชนรายใดต้องการประกอบกิจการจำพวกนี้ ก็พึงเสนอขออนุญาตตามช่องทางของกฎหมายที่มีอยู่
3.มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยงและเครือข่ายนิสิตนักศึกษานิติศาสตร์ ขอเป็นกำลังใจให้คณะกรรมการกฤษฎีกายืนหยัดในความถูกต้อง โดยยึดมั่นว่า “ลูกค้าที่แท้จริงของท่านคือประชาชน” และดำรงความเป็นอิสระจากการแทรกแซงของฝ่ายการเมือง เพื่อดำรงศรัทธาและความเชื่อถือของอนุชนคนรุ่นใหม่ และประชาชนต่อการทำหน้าที่ของคณะกรรมการกฤษฎีกาสืบไป
4.ขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาสนับสนุนการขอใช้สิทธิ์ของประชาชนในการเข้าชื่อให้คณะรัฐมนตรีจัดทำประชามติ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ จึงขอให้รัฐบาลเคารพสิทธิของประชาชน และให้โอกาสในการดำเนินการอย่างน้อย 60 วัน โดยไม่เร่งรัดจะให้ออกกฎหมายนี้โดยเร็ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา เครือข่ายภาคประชาสังคมและนักวิชาการ ได้ประกาศเดินหน้ารวบรวมรายชื่อประชาชนให้ได้ไม่น้อยกว่า 50,000 รายชื่อ เพื่อนำเสนอให้รัฐบาลจัดให้มีการทำประชามติว่า ประเทศไทยสมควรมีกาสิโนถูกกฎหมายหรือไม่ ในขณะที่ก่อนหน้านี้ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ได้เปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อแสดงจุดยืนว่า ‘เราไม่เอากาสิโน’ โดยมีผู้ลงชื่อแสดงจุดยืนแล้วกว่า 70,000 คน
อ่านประกอบ :
‘ภาคประชาสังคมฯ’เดินหน้ารวบรวม 5 หมื่นชื่อ เสนอทำ‘ประชามติ’ชี้ชะตา‘กาสิโนถูก กม.’
เปิดกาสิโน 'อย่าคิดแต่เรื่องเงิน'
‘มูลนิธิฯหยุดพนัน’ล่าชื่อ‘เราไม่เอากาสิโน’-ชี้ร่างกม.เปิดช่อง‘การเมือง’ล้วงเงินสนองนโยบาย
‘คลัง’เสนอแผนออก‘กม.ลูก’ 24 ฉบับ รองรับ‘ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’
‘วัตถุประสงค์ไม่ชัด-ซ้ำซ้อน’! เปิดความเห็น‘กฤษฎีกา’ค้าน‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’
ครม.ไฟเขียว‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’-นายกฯยัน‘กฤษฎีกา’ไม่ได้ขวาง แค่ต้องการปรับคำ
ชง'ครม.'เคาะ'ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร'ม.ค.68 อายุไลเซนส์ 30 ปี-เช่าที่ดินได้ 99 ปี
ปี 66 เด็ก-เยาวชนเล่นพนันเกือบ 5 ล้านคน ผลสำรวจชี้คนไทยกว่าครึ่งไม่รับกาสิโนถูก กม.
วงเสวนาฯจี้รัฐบาลทำประชามติ‘กาสิโนถูกกม.’-ห่วง‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’มีช่องโหว่
'อนุทิน'ยัน รบ.เดินหน้า พ.ร.บ.กัญชาฯ พร้อมหนุน'กาสิโน'แจงเป็นมารยาทพรรคร่วม
ดัน‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ พ่วง‘กาสิโนถูกกฎหมาย’ ได้ไม่คุ้มเสีย-เอื้อทุนใหญ่?
‘ตีเช็คเปล่า-เอื้อทุนใหญ่’! วงเสวนาฯชำแหละ‘ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’
เปิด‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’ดัน‘กาสิโน’ถูกกม.-ค่า'ใบอนุญาตฯ'ครั้งแรก 5 พันล้าน
บทวิเคราะห์สื่อสิงคโปร์: นโยบายคอมเพล็กซ์คาสิโน นำไทยสู่ผู้นำท่องเที่ยวเชิงการพนัน?
เอกชนลาสเวกัส สนใจลงทุนเปิดบ่อนพนันที่ไทย เชื่อคาสิโนแห่งแรกเกิดได้ในปี 72
สื่อมาเลย์วิเคราะห์ นโยบายฟรีวีซ่าจีนส่งผลไทยอาจผ่าน กม.หนุนจัดตั้งคาสิโนภายในปีนี้
รายงาน UN แฉโครงข่ายธนาคารใต้ดินฟอกเงิน คาสิโนริมฝั่งแม่น้ำโขง-ชายแดนไทย เม็ดเงินมหาศาล
วงเสวนาชี้ 'กาสิโนถูก กม.' ผลกระทบเพียบ! ย้ำหากเปิดต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีก่อน
ชงโหวตรับรายงานกาสิโนถูกกฎหมาย 27 ก.ค. 65 สกัด 5 ประเด็นศึกษาเชิงลึก
นิด้าโพลเผย ปชช.ส่วนใหญ่ 46.51% ไม่เห็นด้วยกับ 'บ่อนกาสิโน' ถูกกฎหมาย