‘รฟท.’ แจ้งครอบครองที่ดิน ‘เขากระโดง’ 5,083 ไร่ ปี 2498 ป้องกัน ‘บุกรุก’ ก่อนปีต่อมา ‘กฤษฎีกา’ วินิจฉัย ‘ที่ดินรถไฟ’ ไม่เข่าข่ายต้องแจ้ง 'ส.ค.1' เหตุเป็นที่ดินของรัฐ มีกฎหมายหวงห้ามเอาไว้เพื่อใช้ประโยชน์ของ ‘การรถไฟ’ โชว์สัญญาฯ 'กรมทางหลวง' ขอใช้ที่ดินสร้างถนนหลวง ตัดผ่านกลางที่ดินรถไฟ 'เขากระโดง'
.....................................
จากกรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 1180 ลงวันที่ 27 พ.ค.2498 ว่า ที่ดินบริเวณแยกเขากระโดง กม.0-8+000 ต.อิสาณ และเขตเทศบาลเมือง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เนื้อที่ 5,083 ไร่ 80 ตารางวา เป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และมีการตั้งข้อสังเกตว่า เอกสาร ส.ค.1 ดังกล่าว เป็นเพียงการแจ้งครอบครองเพื่อทำประโยชน์ ไม่ใช่หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน นั้น

ล่าสุดแหล่งข่าวจาก รฟท. เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า การที่ รฟท. เข้าแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เขากระโดง ในปี พ.ศ.2498 นั้น เป็นเพราะว่าหลังจากกรมที่ดินประกาศให้ราษฎรที่ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินก่อนวันที่ 14 ธ.ค.2497 มาจดทะเบียนแจ้งสิทธิฯ ปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากแจ้งสิทธิครอบครองฯที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นที่ดินของ รฟท. ทำให้ รฟท. ต้องแจ้ง ส.ค.1 ในที่ดินเขากระโดง เพื่อป้องกันการบุกรุก
อย่างไรก็ตาม ต่อมาในเดือน ต.ค.2499 คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมายครบคณะ) ได้ตอบข้อหารือของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงเกษตร เรื่อง การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีการแจ้งการครอบครองตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 หลังจากกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ส่งหนังสือขอหารือคณะกรรมการกฤษฎีกาในเรื่องดังกล่าวในช่วงเดือน ก.ค.2498
โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมายครบคณะ) มีความเห็นว่า ที่ดินที่มีลักษณะเป็นทางน้ำ ทางหลวง หรือเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า ซึ่งมีกฎหมาย (พระราชกฤษฎีกา) หวงห้ามไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะประโยชน์ต่างๆ คือ เพื่อประโยชน์ของการรถไฟบ้าง เพื่อประโยชน์ในการสร้างทางหลวงบ้าง และเพื่อประโยชน์ในการชลประทานบ้าง ไม่อยู่ในข่ายที่ต้องแจ้งการครอบครองตามมาตรา 5 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497
“ปัญหาข้อแรก พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 5 วรรคแรก บัญญัติว่า “ให้ผู้ที่ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน แจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอท้องที่ภายในหนึ่งร้องแปดสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา”
ตามมาตรานี้จะเห็นได้ว่า การแจ้งการครอบครองนั้น จะต้องแจ้งฉะเพาะในกรณีย์ที่ดินที่ไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์เท่านั้น ถ้าเป็นกรณีที่ดินที่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์แล้ว หาจำต้องแจ้งไม่ ดังนั้น ปัญหาเรื่องการแจ้งการครอบครองที่ดินในกรณีที่หารือ จึงเป็นปัญหาฉะเพาะที่เกี่ยวกับที่ดินที่ไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์เท่านั้น
เรื่องการแจ้งการครอบครองนี้ มาตรา 5 วรรค 2 ได้บัญญัติไว้อีกว่า “ถ้าผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งมีหน้าที่แจ้งการครอบครอง ไม่แจ้งภายในระยะเวลาตามที่ระบุไว้ในวรรคแรก ให้ถือว่าบุคคลนั้น เจตนาสละสิทธิ์ครอบครองที่ดิน รัฐมีอำนาจจัดที่ดินดังกล่าวตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ฯลฯ”
ดังนี้ จึงเห็นได้ว่า อำนาจจัดที่ที่ดินดังกล่าว จะมีได้เฉพาะ เมื่อที่ดินนั้นอยู่ในข่ายที่จะต้องแจ้งการครอบครองเท่านั้น โดยนัยกลับกัน ถ้าอำนาจจัดที่ดินดังกล่าวหามีไม่แล้ว ที่ดินนั้น ก็ไม่อยู่ในข่ายที่จะต้องแจ้งการครอบครอง เมื่อเช่นนี้ประเด็นที่จะต้องพิจารณาสำหรับที่ดินในกรณีที่หารือมา จึงอยู่ที่ว่าอำนาจจัดที่ดินเหล่านั้น ตามประมวลกฎหมายที่ดินมีอยู่หรือไม่
เมื่อพิเคราะห์ดูบทบัญญัติในประมงลกฎหมายที่ดินเกี่ยวกับอำนาจจัดที่ดิน เฉพาะอย่างยิ่ง มาตรา 8 ซึ่งบัญญัติว่า “บรรดาที่ดินทั้งหลายอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินนั้น ถ้าไม่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกันได้ตามควรแก่กรณีย์ ฯลฯ”
และมาตรา 19 ซึ่งบัญญัติว่า “ที่ดินของรัฐซึ่งมิได้มีบุคคลใดมีสิทธิ์ครอบครองและและมิใช่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินอันราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกันนั้น ให้อธิบดีที่มีอำนาจจัดหาผลประโยชน์ ฯลฯ"
ก็จะเห็นได้ชัดว่า ที่ดินอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินนั้น ถ้ามีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น อธิบดี (กรมที่ดิน) ก็ไม่มีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกัน (มาตรา 8) และที่ดินของรัฐอันมิใช่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินนั้น ถ้ามีบุคคลอื่นมีสิทธิครอบครองอยู่แล้ว อธิบดี (กรมที่ดิน) ก็ไม่มีอำนาจจัดหาผลประโยชน์เช่นเดียวกัน (มาตรา 10)
ในส่วนที่เกี่ยวกับความหมายของสองมาตราดังกล่าวนี้ ก็ได้เคยมีปัญหาส่งมาให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาว่า อำนาจจัดหาผลประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ซึ่งก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ กระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) เป็นผู้ดำเนินการนั้น เมื่อประมวลกฎหมายที่ดินบังคับใช้แล้ว จะเปลี่ยนแปลงเป็นประการใดหรือไม่
คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมายกองที่ 3 ) ได้พิจารณาให้ความเห็นว่า เมื่อประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับแล้ว อำนาจในการจัดหาผลประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามที่กระทรวงการคลังมีอยู่ หาได้เปลี่ยนแปลงไปประการใดไม่ โดยอาศัยหลักเกณฑ์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น (ดูสำเนาแนบท้ายบันทึกนี้)
ผลจึงเห็นว่า ที่ดินอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือที่ดินของรัฐในลักษณะเช่นว่านี้ ไม่อยู่ภายใต้บังคับการดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกัน หรือจัดการหาผลประโยชน์ ซึ่งก็เท่ากับว่า อำนาจจัดที่ดินดังกล่าวตามประมวลกฎหมายที่ดินหามีไม่
สำหรับที่ดินในกรณีย์ที่หารือมา กล่าวคือ ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ดินของกรมทางหลวงแผ่นดิน และที่ดินของกรมชลประทาน ก็ต้องพิจารณาดูว่า ที่ดินเหล่านั้นเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือเป็นที่ของรัฐ อันอยู่ในลักษณะดังกล่าวมาแล้วข้างต้นหรือไม่
ในส่วนที่เกี่ยวกับสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 บัญญัติว่า “สาธารณะสมบัติของแผ่นดินนั้น รวมทรัพย์ทุกชนิดของแผ่นดิน ซึ่งใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน เช่น (1) ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ฯลฯ (2) ทรัพย์สินสำหรับกับพลเมืองใช้ร่วมกัน เป็นต้นว่า ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ทางหลวง ฯลฯ"
ดังนี้ จะเห็นได้ชัดว่า ที่ดินในกรณีย์ที่หารือมามีลักษณะเป็นทางน้ำ ทางหลวงอยู่แล้ว หรือเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า ซึ่งมีกฎหมาย (พระราชกฤษฎีกา) หวงห้ามไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะประโยชน์ต่างๆ คือ เพื่อประโยชน์ของการรถไฟบ้าง เพื่อประโยชน์ในการสร้างทางหลวงบ้าง และเพื่อประโยชน์ในการชลประทานบ้าง
เพราะฉะนั้น ที่ดินเหล่านี้ จึงเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทรัพย์สินของแผ่นดิน ตามความในมาตรา 1308 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และเป็นส่วนหนึ่งแห่งที่ดินของรัฐโดยปราศจากปัญหาประการหนึ่ง
ในส่วนที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันสำหรับที่ดินเหล่านี้ ก็มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นกล่าวคือ ที่ดินของการรถไฟและกฎหมายว่าด้วยการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ดินของกรมทางหลวงแผ่นดินเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวง และที่ดินของกรมชลประทานเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการชลประทานหลวง และกรณีย์ที่เป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า ก็เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินไว้ เพื่อสาธารณะประโยชน์ต่างๆดังกล่าวมาแล้ว
ดังนั้น ที่ดินเหล่านี้ จึงไม่อยู่ภายใต้บังคับการดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกันตามมาตรา 8 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
นอกจากนี้ เมื่อที่ดินเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินของรัฐ และมีบุคคล (การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมทางหลวงแผ่นดิน และกรมชลประทาน ซึ่งเป็นนิติบุคคล) มีสิทธิ์ครอบครองอยู่แล้ว จึงไม่อยู่ภายใต้บังคับการจัดหาประโยชน์ตามมาตรา 10 แห่ประมวลกฎหมายที่ดิน
อาศัยเหตุดังกล่าวมานี้ คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงเห็นว่า อำนาจจัดที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ดินของกรมทางหลวงแผ่นดิน และที่ดินของกรมชลประทาน ตามประมวลกฎหมายที่ดินหามีไม่ และเพราะเหตุว่าที่ดินเหล่านี้ จึงไม่อยู่ในข่ายที่ต้องแจ้งการครอบครองตามมาตรา 5 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497




แหล่งข่าวจาก รฟท. ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐบางแห่งได้เข้ามาทำสัญญาขออาศัยที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ของ รฟท. เช่น กรมทางหลวง ได้ขอทำสัญญาอาศัยที่ดินเขากระโดง เพื่อสร้างทางหลวงหมายเลข 213 บุรีรัมย์-ประโคนชัย ซึ่ง รฟท.ได้อนุญาตให้กรมทางหลวงใช้ที่ดินดังกล่าว และทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิเหนือที่ดิน เพื่อสร้างทางหลวงหมายเลข 213 บุรีรัมย์-ประโคนชัย ลงวันที่ 11 ต.ค.2532 โดยให้สิทธิเหนือพื้นที่ ‘ไม่มีกำหนดระยะเวลา’
สำหรับทางหลวงหมายเลข 213 บุรีรัมย์-ประโคนชัย เป็นทางหลวงสายหลักที่ตัดผ่านพื้นที่ตรงกลางที่ดินเขากระโดง ของ รฟท. ระหว่างสถานีบุรีรัมย์ ถึงสถานีทางแยกเขากระโดง จาก กม. 1+740 ถึง กม.5+650 โดย รฟท. ให้กรมทางหลวง มีสิทธิเหนือที่ดินที่ขอใช้ ขนาดกว้าง 40 เมตร ยาว 3,910 เมตร เป็นเนื้อที่ 156,400 ตารางเมตร นอกจากนี้ ในสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิเหนือที่ดินฯ มีการระบุเขตที่ดินของ รฟท. บริเวณแยกเขากระโดง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาด้วย






อ่านประกอบ :
ยังรอ มท.เพิกถอนโฉนด! รฟท. ยกคำตัดสินศาลปค.ที่ดินทั้ง 5,083 ไร่เป็นของการรถไฟฯ
‘ภูมิธรรม’ ยัน ‘เขากระโดง-อัลไพน์’ มาตรฐานเดียว จับตาชงครม.ตั้ง ‘อธิบดีกรมที่ดิน’
DSI จ่อฟัน ‘อาญา-ฟอกเงิน’ บุกรุก ‘เขากระโดง’ - อ้าง รฟท. เจ้าของที่ดิน 5 พันไร่
‘กรมที่ดิน’ชี้ 3 แนวทางเพิกถอน‘โฉนด’ม.61 หลัง‘เดชอิศม์’ตั้ง‘กก.ตรวจสอบฯ’ปม‘เขากระโดง’
เปิดปฏิบัติการ‘คู่ขนาน’ทวงคืน‘เขากระโดง’ บี้ทบทวนคำสั่ง‘กรมที่ดิน’-ฟ้องขับไล่‘รายแปลง’
รฟท.อุทธรณ์ศาลปค. 2 ประเด็น ‘เขากระโดง’ แล้ว - จ่อส่งข้อมูลให้คกก.ชุด ‘ภูมิธรรม’
‘ภูมิธรรม’ สั่ง ‘อธิบดีที่ดิน’ แจงคดีเขากระโดงใน 7 วัน ยันทำไม่เว้นแม้แต่ ‘อัลไพน์’
ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัย‘ศาลปค.’ไม่รับฟ้องบางข้อหา-ตีตกปม‘รฟท.’ขอสั่งเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
ฟ้อง 4 ข้อหาไม่รับ 2!‘ศาลปค.’ตีตกคำขอ‘รฟท.’สั่ง‘กรมที่ดิน’เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’995 ฉบับ
‘ภูมิธรรม’เผยเตรียมเซ็นคำสั่งตั้ง คกก.ทบทวนพิพาท ‘เขากระโดง’
‘ภูมิธรรม’ โยนรมว.จริงมาทำ ‘เขากระโดง-อัลไพน์’ - ปัดคุยแต่งตั้งโยกย้าย
มีอิทธิพลในพื้นที่-บุคลากรไม่พอ! เปิดหนังสือ‘รฟท.’ขอ‘อสส.’ฟ้องถอนโฉนด‘เขากระโดง’
‘อนุทิน’ แจงเขากระโดง-อัลไพน์ ไม่เกี่ยวกัน นายกฯไม่เคยแทรกแซง
‘ประชาชน’ อัดรัฐบาลไม่จริงใจแก้ ‘อัลไพน์-เขากระโดง’ จับเป็นตัวประกันเจรจา กล่าวหาแรงหวังฮุบที่วัด
‘สร.รฟท.’บุก‘ปปป.’กล่าวโทษ‘อธิบดีกรมที่ดิน-คกก.สอบสวน’ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
รฟท.ร่างคำฟ้องยื่นศาลปค. ‘เขากระโดง’ชี้คำสั่งคกก.มาตรา 61 ไม่ชอบ
‘สุริยะ’ ยังไม่ตอบ ‘เขากระโดง’ จะฟ้องรายแปลงหรือไม่ - น้อมรับศาลไม่เพิ่มผู้บริหารแผน ‘บินไทย’
ฉบับเต็ม! เปิดหนังสือแจ้งผลอุทธรณ์ฯ ‘มท.’ชี้‘กรมที่ดิน’ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ชอบแล้ว
‘อนุทิน’ เผยผลอุทธรณ์ ‘เขากระโดง’ ยืนตามมติเดิม ไม่เพิกถอน
ชาวบ้าน 35 ราย กลับลำ เบรกเซ็นสัญญาเช่าที่ดิน‘เขากระโดง’อ้างแพง-‘รฟท.’เร่ง‘บังคับคดี’
‘กรมที่ดิน’โต้‘รฟท.’อ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของ‘เขากระโดง’ 5 พันไร่ ขยายความเกิน‘คำพิพากษา’
‘สุริยะ’ย้ำ‘เขากระโดง’ที่ดินรถไฟฯ พร้อมให้ชาวบ้านเช่าราคาถูก-‘อนุทิน’รอฟังคำสั่ง‘ศาลปค.’
เทียบชัดๆ! คำพิพากษา‘ศาลฎีกา’ VS ความเห็น‘คกก.สอบสวน’ ชี้แนวเขตที่ดินรถไฟฯ‘เขากระโดง’
เผือกร้อน‘สุริยะ-รฟท.’ฟ้อง‘ศาลยุติธรรม’เพิกถอนโฉนด‘รายแปลง’ ปิดฉากมหากาพย์‘เขากระโดง’!
‘สุริยะ-รฟท.’ รอผลอุทธรณ์กรมที่ดิน ‘เขากระโดง’ - ‘วีริศ’ชี้ต้องรอบคอบ หวั่นโดน 157
บังคับคดีแล้ว! โชว์เอกสาร‘ศุภวัฒน์’คืนที่ดิน‘เขากระโดง’ 24 ไร่-ชดใช้‘รฟท.’ 4.8 ล้าน
มท.1ชี้ออกสัญญาเช่า 'เขากระโดง' พิสูจน์สิทธิก่อน-'กรมที่ดิน'ย้ำรถไฟฯไม่มีแผนที่ท้าย'พ.ร.ฎ.'
ฉบับเต็ม!หนังสืออุทธรณ์‘รฟท.’(จบ) ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ละเลยต่อหน้าที่ ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
ฉบับเต็ม! หนังสืออุทธรณ์‘รฟท’(2) ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ใช้ดุลพินิจมิชอบ ไม่ถอนโฉนด‘เขากระโดง’
ฉบับเต็ม! หนังสืออุทธรณ์‘รฟท’(1) ที่ดิน‘เขากระโดง’เป็นของ‘รถไฟฯ’-ไม่ต้องพิสูจน์สิทธิ์อีก
'วีริศ' ส่งหนังสือถึง 'อธิบดีกรมที่ดิน' เพิกถอนมติคกก.สอบสวน 'เขากระโดง'
สอบเขากระโดงล่ม! กมธ.ที่ดินเผย องค์ประชุมไม่ครบก่อนขอมติ
‘เลขาฯกฤษฎีกา’ ชี้ต้องยึดคำพิพากษาเป็นหลัก ‘เขากระโดง’ ‘รฟท.-กรมที่ดิน’ แค่สื่อสารไม่ตรงกัน
‘กรมที่ดิน’ แจง ‘ที่ดินเขากระโดง’ ‘รถไฟ’ไร้เอกสารหลักฐานยืนยัน
‘รถไฟ’ ยื่นศาลปค.อธิบดีทำไม่ครบที่ดิน‘เขากระโดง’-‘อนุทิน’ยันไม่มีช่วยใคร
ย้อนคำวินิจฉัย'ศาลปค.' คดีถอนโฉนด'เขากระโดง'-ก่อน‘กรมที่ดิน’โยน‘รฟท.’ฟ้องขับไล่'รายแปลง'
ไม่ขัดแย้งคำพิพากษา!‘กรมที่ดิน’แจงไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’-แนะ‘รฟท.’ฟ้องขับไล่‘รายแปลง’
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจฯ จี้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง มาเป็นของ รฟท.
‘รฟท.’เร่งสรุปท่าทีทวงคืน‘เขากระโดง’-ข้องใจ‘คกก.สอบสวน’ไม่รับ‘แผนที่’ยกสู้คดีในศาลจนชนะ
ไม่เชื่อ'แผนที่'ตามคำพิพากษา! ฉบับเต็ม‘คกก.สอบสวน’ยก 4 เหตุผล ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
โยน‘รฟท.’พิสูจน์สิทธิ์ในศาล! ‘คณะกรรมการสอบสวนฯ’มีมติไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 5 พันไร่
‘สนง.ที่ดินบุรีรัมย์’ส่งหนังสือแจ้ง‘รฟท.’รังวัด‘เขากระโดง’เสร็จแล้ว-พร้อมแนบระวางแผนที่
รังวัดฯเสร็จแล้ว! ‘กรมที่ดิน’จ่อชงข้อมูล‘คณะกรรมการสอบสวน’ชี้ขาดเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
รฟท.ลงพื้นที่นำชี้แนวเขต'เขากระโดง'-'กรมที่ดิน'แจงกม.ขีดเส้นรังวัดฯให้เสร็จภายใน 50 วัน
ย้อนไทม์ไลน์ 1 ปี เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ไม่คืบหน้า-‘กรมที่ดิน’นัด'รฟท.'ชี้เขตรังวัดที่ดิน
8 เดือนไม่เพิกถอน! ‘กรมที่ดิน’รังวัดเขตที่ดินรถไฟ‘เขากระโดง’ใหม่-รฟท.ติดเรื่องค่าใช้จ่าย
เปิดหนังสือทนายตระกูล‘ชิดชอบ’ อ้าง 9 ข้อเท็จจริง ค้าน‘คกก.สอบสวน’เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
แผนที่เขตรถไฟฯมีพิรุธ! ทนายตระกูล‘ชิดชอบ’ยกต่อสู้ ปมถอนโฉนดเขากระโดง-ชี้ศก.บุรีรัมย์ชะงัก
ไม่เกี่ยวถอนโฉนดเขากระโดง!‘ชยาวุธ’เปิดใจลาออกอธิบดีที่ดินดูแลภรรยาป่วย
เปิดตำแหน่งโฉนด’ตระกูล‘ชิดชอบ’ทับที่รถไฟฯ‘เขากระโดง’-‘ฝ่าย กม.’แจงซื้อโดยสุจริต
จ่อโดนเพิกถอน! ชัดๆเปิด‘โฉนด-น.ส.3’ตระกูล’ชิดชอบ’ 20 แปลง 288 ไร่ ทับที่ดิน‘เขากระโดง’
ก่อน‘ชยาวุธ’ทิ้งเก้าอี้อธิบดี! พบ‘คกก.สอบสวน’แจ้งเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’รุกที่หลวง 2 แปลง
'อนุทิน'ปัดการเมืองกดดัน 'อธิบดีกรมที่ดิน'ยื่นลาออก อย่าโยงปมพิพาท‘เขากระโดง’
การบ้าน‘อนุทิน’นั่ง‘มท.1’! แก้โจทย์สายสีเขียว-เพิกถอนโฉนดเขากระโดง-ต่อสัญญาซื้อน้ำ‘กปภ.’
ลุยเพิกถอนโฉนด 5 พันไร่!‘กรมที่ดิน’ไม่อุทธรณ์คดี‘เขากระโดง’-แจ้งศาลฯตั้ง‘คกก.สอบสวน’แล้ว
‘รฟท.’ยื่นอุทธรณ์คดี‘เขากระโดง’ปมเรียกค่าเสียหาย 707 ล้าน-รอ‘ศาลปค.’แจ้งท่าที‘กรมที่ดิน’
เส้นตาย 30 เม.ย.! ‘รฟท.’จับตา‘กรมที่ดิน’ยื่นอุทธรณ์คดีเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 772 แปลง
ฉบับเต็ม! พลิกคำพิพากษา‘ศาล ปค.’สั่ง‘กรมที่ดิน ‘ตั้ง‘คกก.สอบสวน’ถอนโฉนด‘เขากระโดง’
‘ศาลปค.กลาง’สั่ง‘อธิบดีกรมที่ดิน’ตั้ง‘คกก.สอบสวน’ เพิกถอนโฉนดที่ดิน‘เขากระโดง’ 772 แปลง
ยันไม่ละเลยเพิกเฉย! ‘กรมที่ดิน’ลุ้น‘ศาลปค.กลาง’ตัดสินคดีถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 30 มี.ค.นี้
‘ศาลปค.’นัดตัดสินคดีถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 30 มี.ค.นี้-‘ตุลาการฯ’ชี้‘กรมที่ดิน’ละเลยหน้าที่
'ศาลปค.'นั่งพิจารณานัดแรก คดี'รฟท.'ฟ้อง'กรมที่ดิน'ขอสั่งเพิกถอนโฉนด'เขากระโดง' 5 พันไร่
เปิด 2 คำร้อง! ยื่น ป.ป.ช. เอาผิด-สอบจริยธรรม‘ศักดิ์สยาม’ เอื้อเครือญาติยึด‘เขากระโดง’
ยื่น ป.ป.ช.ฟัน'ศักดิ์สยาม' 3 เรื่อง! 'ทวี'แนะปมเขากระโดง ส่งศาลฎีกาสอบจริยธรรมทันที
ข้อมูลใหม่! โฉนด 12 แปลง 179 ไร่ ออกทับที่ดินรถไฟ‘เขากระโดง’ โยงเครือญาติตระกูล‘ชิดชอบ’

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา