"...กรณีผู้มีสิทธิเสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลแล้ว แต่ไม่ไปทำสัญญาหรือข้อตกลงภายในเวลาที่กำหนด จะต้องถูกริบหลักประกันซอง และอาจถูกพิจารณาเรียกร้องให้ชดใช้ความเสียหายอื่น (ถ้ามี) รวมทั้งจะต้องถูกพิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการด้วย...”
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกการประกวดราคาว่าจ้างจัดงาน Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 13 เมษายน - 13 ตุลาคม 2568 วงเงิน 867,881,611 บาท ของ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ซึ่งเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความคุ้มค่าการใช้จ่ายเงินงบประมาณภาครัฐนั้น
สำนักข่าวอิศรา นำเสนอข้อมูลไปแล้วว่า การประกวดราคาว่าจ้างจัดงานโครงการฯ นี้ มี 3 ครั้ง
ครั้งแรก ใช้วิธีการคัดเลือก แต่ถูกยกเลิกไป เนื่องจากไม่มีผู้ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก
ครั้งสอง ใช้วิธีการคัดเลือก ประกาศรายชื่อ กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ชนะ เสนอราคา 862,000,000 บาท เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2566 แต่ก็มีการยกเลิกไป เนื่องจากเกินกำหนดการยืนราคา และกิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ซึ่งเป็นผู้ชนะการเสนอราคาประสงค์จะไม่ยืนราคาเดิมที่ได้ยื่นเสนอราคาไว้ และประสงค์ไม่ทำสัญญากับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)
ครั้งสาม ใช้วิธีเฉพาะเจาะจง เลือกกิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ชนะ ด้วยเหตุผลเนื่องจากเวลากระชั้นชิด ไม่มีเอกชนรายอื่นยื่นเสนอราคากลับมา จึงจำเป็นต้องใช้ราคาวงเงิน 867,800,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมไม่ถึง 1% และประกาศให้ทางกิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ผ่านการคัดเลือก
ขณะที่ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ได้มีการเรื่องอุทธรณ์ผลการจัดจ้างโครงการฯ นี้ ต่อ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และได้รับแจ้งตอบกลับผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน ของกรมบัญชีกลาง ว่า อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น
- ผ่างบ 867 ล.! ไทยร่วมงาน Expo 2025 Osaka เจาะจงจ้างกิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ
- สธ.แจงงบจัดนิทรรศการ Expo 2025 โอซาก้า 900 ล. โปร่งใส-ไม่มีเงินทอน กิจการร่วมค้าแจงไร้นอมินี
- ไส้ในสธ.ใช้งบ 867 ล.Expo 2025 สร้างอาคาร-จัดนิทรรศการ 511ล.-จ่ายค่าบริหารจัดการ 212 ล.
- เบื้องหลัง! จ้างงาน Expo 867 ล.'บิ๊ก สบส.'เรียกคู่แข่งเคลียร์ ก่อนเจาะจงเลือกกิจการร่วมค้าฯ
- ชัดแล้ว! อินเด็กซ์ฯ คู่แข่งจ้างงาน Expo 867ล.ยื่นอุทธรณ์ผลประมูล 'บิ๊ก สบส.' เรียกเคลียร์
- เปิดคำวินิจฉัยอุทธรณ์ (1) อินเด็กซ์ฯร้องเรียนจ้างงานExpo 867ล.ปมเอื้อปย.ฟังไม่ขึ้นเพราะ?
- เปิดคำวินิจฉัยอุทธรณ์ (2) ตีตกข้อร้องเรียนปมจ้างงาน Expo 867ล. กระบวนการไม่โปร่งใส
- ‘สมศักดิ์’ให้เกรด A งาน Expo 2025 Osaka ปลื้มความเป็นไทย พร้อมรับข้อเสนอปรับปรุง
- สบส.ยันจัดจ้างอาคาร 'ไทยแลด์ พาวิลเลี่ยน' ไร้ผล ปย.ทับซ้อน ตรวจสอบได้ทุกกระบวนการ
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับคำชี้แจงเพิ่มเติมจาก นพ.กรกฤช ลิ้มสมมุติ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า
1. เหตุผลสำคัญที่ทำให้การจัดประกวดราคางานโครงการฯ นี้ ครั้งที่ 2 ที่ใช้วิธีคัดเลือก ทั้งที่ได้ตัวผู้ชนะแล้ว คือ กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ต้องยกเลิกไป และเปลี่ยนมาใช้วิธีเฉพาะเจาะจง เลือก กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เข้ามารับงาน
เป็นเพราะ มีการร้องเรียนจากบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ที่ไม่ได้รับการคัดเลือก และมีการยื่นอุทธรณ์ โดยทางกรม สบส. ได้ส่งเรื่องต่อให้กองการวิเคราะห์การจ้าง กรมบัญชีกลาง วินิจฉัย แต่ด้วยกระบวนการตอบข้อวินิจฉัยเกินเวลา 90 วัน ซึ่งใช้เวลานานเกินเวลายืนราคา ทำให้การลงนามทำสัญญาจึงไม่เกิดขึ้น
2. ตามระเบียบราชการ การจัดซื้อจัดจ้างในการจัดนิทรรศการต่างประเทศจะใช้วิธีการคัดเลือก แต่มีเหตุให้ยกเลิกไปแล้ว 2 ครั้ง อีกทั้งด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิดเข้ามา โดยทางญี่ปุ่นเร่งรัดให้ดำเนินการและต้องแล้วเสร็จ เพราะไทม์ไลน์ก่อสร้างถึงวันที่ 13 เม.ย.เท่านั้น คือ วันเปิดงาน ทำให้จำเป็นต้องตัดสินใจ ใช้วิธีคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งมีขั้นตอนการสืบราคาก่อนเพื่อนำราคาไปเฉพาะเจาะจงได้ ได้ส่งจดหมายไปยังเอกชนทั้ง 3 แห่ง แต่ผู้ที่ยื่นกลับมามีเพียงรายเดียว
นพ.กรกฤช ลิ้มสมมุติ ยังย้ำด้วยว่า "ตามระเบียบสามารถทำได้ตามระเบียบพัสดุ และจำเป็นต้องใช้ราคาของบริษัทนั้นด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง คือ วงเงิน 867.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมไม่ถึง 1% และจากนั้นก็ประกาศให้ทางกิจการร่วมค้า RMA110 เป็นผู้ผ่านการคัดเลือก และขอยืนยันว่า ทางกรมสนับสนุนฯไม่ได้รับธุรกรรมใดๆจากกิจการร่วมค้า แม้แต่เรื่องเดียว"
ทั้งนี้ ภายหลังได้รับคำชี้แจงดังกล่าว ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ย้อนกลับไปตรวจสอบข้อมูลเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการประกวดราคางานโครงการฯ อีกครั้ง
พบข้อสังเกตสำคัญเกี่ยวกับคำชี้แจงของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ที่อ้างว่ากระบวนการตอบข้อวินิจฉัยเกินเวลา 90 วัน ใช้เวลานานเกินเวลายืนราคา ทำให้การลงนามทำสัญญาจึงไม่เกิดขึ้น ว่าอาจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง และส่งผลทำให้เอกชนบางรายได้รับประโยชน์จากแข่งขันเสนอราคางานโครงการฯ นี้ หรือไม่?
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
หนึ่ง.
จากการตรวจสอบข้อมูลด้านเอกสาร พบว่า ภายหลังจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ การประกวดราคาครั้งที่ 2 โดยใช้วิธีการคัดเลือก เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2566
บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ยื่นแบบอุทธรณ์ผลการจัดซื้อจัดจ้าง เมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม 2566
ขณะที่ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ได้ทำหนังสือลงวันที่ 20 กันยายน 2566 แจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ให้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) รับทราบ
จากนั้นกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ทำหนังสือลงวันที่ 26 กันยายน 2566 แจ้งผลอุทธรณ์ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) รับทราบ (ดูเอกสารประกอบ)
- ถ้านับรวมระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 10 กรกฏาคม 2566 บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ยื่นแบบอุทธรณ์ผลการจัดซื้อจัดจ้าง จนถึงวันที่ 20 กันยายน 2566 ที่ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง แจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ให้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) รับทราบ จะมีระยะเวลาอยู่ที่ 72 วัน (21+31+20)
- ถ้านับรวมระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 4 กรกฏาคม 2566 ที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ประกาศรายชื่อให้ กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ชนะ จนถึงวันที่ 20 กันยายน 2566 ที่ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง แจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ให้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) รับทราบ จะมีระยะเวลาอยู่ที่ 78 วัน (27 +31+20)
- ถ้านับรวมระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 4 กรกฏาคม 2566 ที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ประกาศรายชื่อให้ กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ชนะ จนถึงวันที่ 26 กันยายน 2566 ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ทำหนังสือแจ้งผลอุทธรณ์ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) รับทราบ จะมีระยะเวลาอยู่ที่ 84 วัน (27+31+26)
ไม่ว่าจะนับรวมระยะเวลาแบบใด ก็ไม่เกิน 90 วัน
คำถามคือ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เอาเวลาจุดไหนมาคำนวณ แล้วนับว่าเกิน 90 วัน?
สอง.
ในการแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ ของ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ต่อ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ระบุชัดเจนว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนต่อไป ตามนัยมาตรา 119 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติฯ
ขณะที่ นพ.กรกฤช ก็ยืนยันเองว่า ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิดเข้ามา โดยทางญี่ปุ่นเร่งรัดให้ดำเนินการและต้องแล้วเสร็จ เพราะไทม์ไลน์ก่อสร้างถึงวันที่ 13 เม.ย.เท่านั้น คือ วันเปิดงาน
คำถาม คือ ทำไม กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ไม่เดินหน้าโครงการฯ ต่อไปเลย ทำไมจะต้องยกเลิกประกาศประกวดราคาครั้งที่ 2 ที่ใช้วิธีคัดเลือก ทั้งที่ได้ตัวผู้ชนะแล้ว คือ กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ และเปลี่ยนมาใช้วิธีเฉพาะเจาะจง เลือก กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เข้ามารับงานใหม่อีกครั้ง?
สาม.
ที่ผ่านมา มีคำอธิบายเหตุผลเป็นทางการจาก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ระบุไว้ในประกาศยกเลิกการจ้างผู้ดำเนินการจัดนิเทรรศการ Expo 2025 Osaka Kansai โดยวิธีการคัดเลือก (ดำเนินการครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ว่า หลังจากที่ได้มีการประกาศรายชื่อ กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ชนะ เสนอราคา 862,000,000 บาท เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2566 เนื่องจากเกินกำหนดการยืนราคา และกิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ซึ่งเป็นผู้ชนะการเสนอราคาประสงค์จะไม่ยืนราคาเดิมที่ได้ยื่นเสนอราคาไว้ และประสงค์ไม่ทำสัญญากับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ถ้าตัดประเด็นปัญหาเรื่องกระบวนการตอบข้อวินิจฉัยเกินเวลา 90 วัน ที่ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) อ้างว่าใช้เวลานานเกินเวลายืนราคา ทำให้การลงนามทำสัญญาจึงไม่เกิดขึ้นออกไป ตามข้อมูลเงื่อนเวลา ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบไปแล้ว
จะพบว่าปัญหาสำคัญจะอยู่ที่ กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ซึ่งเป็นผู้ชนะการเสนอราคาประสงค์จะไม่ยืนราคาเดิมที่ได้ยื่นเสนอราคาไว้ และประสงค์ไม่ทำสัญญากับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มากกว่า
น่าสนใจว่า กรณีผู้ชนะการเสนอราคาประสงค์จะไม่ยืนราคาเดิมที่ได้ยื่นเสนอราคาไว้ และประสงค์ไม่ทำสัญญา ตามระเบียบปฏิบัติราชการต้องดำเนินการอย่างไร?
สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลพบว่า ในช่วงเดือนเมษายน 2554 นางสุภา ปิยะจิตติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่งถึงปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดี เลขาธิการ ผู้อำนวยการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อัยการสูงสุด รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่นของรัฐ เรื่อง การซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขการริบหลักประกันซอง การแก้ไขปรับปรุงตัวอย่างเอกสารประกวดราคาซื้อและตัวอย่างเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ และตัวอย่างหนังสือแสดงเงื่อนไขการซื้อและการจ้างด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดหลักเกณฑ์การริบหลักประกันซองว่า
“1.2 กรณีผู้มีสิทธิเสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลแล้ว แต่ไม่ไปทำสัญญาหรือข้อตกลงภายในเวลาที่กำหนด จะต้องถูกริบหลักประกันซอง และอาจถูกพิจารณาเรียกร้องให้ชดใช้ความเสียหายอื่น (ถ้ามี) รวมทั้งจะต้องถูกพิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการด้วย”
คำถาม คือ กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ซึ่งเป็นผู้ชนะการเสนอราคาประสงค์จะไม่ยืนราคาเดิมที่ได้ยื่นเสนอราคาไว้ และประสงค์ไม่ทำสัญญากับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้มีการปฏิบัติตามระเบียบข้างต้นนี้ไว้อย่างไรบ้าง?
สี่.
มีการกล่าวอ้างว่า ขั้นตอนการสืบราคาก่อนเพื่อนำราคาไปเฉพาะเจาะจง ว่าได้ส่งจดหมายไปยังเอกชนทั้ง 3 แห่ง แต่ผู้ที่ยื่นกลับมามีเพียงรายเดียว
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้เสนอราคางานโครงการฯ นี้ ที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันเป็นทางการ มี 2 ราย คือ กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ และ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟฯ
ในส่วนของ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟฯ มีข้อมูลก่อนหน้านี้แล้วว่า หลังจาก คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน ของกรมบัญชีกลาง มีคำวินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟฯ ฟังไม่ขึ้น ผู้บริหารรายหนึ่งของกรมฯ ได้มีการเชิญตัวแทนบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ ฯ เข้ามาพูดคุยกัน เพื่ออธิบายปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมแจ้งให้ทราบว่า ยังไม่ได้ลงนามในสัญญากับทางผู้ชนะ เนื่องจากทางฝ่ายนั้นยังไม่ยอมเซ็นสัญญา โดยจะขอเดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อตรวจสอบราคาก่อสร้างก่อน เพราะราคาที่เสนอไว้อาจจะทำไม่ได้
ผู้บริหารรายหนึ่งของกรมฯ ได้มีการเชิญตัวแทนบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ ฯ เข้ามาพูดคุยกัน เพื่ออธิบายปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมแจ้งให้ทราบว่า ยังไม่ได้ลงนามในสัญญากับทางผู้ชนะ เนื่องจากทางฝ่ายนั้นยังไม่ยอมเซ็นสัญญา โดยจะขอเดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อตรวจสอบราคาก่อสร้างก่อน เพราะราคาที่เสนอไว้อาจจะทำไม่ได้
ในระหว่างการพูดคุยกัน ผู้บริหารรายนี้ ยังได้แจ้งกับตัวแทนบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ ฯ ว่า ทำได้หรือไม่ ซึ่งตัวแทนบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ ฯ ก็ไม่ได้รับปากอะไร แต่มีการแจ้งตอบกลับว่า "จริงๆ แล้ว ไม่ว่าค่างานก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น ก็ต้องทำให้ได้ เมื่อเสนอราคาไปแล้ว "
ส่วนเหตุผลที่ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ ฯ ไม่ได้แจ้งราคาตอบกลับมา เป็นเพราะทางกรมฯ แจ้งข้อมูลไปให้แบบกระชั่นชิด ให้เวลาทำงานแค่ 4 วัน กับวงเงินงาน 900 กว่าล้านบาท แถมมีการปรับลดเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้องาน นั้นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ ตัวแทนบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ ฯ ไม่แจ้งเสนอราคาตอบกลับมา
แต่ก็มีคำถามตามมาว่า ในประเทศไทย นอกจาก บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟฯ และ กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ไม่มีเอกชนรายอื่นที่สนใจเข้ามารับงานนี้อีกแล้วหรือ? ถ้ามีได้มีการแจ้งติดต่อประสานงานไปหรือไม่? ถ้าไม่เพราะอะไร?
ขณะที่ราคางาน ประกวดราคาครั้งที่ 2 กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ชนะ เสนอราคา 862,000,000 บาท ต่ำกว่าราคางาน 867,800,000 บาท ที่กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ได้รับการคัดเลือก ในการประกวดราคาครั้งที่ 3 โดยวิธีการเจาะจงหลายล้านบาทด้วย
ส่วนข้อมูลเอกชนรายที่ 3 ที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) อ้างว่ามีการแจ้งหนังสือให้ยืนยันราคากลับมาด้วยนั้น ที่ผ่านมายังไม่เคยปรากฏชัดเจนว่า เป็นใครมาจากไหน? และมีเหตุผลอะไรถึงยืนยันราคากลับมา? กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ควรที่จะต้องมีการเปิดเผยยืนยันข้อมูลส่วนนี้ เป็นทางการด้วย
**********
ทั้งหมดนี้ เป็นข้อสังเกตสำคัญที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ที่อ้างว่ากระบวนการตอบข้อวินิจฉัยเกินเวลา 90 วัน ใช้เวลานานเกินเวลายืนราคา ทำให้การลงนามทำสัญญาจึงไม่เกิดขึ้น และเป็นผลทำให้ต้องใช้วิธีเฉพาะเจาะจง เลือก กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ อาจจะมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง และทำให้เอกชนบางรายได้รับประโยชน์จากแข่งขันเสนอราคางานโครงการฯ นี้
นับเป็นสิ่งสำคัญที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง และคงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการตรวจสอบ ที่ควรจะต้องเข้ามาตรวจสอบเพื่อทำความจริงให้ปรากฏอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอต่อไป
อย่างไรก็ดี การจัดซื้อจัดจ้างโครงการฯ นี้ ปัจจุบัน ยังไม่มีหน่วยงานตรวจสอบแห่งใด ออกมาระบุว่า มีความไม่โปร่งใส ในขั้นตอนการดำเนินงานแต่อย่างใด
ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่