
ศาลฎีกาฯพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี ‘วลัย วุฒิโยธิน’ ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับจ.พัทลุง ตามคำร้อง กกต. ถือหุ้น บมจ. อสมท ประกอบกิจการสื่อมวลชน เข้าลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย กลับยื่นใบสมัคร เขียนรับรอง ไม่มีลักษณะต้องห้าม ถือได้ว่ากระทำการเพื่อให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนางวลัย วุฒิโยธิน ผู้คัดค้าน เป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา เนื่องจาก ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 9 ต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง และได้รับเลือกในระดับอำเภอและระดับจังหวัด ต่อมาผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาของผู้คัดค้านแล้วพบว่า ผู้คัดค้านเป็นผู้ถือหุ้น ในบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนใด ๆ ในวันที่ยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา เข้าลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย จึงลบชื่อผู้คัดค้านออกจากประกาศรายชื่อ ผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศ การที่ผู้คัดค้านซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกของตนให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดลงลายมือชื่อในใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองว่าตนเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชนใด ๆ จึงถือว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (3) มาตรา 20 วรรคสาม และมาตรา 74 จึงมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน รายละเอียดดังนี้
@เปิดคำพิพากษา
คำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ ลต สว 375/2567 คดีหมายเลขแดงที่ ลต สว 31/2568 ศาลฎีกา วันที่ 24 เดือน มีนาคม พุทธศักราช 2568 ความคดีเลือกตั้ง ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง นางวลัย วุฒิโยธิน ผู้คัดค้าน เรื่อง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง)
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า สืบเนื่องมาจากมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ให้ไว้ ณ วันที่ 24 เมษายน 2567 และผู้ร้องได้มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เรื่อง กำหนดวันเลือกและวันรับสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภากำหนดวันเลือกระดับอำเภอวันที่ 9 มิถุนายน 2567 วันเลือกระดับจังหวัดวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และวันเลือกระดับประเทศวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 9 ต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง และผู้คัดค้านเป็นผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอและระดับจังหวัด
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศ ประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศ ต่อมาผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาของผู้คัดค้านแล้วพบว่า ผู้คัดค้านเป็นผู้ถือหุ้น ในบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนใด ๆ ในวันที่ยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา เข้าลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย จึงลบชื่อผู้คัดค้านออกจากประกาศรายชื่อ ผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศ
ผู้ร้องทำการไต่สวนแล้วได้ความดังกล่าวจริง ผู้คัดค้านจึงเป็นผู้มี ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (3) การที่ผู้คัดค้านซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกของตนให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ลงลายมือชื่อในใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองว่าตนเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชนใด ๆ กรณีจึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้คัดค้านเป็น ผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา และได้ถูกลบชื่อออกจากประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศแล้ว จึงถือว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม และรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกไม่ว่าเพราะเหตุใดได้สมัครรับเลือก อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (3) มาตรา 20 วรรคสาม และมาตรา 74 ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของผู้คัดค้านตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่
ผู้คัดค้านไม่ยื่นคำคัดค้าน
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณาคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว เห็นว่า คดีไม่จำต้องไต่สวนพยานหลักฐาน จึงให้งดการไต่สวน
@ถือหุ้นบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการสื่อมวลชน 1,000 หุ้น
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วคดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (3) อันจะถือว่าผู้คัดค้านกระทำการ เพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เป็นเหตุให้ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัคร รับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 หรือไม่
เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความตามสำนวนการไต่สวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 1 ถึงลำดับ 51 ว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 9 อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ผู้คัดค้านได้รับ เลือกระดับอำเภอ กลุ่มที่ 9 ลำดับที่ 2 และระดับจังหวัด กลุ่มที่ 9 ลำดับที่ 1 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศ ต่อมาผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือก เป็นสมาชิกวุฒิสภาของผู้คัดค้านพบว่า ผู้คัดค้านเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชน จำนวน 1,000 หุ้น ผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศจึงลบชื่อผู้คัดค้านออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศ ตามเอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 27 หน้าที่ 79
ประกอบกับผู้คัดค้านยื่นหนังสือชี้แจงต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนยอมรับว่า ผู้คัดค้านถือหุ้นสามัญ ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) 1,000 หุ้น ในวันยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ตามเอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 38 หน้าที่ 94 และหนังสือ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เรื่อง แจ้งผลการตรวจสอบข้อมูล เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 23 หน้าที่ 66 ถึงหน้าที่ 69 ส่วนผู้คัดค้านไม่ได้ยื่นคำคัดค้านและไม่นำพยานหลักฐานใด มาไต่สวนเพื่อให้เห็นเป็นอย่างอื่น
@ รู้อยู่แล้วคุณสมบัติต้องห้ามแต่ยังสมัคร ถือกระทำการไม่สุจริต ให้เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าผู้คัดค้านเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนใด ๆ ในวันที่ยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา เข้าลักษณะ ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (3) การที่ผู้คัดค้านมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว แต่ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองในบันทึกการให้ถ้อยคำของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว. 2) เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 2 หน้าที่ 5 และหน้าที่ 7 ว่า ผู้คัดค้านไม่มีลักษณะต้องห้ามใด ๆ ตามกฎหมาย ย่อมถือได้ว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสาม อันเป็นเหตุให้ต้องเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226
พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนางวลัย วุฒิโยธิน ผู้คัดค้าน เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา.

ข่าวคดีรายอื่นก่อนหน้า
ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ‘ธานนท์’ ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอสิชล ต้องคดีค้ายา (1)
ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.ศรีสะเกษ มีประวัติยักยอกทรัพย์ (2)
ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ10 ปีผู้ได้รับเลือก สว.อำเภอ จ.สระแก้ว มีประวัติทุจริตเลือกตั้ง (3)
ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.นราธิวาส มีประวัติลักทรัพย์ (4)
เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.มหาสารคาม มีประวัติเจ้ามือเล่นพนัน(5)
ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.ยะลา เคยเป็นผู้บริหารท้องถิ่น(6)
ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.สมุทรสาคร ถือหุ้นบมจ.อาร์เอส (7)
ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ ในจ.อ่างทอง ต้องคดีค้ายาเสพติด (8)
ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ ในจ.ตราด ถูกจำคุกคดีเจ้ามือไพ่รัมมี่ (9)
ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.นนทบุรี เคยจำคุกคดีหมิ่นประมาท (10)

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา