อดีตนายกฯ 2 สมัยไม่ทิ้งปัญหาไฟใต้ ลุกขึ้นอภิปรายเตือนสติ “รัฐบาลอนุทิน” ยึดหลักนิติธรรมเป็นธงนำแก้ปัญหา หยุดการฆ่านอกกระบวนการยุติธรรม เลิก “กระบวนการไล่เก็บ” ต้นเหตุสถานการณ์รุนแรงปะทุยืดเยื้อ ให้กำลังใจแม้เขียนนโยบายเข้าใจยาก แต่ยังดีกว่า 2 รัฐบาลก่อนหน้าของเพื่อไทย
ภาคต่อของสงครามชายแดนใต้ที่ อาจารย์สุรชาติ บำรุงสุข นิยามใหม่ว่าเป็น “สงครามหลายโดเมน”
การมีผู้นำประเทศคนใหม่ ตามด้วยรัฐบาลชุดใหม่ ย่อมเป็นความหวังของประชาชนคนไทย รวมถึงพี่น้องในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
อาจารย์สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคง ซึ่งเกาะติดสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งสารถึงรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกฯป้ายแดง ว่าบ้านเมืองมี “ไฟกองใหญ่” รอลุกลามอยู่ 5 กองด้วยกัน
คนปลายด้ามขวานบ่นพึม สองปีรัฐบาลเพื่อไทยทำกระบวนการพูดคุยดับไฟใต้หยุดชะงัก แต่สิ่งที่รุดหน้ากลับกลายเป็น “กระท่อม-กัญชาเสรี” ท้อใจเด็กเยาวชนเดินถือกันเกร่อ เพราะไม่ผิดกฎหมาย แถมเศรษฐกิจย่ำแย่หนัก
ฮือฮาพอสมควร... ภายหลัง “หมอจุ๊ก” นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าตนเองกำลังจะถูกดำเนินการให้ออกจากราชการ
การออกมาแสดงท่าทีแนวๆ “สะกิดเตือนไทย” ของ นายกฯอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ให้รีบเดินหน้ากระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ/สันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการอธิบายจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในอีกมิติหนึ่ง
“อ.สุรชาติ” มึนผลเจรจายกแรก เปิดเวทีให้ทหารเจอกันหลังสิ้นเสียงปืนแค่ 6-7 ชั่วโมง ออกตัวพูดแทนทหาร ความรู้สึกของคนรบกันแล้วต้องไปปั้นหน้ายิ้ม จับมือ จะเป็นอย่างไร พร้อมตั้งคำถาม เหตุใดไม่มี Monitoring Team “คณะกรรมการติดตามการหยุดยิง” เตือนไร้กลไกจัดการหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดละเมิดข้อตกลง ส่งผลสันติภาพสุดเปราะบาง พร้อมปะทุทุกเมื่อ
1 ชั่วโมง 35 นาที บนเวทีสัมภาษณ์กับ 3 บก.เครือเนชั่น ไม่มีคำถามเกี่ยวกับ “ชายแดนด้านใต้” ซึ่งก็คือปัญหาความไม่สงบในดินแดนปลายด้ามขวาน
ปัญหาความมั่นคง ถูกตั้งคำถามอย่างน่ากังวลว่ารัฐบาลเพื่อไทยจะเอาอย่างไรต่อไป หลังจากนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่