ฉบับเต็ม! คำพิพากษาคดี ‘เสน่ห์ ทองศักดิ์’ นายก อบต.เขากอบ จ.ตรัง ยื่นบัญชีฯเท็จ ถูกชี้มูลปกปิด 2 รายการ บ้านบนที่ดินเมียนอกสมรสด้วย แต่หลุดข้อกล่าวหา ส่วนปมเงินให้กู้ยืม บ.เอสดีทีฯ 58 ล. อ้างหนี้ปลอม/หลงลืม หลักฐาน งบการเงิน พยานมัด ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
วันที่ 28 เมษายน 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่า นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบ ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้มี 1 ปี
พฤติการณ์ของนายเสน่ห์ไม่แสดงรายการเงินให้กู้ยืมแก่ บริษัท เอสดีที พาราวู้ด จํากัด จํานวน 58 ล้านบาท อ้างว่าหลงลืม แต่ศาลวินิจฉัยว่าไม่มีน้ำหนัก เนื่องจากบริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด ต้องยื่นแบบภาษี ภ.พ. 30 ให้กรมสรรพากรทุกเดือน ซึ่งก่อนที่บริษัทจะยื่นแบบภาษีดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาในฐานะกรรมการผู้มีอํานาจเพียงคนเดียวของบริษัทย่อมจะต้องตรวจสอบข้อมูลในเอกสารทุกครั้งก่อนที่จะลงลายมือชื่อเพื่อรับรองความถูกต้อง การที่ผู้ถูกกล่าวหาต้องตรวจสอบและลงลายมือชื่อในเอกสารเพื่อยื่นต่อหน่วยงานราชการอยู่เป็นประจําจึงไม่น่าเชื่อว่าจะหลงลืมว่าตนมีเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทดังกล่าวตามที่กล่าวอ้าง พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินดังกล่าว ตามที่สำนักข่าวอิศรารายงานแล้ว ( ข่าวเกี่ยวข้อง: คุก 2 เดือน-รอลงโทษ! นายก อบต.เขากอบ จ.ตรัง ยื่นบัญชีฯเท็จ-ไม่แจ้งเงินให้กู้ยืม 58 ล.
ความเป็นมาของคดีนี้เป็นอย่างไร นายเสน่ห์ปกปิดทรัพย์สินกี่รายการ ข้ออ้างหรือต่อสู้ข้อกล่าวหาอย่างไร ทำไมศาลฎีกาฯวินิจฉัยว่าจงใจปกปิดเงินให้กู้ยืม?
สำนักข่าวอิศรา เรียบเรียงคำพิพากษามารายงานอย่างละเอียด
@เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม-ไม่แจ้งทรัพย์สิน 2 รายการ –บ้านบนที่ดินเมียนอกสมรสด้วย
คำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อม.5 /2567 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 14 /2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 28 เดือน เมษายน พุทธศักราช 2568 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่ง ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167 ประกอบมาตรา 188
ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ
พิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่ได้จากทางไต่สวนและพยานหลักฐานของคู่ความแล้ว รับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบ อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2555 และพ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2562 ผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 และเป็นผู้บริหารท้องถิ่นตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องเมื่อเข้ารับตําแหน่งและเมื่อพ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และมาตรา 105 ประกอบประกาศดังกล่าว
ขณะดํารงตําแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหาอยู่กินฉันสามีภริยากับนางสาวเอกฤทัย กอบกิจ โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีบุตรที่ยัง ไม่บรรลุนิติภาวะ 2 คน คือ นายประกาศิต ทองศักดิ์ อายุ 19 ปี และนางสาวประกาศินี ทองศักดิ์ อายุ 17 ปี ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตําแหน่งแล้ว ส่วนกรณีพ้นจากตําแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในวันที่ 10 มีนาคม 2562 โดยผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่งเมื่อ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 และมีหนังสือยื่นเพิ่มเติมอีกหลายครั้ง คือ ฉบับลงวันที่ 8 มีนาคม 2562 วันที่ 31 ตุลาคม 2562 วันที่ 26 และ 27 พฤศจิกายน 2562 และวันที่ 16 ธันวาคม 2562 แต่ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ รายการเงินฝากธนาคารของผู้ถูกกล่าวหา 2 บัญชี รายการเงินฝาก ธนาคารและเงินฝากสหกรณ์การเกษตรห้วยยอดของนางสาวเอกฤทัย 4 บัญชี และเงินฝากธนาคาร ของนางสาวประกาศินี 2 บัญชี ที่ดินของผู้ถูกกล่าวหา นางสาวเอกฤทัยและบุคคลอื่นถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน 1 แปลง โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างบ้านสองชั้น 1 หลัง เลขที่ 297/1 หมู่ 1 ตําบลเขากอบ อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 43943 และสนามกีฬาในร่มของนางสาวเอกฤทัย 2 แห่ง และรถยนต์ของผู้ถูกกล่าวหา 3 คัน
ผู้ร้องมีหนังสือฉบับลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาดําเนินการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบให้ครบถ้วนถูกต้อง
ผู้ถูกกล่าวหามีหนังสือฉบับลงวันที่ 8 ธันวาคม 2564 วันที่ 27 มกราคม 2565 และวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ชี้แจงข้อเท็จจริงและยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเพิ่มเติม โดยชี้แจงรายการบ้านสองชั้น 1 หลัง เลขที่ 297/1 หมู่ 1 ตําบลเขากอบ อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 43943 ของนางสาวเอกฤทัย ว่า ที่ดินโฉนด เลขที่ 43943 เป็นที่ดินแปลงย่อยที่นางสาวเอกฤทัยแบ่งแยกออกมาจากแปลงคงตามสัดส่วนที่ลงหุ้น ส่วนบ้านดังกล่าวเป็นบ้านจัดสรรที่นางสาวเอกฤทัยปลูกสร้างในที่ดินโฉนดเลขที่ 43943 แยกเป็น ค่าปลูกสร้าง 1,800,000 บาท ค่าที่ดิน 400,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,200,000 บาท สําหรับ ค่าปลูกสร้างนางสาวเอกฤทัยเบิกเงินสํารองจ่ายมาจากบริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด ซึ่งจะมีการหักทอนหนี้กันภายหลัง ส่วนรายการอื่น ๆ อ้างว่าหลงลืม มิได้มีเจตนาปกปิดไม่แสดงทรัพย์สินหรือหนี้สิน
ต่อมาผู้ร้องมีหนังสือฉบับลงวันที่ 26 มิถุนายน 2566 แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาดําเนินการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบให้ครบถ้วนถูกต้องโดยระบุว่าผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินหรือเอกสารประกอบไม่ถูกต้อง ได้แก่
รายการเงินให้กู้ยืมขาดเอกสารหลักฐานแสดงยอดเงินให้กู้ยืมคงเหลือ ณ วันที่ 9 มกราคม 2562 ที่ให้บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด กู้ยืม พร้อมเอกสารหลักฐานการให้กู้ยืม รายการสิทธิและสัมปทาน 1 รายการ กล่าวคือ มูลค่าเวนคืน ประกันชีวิตกรมธรรม์เลขที่ 5094345683 ของนางสาวเอกฤทัย และรายการหนี้สินที่มีหลักฐาน เป็นหนังสือ 1 รายการ ขาดหลักฐานแสดงยอดหนี้ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาเป็นหนี้บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด คงเหลือ ณ วันที่ 9 มกราคม 2562 พร้อมหลักฐานการเป็นหนี้ ผู้ถูกกล่าวหามีหนังสือฉบับลง วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ขอยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเพื่อให้ครบถ้วนโดยชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับยอดหนี้และที่มาของเงินว่ารายการเป็นเจ้าหนี้บริษัท เอสดีที พาราวู้ด จํากัด และรายการเป็นหนี้บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด มีลักษณะเป็นการหักทอนหนี้ มียอดสะสมยกมาจากปี 2559 แสดงรายการผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหนี้บริษัท 47,481,600 บาท เมื่อหักทอนกันถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2562 แสดงรายการเป็นเจ้าหนี้บริษัท 58,050,495 บาท ที่มาของเงินที่ผู้ถูกกล่าวหานําไปให้บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด กู้ยืมนั้น ความจริงแล้วเป็นเงินรายได้ของ บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด จากการจําหน่ายปีกไม้ ไม้ฟืน ขี้เลื่อย และหัวไม้ตัด เป็นเงินสดสะสมไว้ ตั้งแต่เปิดบริษัทเพื่อความสะดวกในการใช้จ่ายของบริษัท เมื่อนําเงินดังกล่าวไปเข้าบัญชีบริษัทจะบันทึกว่ารับเงินจากกรรมการ และเมื่อผู้ถูกกล่าวหาเบิกเงินดังกล่าวไปใช้จะบันทึกว่าจ่ายคืนเงินยืมกรรมการ ซึ่งเป็นไปตามที่ผู้รับทําบัญชีแนะนํา
ผู้ร้องมีหนังสือฉบับลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหา
ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาและมีหนังสือฉบับลงวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่าสําหรับรายการบ้านเลขที่ 297/1 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเหตุผลในการยื่นเพิ่มเติมตามคําสั่งของสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดตรังครบถ้วนถูกต้องแล้ว ส่วนรายการเงินให้กู้ยืม แก่บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด 58,050,495 บาท ที่มิได้แจ้งเพราะหลงลืมเนื่องจากเป็นหัวข้อรายการทางบัญชีในงบการเงินของบริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด และเมื่อสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดตรังมีหนังสือให้แจ้งเพิ่มเติม ผู้ถูกกล่าวหาก็ได้ดําเนินการยื่นเพิ่มเติมพร้อมคําชี้แจงแสดงเหตุผลครบถ้วนถูกต้องภายในเวลาที่กําหนดแล้ว การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินไม่ครบถ้วนของผู้ถูกกล่าวหาเกิดจากการหลงลืม ไม่ได้เกิดจากเจตนาปกปิดทรัพย์สินและหนี้สิน เมื่อเจ้าพนักงานมีคําสั่งให้ยื่นรายการทรัพย์สินและหนี้สินเพิ่มเติมผู้ถูกกล่าวหาก็ดําเนินการยื่นเพิ่มเติมตามคําสั่งจนครบถ้วนภายในเวลาที่กําหนดทุกครั้ง
ต่อมาผู้ร้องมีมติว่าทรัพย์สินรายการอื่น ๆ รับฟังได้ตามที่ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีพฤติการณ์จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อผู้ร้อง และไม่มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินรายการดังกล่าว ส่วนรายการเงินให้กู้ยืมแก่บริษัท เอสดีที่ พาราวู้ด จํากัด 58,050,495 บาท และรายการบ้านเลขที่ 297/1 ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
@ประเด็น ซุกบ้านหรือไม่-ศาลวินิจฉัยไม่จงใจปกปิด
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยประการแรกว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ โดยไม่แสดงรายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างบ้านเลขที่ 297/1 หมู่ 1 ตําบลเขากอบ อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 43943 ของนางสาวเอกฤทัย และมีพฤติการณ์ อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบ หรือไม่
ผู้ร้องมีนายนัทธ์ทัพพ์ธัญ ชัยศร เจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สินชํานาญการ สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดตรัง เป็นพยานเบิกความว่า แบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินแยกรายการที่ดินและรายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกจากกัน พร้อมมี คําอธิบายอย่างชัดเจน ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้ถูกกล่าวหาแสดงเพียงรายการที่ดิน โฉนดเลขที่ 43943 ตําบลเขากอบ อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ของนางสาวเอกฤทัย มูลค่า 2,200,000 บาท มิได้ระบุราคาประเมินที่ดินรวมกับราคาโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง และรายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง มิได้แสดงรายการบ้านเลขที่ 297/1 ไว้ ซึ่งบ้านดังกล่าว ได้มาระหว่างผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบ ผู้ถูกกล่าวหาย่อมทราบดีว่ามีทรัพย์สินดังกล่าว การที่ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงว่าที่ดินมีมูลค่าเพียง 400,000 บาท และบ้าน 1,800,000 บาท เท่ากับผู้ถูกกล่าวหาลดทอนมูลค่าที่ดิน และหากตรวจสอบตามเอกสารที่ ผู้ถูกกล่าวหายื่นมาทั้งหมดไม่สามารถทราบได้เลยว่ามีบ้านหลังนี้ การตรวจสอบมีการลงพื้นที่และตรวจสอบไปยังอําเภอห้วยยอด และองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบ ทําให้ทราบว่านางสาวเอกฤทัย เป็นผู้ที่ไปขอใบอนุญาตก่อสร้าง น้องสาวผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ไปขอเลขที่บ้าน ซึ่งบุคคลทั้งสองเป็นคนใกล้ชิดกับผู้ถูกกล่าวหา การไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าวมีผลกระทบต่อการตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินที่ทําให้ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาเบิกความว่า บ้านเลขที่ 297/1 ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินของนางสาวเอกฤทัย โฉนดเลขที่ 43943 นั้น ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินได้ระบุไว้ในประเภทที่ดินลําดับที่ 22 โฉนดเลขที่ 43943 โดยราคาที่ดินดังกล่าวได้รวมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินไว้แล้วในราคา 2,200,000 บาท ซึ่งที่ดินตั้งอยู่ห่างจาก อําเภอห้วยยอดประมาณ 5 กิโลเมตร ห่างไกลความเจริญ หากไม่มีสิ่งปลูกสร้างจะมีราคาที่ดินประมาณ 400,000 บาท และราคาสิ่งปลูกสร้าง 1,800,000 บาท ด้วยความพลั้งเผลอจึงมิได้แยกรายละเอียดออกจากกัน มิได้มีเจตนาจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้ง
เห็นว่า ตามแบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบกรณีผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ได้แยกรายการที่ดินและรายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกเป็นคนละรายการ ซึ่งรายการที่ดินได้ระบุที่ดินโฉนดเลขที่ 43943 เป็นของนางสาวเอกฤทัย มูลค่า 2,200,000 บาท โดยไม่ได้ระบุว่ามูลค่าที่ดินดังกล่าวได้รวมมูลค่าของโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวด้วย เมื่อผู้ร้องแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงรายการทรัพย์สินส่วนนี้เพิ่มเติม ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงว่ามูลค่าที่ดินดังกล่าวเป็นราคาที่ดิน 400,000 บาทและราคาสิ่งปลูกสร้าง 1,800,000 บาท ค่าสิ่งปลูกสร้างเป็นเงินที่นางสาวเอกฤทัยเบิกมาจากบริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด จะมีการหักทอนกันภายหลัง ตามหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง (ครั้งที่ 2) เอกสารหมาย ร. 15 หน้า 150 เมื่อพิจารณาถึงราคาที่ดินโฉนดเลขที่ 43943 เทียบเคียงกับที่ดินโฉนดเลขที่ 41276 ตําบลเขากอบ อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ซึ่งตั้งอยู่ในละแวกเดียวกัน โดยสํานักงานที่ดินจังหวัดตรังมีหนังสือถึง สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 แจ้งราคาประเมินที่ดินโฉนด เลขที่ 41276 และโฉนดเลขที่ 43943 ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง มีราคาประเมินตารางวาละ 175 บาท เท่ากัน และตามบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินระบุว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 41276 มีเนื้อที่ 1 งาน 27.6 ตารางวา ประเมินมูลค่าไว้ 380,000 บาท และที่ดินโฉนดเลขที่ 21534 มีเนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน 28 ตารางวา มูลค่าปัจจุบันประมาณ 1,000,000 บาท ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบราคาที่ดินดังกล่าวแล้วแสดงให้เห็นได้ชัดว่า ราคาที่ดินโฉนดเลขที่ 43943 ซึ่งแบ่งแยกมาจากที่ดินแปลงคงโฉนด เลขที่ 21534 ละมีเนื้อที่เพียง 27.8 ตารางวา หากไม่มีสิ่งปลูกสร้างย่อมมีราคาไม่ถึง 1,000,000 บาท หรืออาจต่ำกว่า 380,000 บาท เชื่อได้ว่า มูลค่าที่ดินโฉนดเลขที่ 43943 ที่ผู้ถูกกล่าวหาแจ้งในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน 2,200,000 บาท นั้น ได้รวมมูลค่าบ้านเลขที่ 297/1 ไว้ด้วย แล้ว ส่วนที่นายนัทธ์ทัพพ์ธัญเบิกความว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้แนบสําเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งสําเนาทะเบียนบ้านเป็นเอกสารที่ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนดให้ต้องแนบมาในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน เห็นว่า เมื่อพิจารณาหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง ครั้งที่ 2 ฉบับลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ของผู้ถูกกล่าวหา ที่ได้ชี้แจงว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 43943 เป็นที่ดินแปลงย่อยที่นางสาวเอกฤทัยแบ่งแยกมาจากแปลงคงตามสัดส่วนที่ลงหุ้น ส่วนบ้านเลขที่ 297/1 เป็นบ้านจัดสรรที่นางสาวเอกฤทัยปลูกสร้างในที่ดินโฉนด เลขที่ 43943 แยกเป็นค่าปลูกสร้าง 1,800,000 บาท ค่าที่ดิน 400,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,200,000 บาท สําหรับค่าปลูกสร้าง นางสาวเอกฤทัยเบิกเงินมาจากบริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด ซึ่งจะมีการหักทอนหนี้กันภายหลัง ตามสําเนาทะเบียนบ้านและใบสรุปทรัพย์สินเอกสารแนบ 56 ถึง 67 อีกทั้งหนังสือขอยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติม (ครั้งที่ 2) ฉบับลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ของ ผู้ถูกกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหายื่นเอกสารเพิ่มเติม รายการที่ 3 คือ ทะเบียนบ้าน 1 หลัง เลขที่ 297/1 หมู่ 1 ตําบลเขากอบ อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง แล้ว ดังนี้ หากผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้แนบสําเนาทะเบียนบ้าน หรือผู้ร้องไม่ได้รับสําเนาเอกสารดังกล่าว ก็น่าจะต้องมีการแจ้งเตือนหรือมีบันทึกหมายเหตุไว้ในเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นพยานหลักฐานว่าไม่มีการแนบสําเนาทะเบียนบ้านมาพร้อมหนังสือฉบับ ดังกล่าว จึงเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้แนบสําเนาทะเบียนบ้านมาพร้อมกับหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง ครั้งที่ 2 ฉบับลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 และหนังสือขอยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติม (ครั้งที่ 2) ฉบับลง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 แล้ว นอกจากนี้ มูลค่าบ้านเลขที่ 297/1 ไม่ได้ทําให้มูลค่าทรัพย์สินตามบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นไว้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสําคัญ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า รายการที่ดินโฉนดเลขที่ 43943 ตําบลเขากอบ อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง มูลค่า 2,200,000 บาท ที่ผู้ถูกกล่าวหาแจ้งไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินนั้นได้รวมมูลค่าสิ่งปลูกสร้าง บ้านเลขที่ 297/1 ไว้ด้วยแล้ว จากพยานหลักฐานที่ไต่สวนมาไม่อาจรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจปกปิดรายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างบ้านเลขที่ 2997/1 หมู่ 1 ตําบลเขากอบ อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 43943 ของนางสาวเอกฤทัย อันจะเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
@ประเด็นที่สอง ไม่แจ้งเงินให้กู้ ยืม บ.เอสดีที พาราวู้ด 58 ล้านหรือไม่-เจ้าตัวอ้างหลงลืม
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยอีกประการหนึ่งว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ โดยไม่แสดงรายการเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด จํานวน 58,050,495 บาท และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบหรือไม่
ผู้ร้องมีนายนัทธ์ทัพพ์ธัญ ชัยศร เจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สินชํานาญการ สํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัดตรัง เป็นพยานเบิกความว่า ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง โดยไม่แสดงรายการเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด จํานวน 58,050,495 บาท ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงว่า เหตุที่มิได้แจ้งรายการเงินให้กู้ยืมดังกล่าวเนื่องจากหลงลืม และเงินให้กู้ยืมดังกล่าวเป็นรายได้ของบริษัท เอสดีที พาราวู้ด จํากัด จากการจําหน่ายปีกไม้ ไม้ฟืน ขี้เลื่อย และหัวไม้ตัด เป็นเงินสดที่สะสมไว้ ตั้งแต่เปิดบริษัทเพื่อความสะดวกในการใช้จ่ายของบริษัท เมื่อนําเงินสดเข้าบัญชีจะบันทึกว่ารับเงินจากกรรมการ เมื่อเบิกเงินไปใช้จ่ายจะบันทึกว่าจ่ายคืนเงินยืมกรรมการตามที่ผู้รับทําบัญชีแนะนํา แต่พยานตรวจสอบงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินปีบัญชี 2561 ของบริษัทดังกล่าวที่ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ข้อ 12 ระบุว่า บริษัทมีเงินกู้ยืมระยะสั้นจากกรรมการเพื่อใช้ในการดําเนินงาน ซึ่งตรงกับข้อมูลในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล ปีภาษี 2561 ที่บริษัทยื่นต่อกรมสรรพากร ที่ระบุในรายการที่ 9 ว่า บริษัทมีหนี้สินหมุนเวียนเงินกู้ยืมจํานวนดังกล่าว ทั้งยังได้ความจากนางสาวเพชรลดา ศิริศุภนนท์ ผู้ตรวจสอบบัญชีบริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด นางสาวปิยะวรรณ สุพันทวี และนางลักคณา เลี้ยววัฒนาสกุล ผู้จัดทําบัญชีงบการเงินให้บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด ที่ให้ถ้อยคําต่อพยานและมาเบิกความต่อศาลทํานองเดียวกันว่า บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด มีหนี้เงินกู้ยืมระยะสั้นจากกรรมการในวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง 58,050,495 บาท ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีผู้ถูกกล่าวหาเป็นกรรมการเพียงคนเดียว
@ยอดหนี้ปรากฏในงบการเงิน-เจ้าตัวเป็นกก.เพียงคนเดียวย่อมทราบรับรู้
องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นว่า พยานผู้ร้องเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ไม่เคยรู้จักหรือมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหามาก่อน เบิกความไปตามข้อเท็จจริงตามที่ตนได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในพยานเอกสารของผู้ร้อง จึงเชื่อว่าเบิกความไปตามความจริง อีกทั้งหลักฐาน จากงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินปีบัญชี 2561 และแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ นิติบุคคล ปีภาษี 2561 ที่บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร โดยมีผู้ถูกกล่าวหาลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องไว้ก็ระบุว่า ณ วันที่ 9 มกราคม 2562 อันเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบนั้น บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด มีหนี้เงินกู้ยืมระยะสั้นจากกรรมการซึ่งหมายถึงผู้ถูกกล่าวหา จํานวน 58,050,495 บาท โดยเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่บริษัทจัดทําขึ้นเพื่อยื่นต่อหน่วยงานราชการย่อมเป็นพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือและเชื่อว่าข้อความที่ได้บันทึกไว้นั้นถูกต้องทุกประการ
ประกอบกับหนี้เงินกู้ยืมดังกล่าว เป็นเงินจํานวนมาก ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอํานาจกระทําการแทนบริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด แต่เพียงผู้เดียวย่อมจะต้องทราบและรับรู้ถึงรายการทรัพย์สินดังกล่าวของตนเป็นอย่างดี
@อ้างกู้ยืมปลอม-ทำบัญชีเพื่อบรรเทาภาระภาษี
การที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องโดยไม่แสดงรายการเงินให้กู้ยืมดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นเงินของบริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด ที่ได้จากการจําหน่ายปีกไม้ ไม้ฟืน ขี้เลื่อย และ หัวไม้ตัด ซึ่งบริษัทจะนํารายได้จากการจําหน่ายเป็นรายได้นอกบัญชีเพื่อไว้ใช้จ่ายและเพื่อความสะดวกในการเบิกจ่ายดําเนินกิจการของบริษัท บริษัทจึงนําเงินดังกล่าวเข้าเป็นรายได้ของบริษัทในรูปแบบของเงินกู้ยืมระยะสั้นจากกรรมการ อันเป็นการหลบเลี่ยงรายได้เพื่อบรรเทาภาระภาษีของบริษัทโดยมิได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง ผู้ถูกกล่าวหาจึงเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นเพียงวิธีการทําบัญชีงบการเงินของบริษัทเท่านั้น และเมื่อเงินดังกล่าวมิใช่ของผู้ถูกกล่าวหาจึงไม่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินในส่วนนี้นั้น เป็นข้อกล่าวอ้างที่ขัดกับหลักฐานที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นต่อหน่วยงานราชการอย่างชัดแจ้ง
@พยานเบิกความ บ.มีรายได้ขายปีกไม้ปีละแค่ 1 ล. /ข้ออ้างหลงลืม ขัดแย้งข้อเท็จจริง
อีกทั้งนางสาวศิริลักษณ์ กองกุลศิริ พยานผู้ถูกกล่าวหาเบิกความตอบศาลว่า บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด มีรายได้จากการจําหน่ายปีกไม้ ไม้ฟืน ขี้เลื่อย และหัวไม้ตัด ปีละ 1,000,000 บาทเศษ เท่านั้น แต่กลับปรากฏข้อมูลในงบแสดงฐานะทางการเงินของบริษัทรอบปีบัญชี 2558 และ 2559 ว่า ยอดเงินให้กู้ยืมระยะสั้นจากกรรมการเพิ่มขึ้นจาก 1,500,000 บาท เป็น 47,481,600 บาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับที่นางสาวศิริลักษณ์เบิกความดังกล่าว ทําให้ไม่น่าเชื่อว่ายอดเงินให้กู้ยืมระยะสั้นจากกรรมการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดสังเกตนั้นเป็นเงินรายได้ของบริษัทจากการจําหน่ายปีกไม้ ไม้ฟืน ขี้เลื่อย และหัวไม้ตัด ตามที่ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ถูกกล่าวหามิได้แจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงินกู้ยืมระยะสั้นจากกรรมการของบริษัท จํานวน 58,050,495 บาท แก่ผู้ร้องตั้งแต่คราวแรก ทั้งที่ เป็นเงินจํานวนมาก จนกระทั่งผู้ร้องตรวจสอบพบและให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงเพิ่มเติม อันเป็นข้อพิรุธส่อให้เห็นถึงความผิดปกติและความไม่สุจริตของผู้ถูกกล่าวหา ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าหลงลืมจึงมิได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด จํานวน 58,050,495 บาท นั้น ได้ความจากคําเบิกความของนางสาวเพชรลดา นางสาวปิยะวรรณ และนางลักคณา ว่า บริษัทเอสดีที พาราวู้ด จํากัด ต้องยื่นแบบภาษี ภ.พ. 30 ให้กรมสรรพากรทุกเดือน ซึ่งก่อนที่บริษัทจะยื่นแบบภาษีดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาในฐานะกรรมการผู้มีอํานาจเพียงคนเดียวของบริษัทย่อมจะต้องตรวจสอบข้อมูลในเอกสารทุกครั้ง ก่อนที่จะลงลายมือชื่อเพื่อรับรองความถูกต้อง การที่ผู้ถูกกล่าวหาต้องตรวจสอบ และลงลายมือชื่อในเอกสารเพื่อยื่นต่อหน่วยงานราชการอยู่เป็นประจํา จึงไม่น่าเชื่อว่า ผู้ถูกกล่าวหาจะหลงลืมว่าตนมีเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทดังกล่าวตามที่กล่าวอ้าง ผู้ถูกกล่าวหาชอบที่จะแสดงข้อเท็จจริงในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง อันจะทําให้ผู้ร้องตรวจสอบเพื่อให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงไปของทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหาได้อย่างครบถ้วนถูกต้อง แต่ผู้ถูกกล่าวหา หาได้กระทําไม่ จึงถือได้ว่าเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงดังกล่าวที่ควรแจ้งให้ผู้ร้องทราบ
@ฟันฉับ จงใจปกปิดเงินให้กู้ยืม 58 ล้าน
ทั้งนี้การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องโดยถูกต้องตรงกับความจริงเป็นหน้าที่สําคัญของผู้บริหารท้องถิ่นที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบ ทรัพย์สินและหนี้สิน เพื่อป้องปรามผู้ใช้อํานาจรัฐโดยมิชอบ การกระทําของผู้ถูกกล่าวหาแสดงให้เห็นถึงการละเลยต่อหน้าที่ พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินดังกล่าว
จึงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ โดยไม่แสดงรายการเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทเอสดีที่ พาราวู้ด จํากัด จํานวน 58,050,495 บาท และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบ มีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบ มาตรา 114 วรรคสาม และการกระทําของผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวยังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ด้วย
@ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 2 เดือน ปรับเงิน 8,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
พิพากษาว่า นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตาม มาตรา 167 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระ ค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่ ปี 2568
คุก 2 เดือน-รอลงโทษ! นายก อบต.เขากอบ จ.ตรัง ยื่นบัญชีฯเท็จ-ไม่แจ้งเงินให้กู้ยืม 58 ล. (15)
จำคุก 2 เดือน-ให้รอลงโทษ! ส.อบจ.พิจิตร ยื่นบัญชีฯเท็จ-ใช้ลูกชาย‘นอมินี’ถือหุ้นรับเหมา (14)
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 2 เดือน ‘นาวิน’ ส.อบจ.อุบลฯ จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ – ให้รอลงโทษ (13)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน ‘พรชัย’ นายก อบจ.อุบลฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ นับโทษต่อ 2 คดีทุจริต (12)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน นายก อบต.ดงรัก จ.ศรีสะเกษ ไม่ยื่นบัญชีฯ-ให้รอลงโทษ (11)
- องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ฯแก้โทษให้รอลงอาญา 2 ปี รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ (10
- ศาลฎีกาฯพิพากษานายก อบต.สมสะอาด จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน –รอลงโทษ (9)
- ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก อบต.นาคำใหญ่ จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน-รอลงโทษ (8)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ รองนายก อบต.บางกุ้ง จ.ตรัง ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง (7)
- ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘อาแซ มาหะมะ’ นายกเทศฯ ต.ตอหลัง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ (6)
- ศาลฎีกาพิพากษา ‘อนุชิต’ สท.เมืองบึงยี่โถ จ.ปทุมฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ จําคุก 2 เดือน รอลงโทษ (5)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน นายก อบต.หนองแสงใหญ่ จ.อุบลฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(4)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน ‘ขนบ’ นายกอบต.โนนทัน จ.หนองบัวฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(3)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ‘สมพงษ์’รองนายก อบต.ดอนกลาง มหาสารคาม ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(2)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน ‘ชัชวาลย์ ’รองนายก อบจ.ตาก ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ-รอลงโทษ(1)
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2567 (เผยแพร่ 28 ม.ค.2567-12 ม.ค.2568)
- สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สิน 35 นักการเมืองท้องถิ่นปี 2567
- สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่นปี 2567 มีความผิด 35 ราย คุกจริง 2 คน
- ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองฉาง จ.อุทัยฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายกทต.ธาตุพนม ยื่นบัญชีฯเท็จ
- จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ อ้างป่วย! ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายก อบจ.สมุทรสาคร-รอลงโทษ
- จำคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ ‘นันทนิตร’ สท.เมืองศิลา ขอนแก่น จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
- ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.ถ้ำ จ.พังงา ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
- ‘มะหมัดนีซัม บิลังโหลด’นายกเทศฯ ต.เจ๊ะบิลัง สตูล ยื่นบัญชีเท็จ จำคุก 1 ด.-รอลงโทษ
- ศาลพิพากษา ‘ทรงยศ’ รองนายกเทศฯ ต.นาชะอัง ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
- ‘บุญชัย สีนานันท์’รองนายก อบต.ดอนจิก จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
- เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม ‘ไพร พัฒโน’ นายกฯนครหาดใหญ่ ยื่นบัญชีฯเท็จจำคุก 1 เดือน
- ศาลฎีกาพิพากษา ‘ศิริชัย กุลาศรี’ ส.อบจ.มหาสารคาม ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน รอลงโทษ
- ให้พ้นตำแหน่ง ศาลฎีกาฯ จำคุก 2 เดือน! รองนายก อบต.คลองโคน ยื่นบัญชีเท็จ-รอลงโทษ
- ให้พ้นตำแหน่ง! รองนายก อบต.น้ำผุด จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 2 เดือน รอลงโทษ
- ศาลฎีกาให้รองนายกเทศฯ ต.แพรกษา พ้นตำแหน่ง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ
- คดีที่สอง!ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน นายก ทต.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
- ฉบับเต็ม!องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกคำร้อง รองนายก อบต.กันจุ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
- รองนายก อบต.หนองบัวใต้ หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จําคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ
- รองนายก อบต.เฉลียง จ.นครราชสีมา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์’รองนายก ทต.ท่าอุเทน ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษา‘สุรางค์ทิพย์’ส.อบจ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯ พิพากษา ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ซุกเงินฝาก ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายกเทศฯต.โคกล่าม จ.ร้อยเอ็ด ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายกเทศฯ ต.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
- พลิกคดีเก่า รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีเท็จ 5 ครั้ง ก่อนทำผิดซ้ำ คราวนี้คุกจริง 6 เดือน
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ
- ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
- จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
- ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
- ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
- ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
- คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
- ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
- ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
- ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน