
กรณีศึกษา! เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี ‘วุฒิชัย ทองเถาว์’ ผู้มีสิทธิเลือก สว.ระดับจังหวัด จ.อุบลราชธานี เสนอเงินจูงใจผู้สมัครกลุ่มเดียวกัน “ป๋าเลือกผม…เลากะให้ค่ารถป๋าห้าหมื่น” พิสูจน์แล้วคลิปเสียงของจริง มิใช่ เป็นเพื่อนกัน ข้ออ้างพูดเล่น ฟังไม่ขึ้น ถือกระทำทุจริต
อีกกรณีศึกษา! คดีผู้สมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภาปี 2567 มีพฤติการณ์ทุจริตเพื่อให้ได้รับการคัดเลือกถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเวลา 10 ปี รายนี้เกิดขึ้นใน จ.อุบลราชธานี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้นายวุฒิชัย ทองเถาว์ ผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานีเป็นเวลา 10 ปี โทรศัพท์ ชักชวนให้นายประจักษ์ ธรรมราช ผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มเดียวกับ นายวุฒิชัย ผู้คัดค้าน ชักชวนให้ลงคะแนนแก่ผู้คัดค้านและเสนอเงิน 50,000 บาท เป็นค่าเดินทางโดยอ้างว่าเงินดังกล่าว เป็นเงินของนางวิลาวัณย์ ตันวัฒนะพงษ์ โดยกล่าวถ้อยคําว่า “ป๋าเลือกผม ป๋าเลือกผม แล้วก็ที่เรายืนมาก็ให้ประมาณนี้ละครับ” “เลากะหมื่น ค่ารถป๋าห้าหมื่น” “ก็ป๋าเลือกผม ป๋าเลือกผมคือเก่า” และ “ดร. ครับ ให้ค่ารถเมื่อบ้านครับ”
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพยานหลักฐานที่ผู้ร้องนํามาไต่สวนมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า ผู้คัดค้านเสนอจะให้เงินแก่นายประจักษ์ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกในระดับจังหวัดเพื่อจูงใจให้นายประจักษ์ลงคะแนนให้แก่ผู้คัดค้านโดยมิได้พิจารณาจากความรู้ความเชี่ยวชาญประสบการณ์ ๆ การทํางานหรือคุณสมบัติอื่น ๆ ของผู้สมัคร อันเป็นเหตุให้การคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภาไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ขัดต่อความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 จึงให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 วรรคสาม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62 รายละเอียดดังนี้
@เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม
คําพิพากษา คดีหมายเลขดําที่ ลต สว 9/2568 คดีหมายเลขแดงที่ ลต สว 52 /2568 ศาลฎีกา
วันที่ 12 เดือน พฤศจิกายน พุทธศักราช 2568 ความคดีเลือกตั้ง ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง นายวุฒิชัย ทองเถาว์ ผู้คัดค้าน
เรื่อง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง)
ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับ
ผู้ร้องยื่นคําร้องว่า สืบเนื่องมาจากมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2568 ให้ไว้ ณ วันที่ 24 เมษายน 2567และผู้ร้องได้มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เรื่อง กําหนดวันเลือกและวันรับสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา กําหนดวันเลือกระดับอําเภอวันที่ 9 มิถุนายน 2567 วันเลือกระดับจังหวัดวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และวันเลือกระดับประเทศวันที่ 26 มิถุนายน 2567
ก่อนประกาศผลการเลือกผู้ร้องได้รับคําร้องคัดค้าน จากนายประจักษ์ ธรรมราช ผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มเดียวกับผู้คัดค้านว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 13 นาฬิกา ผู้คัดค้านโทรศัพท์ติดต่อนายประจักษ์พูด ชักชวนให้ลงคะแนนแก่ผู้คัดค้านและเสนอเงิน 50,000 บาท เป็นค่าเดินทางโดยอ้างว่าเงินดังกล่าว เป็นเงินของนางวิลาวัณย์ ตันวัฒนะพงษ์
ผู้ร้องไต่สวนแล้วได้ความว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลากลางวัน ผู้คัดค้านโทรศัพท์ติดต่อนาประจักษ์ โดยผู้คัดค้านกล่าวถ้อยคําว่า “ป๋าเลือกผม ป๋าเลือกผม แล้วก็ที่เรายืนมาก็ให้ประมาณนี้ละครับ” “เลากะหมื่น ค่ารถป๋าห้าหมื่น” “ก็ป๋าเลือกผม ป๋าเลือกผมคือเก่า” และ “ดร. ครับ ให้ค่ารถเมื่อบ้านครับ” เมื่อพิจารณาบทสนทนา ดังกล่าวแล้วมีลักษณะเป็นการเสนอให้เงิน 50,000 บาท เพื่อจูงใจให้นายประจักษ์ลงคะแนนให้แก่ ผู้คัดค้าน แม้ผู้คัดค้านจะให้ถ้อยคําว่า ถ้อยคําของตนดังกล่าวเป็นเพียงการหยอกล้อกับนายประจักษ์เพื่อ มิให้นายประจักษ์ชักชวนผู้คัดค้านให้เข้าร่วมกลุ่มหรือกิจกรรมแนะนําตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ก็เป็นเพียงการกล่าวอ้างลอย ๆ ให้พ้นความรับผิดเท่านั้น กรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า การกระทํา ๆ ของผู้คัดค้านเป็นการทุจริตในการเลือก อันเป็นเหตุให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด จังหวัด อุบลราชธานี ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้คัดค้านมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62 ขอให้มีคําสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้คัดค้านทั้งสองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62
ผู้คัดค้านยื่นคําคัดค้านว่า ผู้คัดค้านไม่ได้เป็นผู้ให้หรือเสนอให้เงินหรือผลประโยชน์ อื่นใดแก่นายประจักษ์เพียงแต่โทรศัพท์พูดคุยชักชวนให้นายประจักษ์ลงคะแนนให้แก่ผู้คัดค้านเท่านั้น เงิน 50,000 บาท ที่ผู้คัดค้านกล่าวถึงไม่ใช่เงินของผู้คัดค้านแต่เป็นของผู้อื่น การกระทําของผู้คัดค้านไม่เป็นความผิดตามคําร้องขอให้ยกคําร้อง
@เหตุเกิด โทร.หาผู้มีสิทธิเลือกกลุ่มเดียวกัน “ป๋าเลือกผม…เลากะให้ค่ารถป๋าห้าหมื่น”
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งไต่สวน และตรวจสํานวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 และผู้ร้องได้มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เรื่อง กําหนดวันเลือก และวันรับสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา กําหนดวันเลือกระดับอําเภอวันที่ 9 มิถุนายน 2567 วันเลือกระดับจังหวัดวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และวันเลือกระดับประเทศวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ผู้คัดค้านและนายประจักษ์ ธรรมราช เป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานีในกลุ่มเดียวกัน
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2567ผู้คัดค้านและนายประจักษ์โทรศัพท์ติดต่อกันโดยผู้คัดค้าน พูดชักชวนให้นายประจักษ์ลงคะแนนให้แก่ผู้คัดค้านด้วยถ้อยคําว่า “ป๋าเลือกผม ป๋าเลือกผม แล้วก็ที่เลา ยื่นมาก็ให้ประมาณนี้ละครับ ที่ผมเคยบอกป๋า” “เลากะให้ค่ารถป๋าห้าหมื่น ค่ารถป๋าห้าหมื่น” “ก็ป๋า เลือกผม ป๋าเลือกผมคือเก่า” และ “ดร. ครับ ให้ค่ารถเมื่อบ้านครับ” ตามบันทึกถอดเทปการสนทนา เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 98 และหน้าที่99 และคลิปบันทึกเสียงการสนทนาในแฟลชไดร์ฟ เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 103 ต่อมาเมื่อวันที่ มาเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567นายประจักษ์เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตํารวจภูธรเมืองอุบลราชธานีตามรายงานประจําวันเกี่ยวกับคดีเอกสารหมาย ร.1 100 หน้าที่ และเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 นายประจักษ์ยื่นคําร้องคัดค้านการเลือกต่อสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัดอุบลราชธานีตาม เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 97
@ อ้างเงินของ ‘วิลาวัณย์ ตันวัฒนะพงษ์’
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านกระทําการอันเป็นการทุจริตในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาอันทําให้กาเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช2560 มาตรา 226 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62 หรือไม่
ทางไต่สวนได้ความจากพยานผู้ร้องปากนายณัฐชนน วิมล คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนประจํจังหวัดอุบลราชธานี และนายประจักษ์ ธรรมราช และจากสํานวนการไต่สวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี เอกสารหมาย ร.1 ว่า นายณัฐชนนได้รับมอบหมายจากนายประวิทย์ ก้อนทองดี ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําจังหวัดอุบลราชธานี ให้ดําเนินการไต่สวนเกี่ยวกับกรณีที่นายประจักษ์ยื่นคําร้องคัดค้านการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี ว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2567 ผู้คัดค้านโทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกับนายประจักษ์ โดยผู้คัดค้านพูดว่า “ป๋าเลือกผม ป๋าเลือกผม” เลากะให้ค่ารถป๋าห้าหมื่น “ดร. ครับ ให้ค่ารถเมื่อบ้านครับ” ตามบันทึกข้อความ “ เรื่อง พิจารณาคําร้องคัดค้านการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 106
@ส่งพิสูจน์หลักฐานยันคลิปเสียงเสนอเงิน 5 หมื่นของจริง
ต่อมาคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนประจําจังหวัดอุบลราชธานีดําเนินการสืบสวนและไต่สวนพยานหลักฐานพบว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลา 15.20 นาฬิกา ผู้คัดค้านและ นายประจักษ์โทรศัพท์ติดต่อกันผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลข 08 5311 3366 และหมายเลข 09 7962 1864 ผู้คัดค้านพูดชักชวนให้นายประจักษ์ลงคะแนนให้แก่ผู้คัดค้านและเสนอให้เงิน 50,000 บาท แก่นายประจักษ์ โดยอ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นของนางวิลาวัณย์ ตันวัฒนะพงษ์ ตามบันทึกถอดเทปการสนทนา เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 98 และคลิปบันทึกเสียงการสนทนาในแฟลชไดร์ฟ เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 103 ซึ่งผู้คัดค้านให้ถ้อยคํายอมรับว่าเสียงการสนทนาดังกล่าว เป็นเสียงของผู้คัดค้าน แต่อ้างว่าเป็นเพียงการพูดคุยในเชิงหยอกล้อกันเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ตามบันทึกถ้อยคํา เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 149 ถึงหน้าที่ 151 และหนังสือชี้แจงข้อกล่าวหา เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 167 ถึงหน้าที่ 169 จากนั้นนายณัฐชนนส่งคลิปบันทึกเสียงการสนทนาดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ผลการตรวจพิสูจน์ไม่พบร่องรอยการตัดต่อแฟ้มข้อมูลเสียง ตามรายงานการตรวจพิสูจน์เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 203 คณะกรรมการสืบสวนและ ไต่สวนจึงลงความเห็นว่า นายประจักษ์และผู้คัดค้านมิได้รู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน บุคคลทั้งสองมีอายุ ห่างกันมาก ไม่อยู่ในวิสัยที่จะหยอกล้อกันในเรื่องดังกล่าวก่อนวันเลือกสมาชิกวุฒิสภา จึงเชื่อว่า ผู้คัดค้านกระทําการอันทําให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62 ตามรายงานการไต่สวนและรายงานการไต่สวนเพิ่มเติม เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 300 ถึงหน้าที่ 309 และหน้าที่ 416 ถึงหน้าที่ 422 ต่อมาคณะกรรมการการเลือกตั้งมีคําตั้งมีคําสั่งให้ยื่นคําร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้คัดค้านตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62 ตามคําวินิจฉัยคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 114/2568 เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 466 ถึงหน้าที่ 468 เห็นว่า
@พยานยันพูดจริง “ป๋าเลือกผม ป๋าเลือกผม….เลากะให้ค่ารถป๋าห้าหมื่น”
ผู้ร้องมีนายประจักษ์มาเป็นพยานเบิกความ ประกอบบันทึกถอดเทปการสนทนาระหว่างผู้คัดค้านกับนายประจักษ์ เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 98 และหน้าที่ 99 โดยนายประจักษ์ยืนยันข้อเท็จจริงว่า ข้อความที่ผู้คัดค้านพูดว่า “ป๋าเลือกผม ป๋าเลือกผม แล้วก็ที่เลายื่นมาก็สิให้ประมาณนี้ละครับ ที่ผมเคยบอกป๋า” และ “เลากะให้ค่ารถป๋าห้าหมื่น ค่ารถป๋า ห้าหมื่น” ตามที่ปรากฏใน เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 98 และหน้าที่ 99 นั้น นายประจักษ์เข้าใจว่า ผู้คัดค้านประสงค์ให้นายประจักษ์ลงคะแนนเลือกผู้คัดค้านในการเลือกระดับจังหวัดโดยจะได้รับเงินค่าตอบแทน 50,000 บาท
นอกจากนี้ผู้ร้องยังมีนายณัฐชนน วิมล ซึ่งเป็นคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของผู้ร้องมาเป็นพยานเบิกความว่า ในวันแจ้งข้อกล่าวหาได้เปิดคลิปบันทึกเสียงการสนทนาให้ผู้คัดค้านฟัง ผู้คัดค้านยอมรับว่าเป็นเสียงของตนเอง ซึ่งคําเบิกความของนายณัฐชนนดังกล่าวสอดคล้องกับถ้อยคําที่ผู้คัดค้านให้ไว้ต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ตามบันทึกถ้อยคํา เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 150 และหน้าที่ 176 ต่อเนื่องหน้าที่ 177 โดยผู้คัดค้านให้ถ้อยคํายอมรับว่า บทสนทนาตามบันทึกถอดเทปการสนทนา เอกสารหมาย ร.1 หน้าที่ 98 และหน้าที่ 99 เป็นการ พูดคุยระหว่างผู้คัดค้านกับนายประจักษ์ จึงยิ่งทําให้น่าเชื่อว่า ข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่นายประจักษ์ เบิกความ
@ขออ้างแค่พูดหยอกล้อ คำกล่าวอ้างลอย ๆ ไร้น้ำหนัก
ส่วนที่ผู้คัดค้านให้ถ้อยคําต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนว่า เงิน 50,000 บาท ไม่ใช่ ของผู้คัดค้าน แต่เป็นของบุคคลอื่น และเป็นการพูดหยอกล้อมิได้จริงจัง รวมทั้งยื่นคําคัดค้านปฏิเสธว่าไม่ได้กระทําผิดตามข้อกล่าวหาในคําร้อง นั้น
เห็นว่า ผู้คัดค้านเป็นผู้หนึ่งที่สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หากผู้คัดค้านไม่ประสงค์จะให้เงินแก่นายประจักษ์เพื่อจูงใจให้นายประจักษ์ซึ่งสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาในกลุ่มเดียวกับผู้คัดค้านและมีสิทธิเลือกในระดับจังหวัดเช่นเดียวกัน กระทําการหรือไม่กระทําการใดที่เป็นคุณแก่ผู้คัดค้านแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลใดที่ผู้คัดค้านจะโทรศัพท์พูดคุย กับนายประจักษ์ซึ่งตนไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคยกันมาก่อน ในเรื่องที่เข้าข่ายเป็นความผิดต่อกฎหมาย
ที่ผู้คัดค้านอ้างว่า เป็นเพียงการพูดหยอกล้อกับนายประจักษ์จึงเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง ประกอบกับเมื่อพิจารณาถึงข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่า หลังเกิดเหตุนายประจักษ์ได้ไปแจ้งความดําเนินคดีแก่ผู้คัดค้าน อันเป็นการบ่งชี้อีกประการหนึ่งว่า สิ่งที่ผู้คัดค้านพูดกับนายประจักษ์มิใช่เป็นเรื่องของการพูดหยอกล้อตามที่ผู้คัดค้านกล่าวอ้าง และแม้ว่าเงิน 50,000 บาท ที่เสนอว่าจะให้แก่นายประจักษ์เพื่อจูงใจให้นายประจักษ์ลงคะแนนเลือกผู้คัดค้านจะมิใช่เงินของผู้คัดค้าน ก็ไม่เป็นเหตุให้การกระทําของผู้คัดค้านไม่เป็นความผิดแต่อย่างใด
@พยานหลักฐานมีน้ำหนัก เสนอเงินจูงใจผู้สมัครรายอื่นลงคะแนนให้ตนเอง
ตามพยานหลักฐานที่ผู้ร้องนํามาไต่สวนมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า ผู้คัดค้านเสนอจะให้เงินแก่นายประจักษ์ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกในระดับจังหวัดเพื่อจูงใจให้นายประจักษ์ลงคะแนนให้แก่ผู้คัดค้านโดยมิได้พิจารณาจากความรู้ความเชี่ยวชาญประสบการณ์ ๆ การทํางานหรือคุณสมบัติอื่น ๆ ของผู้สมัคร อันเป็นเหตุให้การคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภาไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ขัดต่อความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 การกระทําของผู้คัดค้านจึงเป็นการทุจริตในการเลือกอันทําให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภามิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม จึงให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 วรรคสาม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62
พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายวุฒิชัย ทองเถาว์ ผู้คัดค้าน เป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคําพิพากษา

ข่าวคดีรายอื่นก่อนหน้า:
- ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ‘ธานนท์’ ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอสิชล ต้องคดีค้ายา (1)
- ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.ศรีสะเกษ มีประวัติยักยอกทรัพย์ (2)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ10 ปีผู้ได้รับเลือก สว.อำเภอ จ.สระแก้ว มีประวัติทุจริตเลือกตั้ง (3)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.นราธิวาส มีประวัติลักทรัพย์ (4)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.มหาสารคาม มีประวัติเจ้ามือเล่นพนัน(5)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.ยะลา เคยเป็นผู้บริหารท้องถิ่น(6)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.สมุทรสาคร ถือหุ้นบมจ.อาร์เอส (7)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ ในจ.อ่างทอง ต้องคดีค้ายาเสพติด (8)
- ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ ในจ.ตราด ถูกจำคุกคดีเจ้ามือไพ่รัมมี่ (9)
- ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.นนทบุรี เคยจำคุกคดีหมิ่นประมาท (10)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับ จ.พัทลุง ถือหุ้นสื่อ อสมท (11)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ กําแพงเพชร มีประวัติเรียกรับทรัพย์สิน (12)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.เพชรบุรี ลงสมัครคราวเดียว‘ลูกสาว’ (13)
- ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.เพชรบุรี ลงสมัครคราวเดียว‘สามี’ (14)
- รายที่ 2! เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.เพชรบุรี สมัครคราวเดียว‘สามี’ (15)
- ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปีผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับอ.เมืองเพชรบูรณ์ สมัครคราวเดียวเมีย (16)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปีผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอเมืองสมุทรสงคราม ถือหุ้น บมจ.อาร์เอส
- หุ้นเดียวก็ไม่ได้! ฉบับเต็ม ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอ.เมืองสมุทรสงคราม ถือหุ้น‘อาร์เอส’ (17)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับ จ.อ่างทอง พ้นที่ปรึกษานายกอบจ.ไม่ถึง 5 ปี
- ฉบับเต็มคดี‘คอดียะฮ์’ผู้สมัคร สว.! ไขปม ‘ที่ปรึกษานายก อบจ.’ เป็นผู้บริหารท้องถิ่น (18)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับ อ.สามชุก พ้นรองนายกเทศฯไม่ถึง 5 ปี (19)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับ อ.บ้านแหลม พ้นรองนายกเทศฯไม่ถึง 5 ปี (20)
- คำพิพากษาฉบับเต็ม! เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี 2 ผู้สมัคร จ.ชลบุรี จับคู่ฮั้วลงคะแนนเลือก สว. (21)
- เพิกถอน 10 ปี ผู้สมัคร สว.ระดับ จ.สระบุรี โทร.ขอให้ถอนตัว/‘คุณนายจะเอาอะไรก็บอก’ (22)

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา