"..ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นภาพชัดขึ้นว่า “วงการสงฆ์” ในปัจจุบัน ถูกมองว่ามิใช่มีสถานะเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพียงอย่างเดียว แต่กลายเป็นเพียง “สัญลักษณ์” ของศาสนา เพื่อมีไว้ให้ครบองค์ประกอบ รับถวายปัจจัย งานบุญงานกุศลต่าง ๆ แฝงไปด้วยช่องทางทำมาหากินของ “บุคคลบางกลุ่ม” อีกด้วย..."
"...สภาพภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนแปลงไป นักข่าวจำนวนหนึ่งไม่แยกแยะ ระหว่างจริยธรรมของคนทำข่าว กับการทำหน้าที่ต่างตอบแทนให้นักการเมือง ขณะที่กอง บก.หรือผู้บริหารสำนักข่าวต้นสังกัด แม้รับรู้สถานการณ์ต่างก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ถ้าไม่เกิดเรื่องก็ไม่ว่าอะไรคิดแค่ว่าขอให้ได้ข่าวมาก็พอ..."
“...ผู้บริโภคไม่ได้มีอำนาจแค่การซื้อสินค้า แต่สามารถกำหนดทิศทางตลาดและวัฒนธรรมได้ โดยพลังอำนาจของเราสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมผ่านการซื้อ การแลกเปลี่ยนข้อมูล การแบน หรือบอยคอตสินค้า และการมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง...”
"...ผู้ตายพูดกับจําเลยว่า “ผมไม่ได้ท้าเฮีย กินกันเฉย ๆ” จําเลยตอบกลับว่า “กูเป็นกํานัน มึงไม่ต้องมาท้ากินหรอก ถึงกลับบ้านไปก่อนเถอะ มึงกับกูพี่น้องกัน กูไม่ อยากเสียความรู้สึก” เมื่อผู้ตายเดินกลับไปยังโต๊ะวีไอพี พยานยังคงนั่งยอง ๆ ใกล้จําเลย จําเลยพูดด้วยน้ำเสียงโมโหว่า “ปืนอยู่ไหนวะ” ซึ่งขณะนั้นมีนายสายัณต์นั่งอยู่ติด กับจําเลย..."
มท.1 -นายกฯลงนามคำสั่งห้ามออกใบอนุญาตพกปืนติดตัวชั่วคราว นับเวลา 1 ปีตั้งแต่ 14 ก.พ. ‘ไตรศุลี’ แจงเหตุคำสั่งห้ามมีที่มาจากกรณีผู้ลักลอบพกปืนโดยไม่มีเหตุเพียบหวั่นเป็นสาเหตุอาชญากรรม
"....การกระทำของคุณพ่อในอดีตที่ประทับในความทรงจำตลอดมาเป็นพลังและบทเรียนที่เราใช้อบรมกล่อมเกลาและให้ความเชื่อมั่นแก่ลูกหลานว่าถ้าเราทำสิ่งที่ถูกต้องโดยบริสุทธิ์ใจด้วยเจตนาที่เป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติไม่ใช่เพื่อประโยน์ส่วนตนไม่ใช่การกระทำที่ทุจริต เราจะได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายอย่างยุติธรรมเสมออย่างแน่นอน อำนาจเงินอำนาจบาตรใหญ่ ใดๆก็ไม่อาจลบล้างได้ วันนี้เราจะมองหน้าลูกได้อย่างไร..."
"...ผมไม่นึกว่าผลการพิพากษาจากศาลจะออกมาแบบนี้ เพราะรู้ดีตลอดมา ว่า ลูกสาวผมเป็นคนซื่อตรง มีความสุจริต และ ตั้งใจทุ่มเททำงานเพื่อส่วนรวมจึงทำให้ผมรู้สึกผิดในใจ ที่เคยเชียร์ให้เขาลาออกจากจุฬาฯ จากแวดวงวิชาการ ออกไปใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ไปทำงานสู่องค์กรอิสระ แต่เขาก็ตัดสินใจไปทำงานที่กสทช...."
"...เรื่องดังกล่าวมาผ่าน 19 ปี จนมาถึงในปี 2568 เกิดเหตุการณ์ ‘ทุนใหญ่’ ฟ้อง ‘นักวิชาการด้านสื่อ’ ซึ่งสวมหมวกเป็น กสทช. ถึงการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องผู้บริโภคอีกครั้ง แต่คราวนี้แตกต่างจากกรณีของ ‘สุภิญญา’ เมื่อศาลพิพากษาจำคุก ‘ดร.พิรงรอง’..."
"...การฟ้องปิดปากประชาชนและหน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและสาธารณะ เป็นการเล่นงานทางกฎหมายของรัฐและกลุ่มทุนอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงานขององค์กร กสทช. ต่อการทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของรัฐและประชาชนในที่สุด..."
"...เมื่อถามว่าคำสั่งกรมบังคับคดีจะมาเมื่อใด นายหิรัญตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มอ่อน "เราก็ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ ส่วนศาลก็ไม่ได้แจ้งว่ากรมบังคับคดีจะมาเมื่อไหร่" ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าถ้ารื้อบ้านแล้วนางโตจะไปอยู่ที่ไหน นายหิรัญตอบว่า "ก็ยังไม่รู้ ตอนนี้คือเรารอกรมบังคับคดีอย่างเดียว คือ รื้อแบบไหน สภาพแบบไหน รื้อทั้งหลังหรือรื้อให้พ้นเขตของเขา..."