‘อุดมชัย’รองนายก อบต.หนองอ้ม จ.อุบลฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ

ubon 10 07 1

ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘อุดมชัย บุญมารอง’ รองนายก อบต.หนองอ้ม อ.ทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ตอนข้ารับตำแหน่ง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอการลงโทษ 1 ปี ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้ง 3 ฉบับ เพิกเฉย ไม่ใส่ใจ

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 19 มิถุนายน 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาว่า นายอุดมชัย บุญมารอง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองอ้ม อำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายก อบต.หนองอ้ม ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี รายละเอียดดังนี้

@เปิดรายละเอียดคำพิพากษา

คำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.1/2568 คดีหมายเลขแดงที่ อม.25/2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 19 เดือน มิถุนายน พุทธศักราช 2568 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายอุดมชัย บุญมารอง ผู้ถูกกล่าวหา เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองอ้ม อำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา และให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167

ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ

@ไม่ยื่นตอนเข้ารับตำแหน่ง

พิเคราะห์คำร้องประกอบเอกสารท้ายคำร้อง คำให้การรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหา และสำนวนการไต่สวนของผู้ร้องแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาเข้ารับตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองอ้ม อำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2563 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งซึ่งต้องยื่นภายในวันที่ 3 มีนาคม 2563 คงยื่นเฉพาะกรณีพ้นจากตำแหน่ง ผู้ร้องมีหนังสือ 3 ฉบับแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าผู้ถูกกล่าวหายังไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องตามหน้าที่กรณีเข้ารับตำแหน่ง และให้ยื่นเอกสารดังกล่าวต่อผู้ร้องตามเวลาที่กำหนดในหนังสือ ผู้ถูกกล่าวหาได้รับหนังสือแล้วแต่เพิกเฉย ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 13 มีนาคม 2567 ผู้ถูกกล่าวหารับหนังสือแล้วแต่ไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา ผู้ร้องจึงมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหารับทราบ แต่ไม่ยื่นแก้ข้อกล่าวหา

@ ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้ง 3 ฉบับ กลับเพิกเฉย

ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนา ไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองอ้ม อำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี หรือไม่

เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองอ้ม จึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 และมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุ นิติภาวะต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และมาตรา 105 ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งหลังจากล่วงพ้นกำหนดแล้ว ผู้ร้องมีหนังสือถึง 3 ฉบับแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าผู้ถูกกล่าวหายังไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบกรณีเข้ารับตำแหน่งและให้ยื่นเอกสารดังกล่าวต่อผู้ร้อง เพื่อให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วนตามหน้าที่ ผู้ถูกกล่าวหากลับเพิกเฉย และเมื่อผู้ร้องแจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาและแก้ข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหายังคงเพิกเฉย แสดงให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ใส่ใจต่อหน้าที่อันต้องปฏิบัติในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน อันเป็นกฎเกณฑ์พื้นฐานสำคัญที่ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวทุกคนต้องรู้และตระหนักว่าเป็นหน้าที่ที่พึงต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และส่อเจตนาว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพด้วยแล้ว จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง ดังนี้แล้ว ผู้ถูกกล่าวหาต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และ มีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินตามมาตรา 167 ด้วย

@เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอการลงโทษ 1 ปี

พิพากษาว่า นายอุดมชัย บุญมารอง ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองอ้ม อำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไปตามมาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามมาตรา 167 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30.

ubon 10 07 2

ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่ ปี 2568

จำคุก 1 เดือน ‘วิลัยวัลย์’ รองนายก อบต.ด่านใน จ.นครราชสีมา ไม่ยื่นบัญชีฯ-ให้รอลงโทษ (26)
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน ‘สมชาติ’ส.อบจ.เพชรบุรี จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ ให้รอลงโทษ (25)
รองนายก อบต.โสกปลาดุก จ.ชัยภูมิ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ (24)
ศาลจำคุก 1 เดือน-รอลงโทษ พ.ต.อ.ปราชญ์ นายก ทต.แหลมงอบ จ.ตราด ยื่นบัญชีฯเท็จ (23)
คดีที่ 2! จำคุก 2 เดือน ‘สมเกียรติ’ ส.ส.กาญจนบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จกรณีเข้ารับตน.-ให้รอลงโทษ (22)
ศาลสั่งคุกจริง 1 เดือน ‘นพดล’ ส.อบจ.นครนายก ยื่นไม่ครบ/ยื่นบัญชีฯเท็จ-เคยต้องคดีเก่า (21)
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน ‘อภิชัย’ นายกทต.ขุนกระทิง จ.ชุมพร ไม่ยื่นบัญชีฯ-ให้รอลงโทษ (20)
จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ! ศาลสั่งจำคุก 1 เดือน รองนายก อบต.ขามเปี้ย จ.ร้อยเอ็ด – ให้รอลงโทษ (19)

ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2567 (เผยแพร่ 28 ม.ค.2567-12 ม.ค.2568)

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage

ศูนย์ข่าวสืบสวน

‘อุดมชัย’รองนายก อบต.หนองอ้ม จ.อุบลฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ