
“…ข้อเท็จจริงอันเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวของผู้ฟ้องคดี มาจากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมายคณะที่ 7) เรื่องเสร็จที่ 106/2541 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8029/2561 คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563….”
..................................
สืบเนื่องจากกรณีที่เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ,พรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ขจรเกียรติ รักพานิชมณี อธิบดีกรมที่ดิน ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เนื้อที่ 5,083 ไร่เศษ
โดยอธิบดีกรมที่ดิน ยืนยันว่าจะไม่ใช้อำนาจตามมาตรา 61 วรรค 8 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินรถไฟฯ ‘เขากระโดง’ และให้ดำเนินการตามมติของคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งมีมติ ‘ไม่เพิกถอน’ เอกสารสิทธิฯที่ออกทับที่ดินรถไฟฯบริเวณแยกเขากระโดง ไปแล้วก่อนหน้านี้
“อธิบดีกรมที่ดินคนก่อน (พรพจน์ เพ็ญพาส) ได้ตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เมื่อทำเสร็จแล้ว ก็ได้ยุติเรื่องไป รฟท. ในฐานะผู้อ้างสิทธิ์ในที่ดินฯ ก็อุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการสอบสวนฯ ดังกล่าว และอธิบดีกรมที่ดินได้ยกคำร้อง รฟท. จึงร้องไปที่กระทรวงมหาดไทย แต่มีการยกคำร้องอีก
รฟท. จึงไปยื่นศาลปกครองเมื่อ มี.ค.2568 ซึ่งตอนนี้กำลังรอกระบวนการนี้อยู่ และมีการแจ้งกรมที่ดินมาว่า ศาลฯรับพิจารณาคำร้องแล้วเมื่อเดือน มิ.ย.2568 ตอนนี้จึงอยู่ในช่วงการทำคำชี้แจงและส่งไปภายในวันที่ 10 ต.ค.นี้” ขจรเกียรติ กล่าว (อ่านประกอบ : ‘มหาดไทย’ รื้อใหม่กระบวนการ ‘เขากระโดง’ รอผลศาลปค.-รฟท.ฟ้องรายแปลงเท่านั้น)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงขอนำเสนอรายละเอียดคำฟ้องของ รฟท. (ผู้ฟ้องคดี) ที่ยื่นฟ้อง ‘กรมที่ดิน’ กับพวก รวม 3 ราย (กรมที่ดิน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ,อธิบดีกรมที่ดิน ผู้ถูกฟ้องที่ 2 และปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ต่อศาลปกครองกลางในคดีนี้
โดย รฟท. ขอให้ศาลฯมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง ‘เพิกถอน’ คำสั่งของกรมที่ดิน ที่มีคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินรถไฟฯ ‘เขากระโดง’ พร้อมทั้งขอให้ศาลฯมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ ‘กรมที่ดิน-อธิบดีกรมที่ดิน’ ร่วมกันเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกทับที่ดินรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดง 995 ฉบับอีกด้วย
ในตอนแรกนี้ สำนักข่าวอิศรา ขอนำเสนอรายละเอียดคำฟ้องของ รฟท. ในส่วนแรก ซึ่ง รฟท. ยืนยันว่า ที่ดินบริเวณแยกเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เป็นที่ดินของ รฟท. โดยมี ‘ข้อเท็จจริง’ ที่ยืนยันการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวของ รฟท. ได้แก่ ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา , คำพิพากษาศาลฎีกา ,คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ,มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคําพิพากษาศาลปกครองกลาง ดังนี้
@ยก‘ข้อเท็จจริง’ยัน‘รฟท.’เป็นเจ้าของ‘เขากระโดง’ 5 พันไร่
ข้อเท็จจริงและมูลเหตุการยื่นฟ้องคดี
ผู้ฟ้องคดี (รฟท.) เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินตั้งแต่ส่วนแยกจากสถานีรถไฟบุรีรัมย์ไปจนถึงเขากระโดง รวมระยะทาง 8 กิโลเมตร เนื้อที่รวมประมาณ 5,083 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลเสม็ด และตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นที่ดินที่กรมรถไฟหลวงสำรวจ และจัดซื้อตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสร้างทางรถไฟหลวงต่อจากนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี ลงประกาศวันที่ 9 พฤศจิกายน 2462
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟหลวงต่อจากนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี ประกาศวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2464 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินแลอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นเพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทรงพระกรณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟแผ่นดินจัดสร้าง ลงประกาศวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2464
ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็น “ที่ดินรถไฟ” ตามมาตรา 3 (2) แห่งพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟแลทางหลวง พระพุทธศักราช 2464 ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิของกรมรถไฟแผ่นดิน ตามมาตรา 25 และได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ที่ห้ามมีให้ประชาชนเข้ายึดถือหรือครอบครอง รวมทั้งโต้แย้งสิทธิใดๆ กับผู้ฟ้องคดี เว้นแต่จะได้มีประกาศหรือกฎหมายตามพระราชกระแสว่า ขาดจากการเป็นที่ดินรกไฟแล้ว
เมื่อที่ดินของกรมรถไฟโอนเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ฟ้องคดี (รฟท.) ตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ2494 ผู้ฟ้องคดี จึงเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าว
ข้อเท็จจริงอันเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวของผู้ฟ้องคดี มาจากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมายคณะที่ 7) เรื่องเสร็จที่ 106/2541 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8029/2561 คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องกล่าวหาเลขแดงที่ 14999054 และคําพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 ซึ่งมีสาระสำคัญ โดยสรุปดังนี้
(1) คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมายคณะที่ 7) เรื่องเสร็จที่ 106/2541 พิจารณาแล้วเห็นว่า
ที่ดินที่ราษฎรครอบครองบริเวณเขากระโดง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ภายในแนวเขตตามแผนที่ที่เจ้าหน้าที่กรมรถไฟแผ่นดินได้สำรวจ และจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการจัดซื้อที่ดินตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินแลอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น เพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟแผ่นดินจัดสร้าง ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน พระพุทธศักราช 2464
แต่ที่ดินในส่วนที่หารือนั้น มิได้ดำเนินการจัดซื้อ เพราะในแผนที่กำหนดไว้ว่า เป็นที่ป่ายังไม่มีเอกชนครอบครองทำประโยชน์
แม้ว่าพระราชกฤษฎีกากำหนดแนวเขตร์สร้างทางรถไฟหลวงฯ ได้กำหนดแนวเขตอย่างกว้างไว้สำหรับการสำรวจเพื่อสร้างทางรถไฟ และไม่มีผลเป็นการเวนคืนตามความเห็นของผู้แทนของกรมที่ดินก็ตาม
แต่เมื่อได้สำรวจเส้นทางที่แน่นอนและทราบจำนวนที่ดินที่จำเป็นต้องใช้แล้ว ก็จะมีการตราพระราชกฤษฎีกาจัดซื้อที่ดินจากเอกชน และยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟหลวงฯ เป็นตอนๆ ซึ่งแนวทางที่สำรวจแน่นอนแล้วนี้ ประกอบด้วย ที่ดินของเอกชนที่ต้องจัดซื้อตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟหลวงฯ และที่ดินรกร้างว่างเปล่าของรัฐ ที่ไม่จำเป็นต้องจัดซื้อ แต่มีสภาพเป็นที่ดินหวงห้ามไว้ใช้ในราชการ
การยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์ทางทางรถไฟหลวงฯ ย่อมหมายถึงการยกเลิกสงวนหวงห้ามที่ดินส่วนที่เป็นของเอกชน ในส่วนที่นอกเหนือจากแนวเขตที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาจัดซื้อที่ดินฯ เท่านั้น ไม่ใช่ยกเลิกการหวงห้ามทั้งหมด
เมื่อปรากฏว่าการสำรวจที่ดินเพื่อกำหนดแนวเขตที่ดินที่ใช้สร้างทางรถไฟ ในปี พ.ศ.2464 ได้ดำเนินการโดยครบถ้วน รวมทั้งกรมรถไฟแผ่นดินได้จัดทำแผนที่แสดงแนวเขตที่ดินของกรมรถไฟแผ่นดินไว้โดยชัดแจ้งแล้ว และโดยที่ที่ดินบริเวณที่หารือ ซึ่งเป็นที่ดินที่อยู่ในแนวเขตที่ดินของกรมรถไฟแผ่นดินในขณะนั้น มีสภาพเป็นป่าที่ยังไม่มีผู้ใดครอบครองทำประโยชน์
และเมื่อกรมรถไฟแผ่นดินได้เข้าใช้ประโยชน์ในที่ดิน เป็นแหล่งวัสดุสำหรับก่อสร้างทางรถไฟ จึงถือได้ว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการหวงห้ามที่ดินรกร่างว่างเปล่าไว้ใช้ในราชการตามกฎหมายแล้ว
ที่ดินนั้นจัดเข้าลักษณะเป็นที่ดินรถไฟตามมาตรา 3 (2) และได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟแลทางหลวง พระพุทธศักราช 2464 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แจ้งตอบข้อหารือดังกล่าวไปยังอธิบดีกรมที่ดินแล้ว ตามหนังสือที่ นร 0600/211 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2541
@‘ศาลฎีกา’วินิจฉัย‘เขากระโดง’ที่ดิน‘รฟท.’ครอบครองมากว่า 90 ปี
(2) คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2560 สรุปความได้ว่า
จากแผนที่แสดงเขตที่ดินของกรมรถไฟแผ่นดินสายนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี ตอนที่แยกออกจากเส้นทางแยกเขากระโดง ใช้เป็นเส้นทางลำเลียงหินหรือศิลาที่ย่อยในพื้นที่เขากระโดง เพื่อนำหินไปใช้ก่อสร้างในทางรถไฟสายหลักในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งทางรถไฟที่แยกออกอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 375+650 มีความยาวแยกออกไป 8 กิโลเมตร
การรถไฟแห่งประเทศไทยเข้าครอบครองถือกรรมสิทธิ์ในครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2462 ขณะนั้นประเทศไทยใช้ระบบการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ซึ่งที่ดินทั้งหมด รวมทั้งที่ดินในบริเวณพิพาทข้างต้นเป็นของพระมหากษัตริย์ (รัชกาลที่ 5)
การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เข้าครอบครองและใช้ประโยชน์ก่อนเกิดเหตุคดีนี้นานกว่า 90 ปี จึงเชื่อว่าที่ดินตามแผนที่ ซึ่งมีความยาว 8 กิโลเมตร และความกว้างตามที่ระบุในแผนที่ คิดเป็นพื้นที่ 5,083 ไร่ 80 ตารางวา เป็นที่ดินที่ข้าหลวงพิเศษ ซึ่งเคยได้รับแต่งตั้งตามพระระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟหลวงต่อจากนครรราชสีมา ถึง อุบลราชธานี ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน พระพุทธศักราช 2462
ดำเนินการสำรวจและวางแนวการก่อสร้างทางทางรถไฟ เพื่อเข้าไปลำเสียงหินที่บริเวณเขากระโดงและบ้านตะโก และดำเนินการจัดซื้อที่ดินในช่วง 4 กิโลเมตรแรก อันเป็นบริเวณที่มีเจ้าของรวม 18 ราย และเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินในช่วง 4 กิโลเมตรหลัง อันเป็นบริเวณที่ไม่มีเจ้าของ และเป็นแหล่งหินที่ใช้ในการก่อสร้างทางรถไฟ
เมื่อดูจากรายชื่อของเจ้าของที่ดินทั้ง 18 รายแล้ว ปรากฏว่ารายชื่อเจ้าของที่ดินทั้ง 18 ราย ที่ระบุในแผนที่ตรงกับรายชื่อเจ้าของที่ดินที่ลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วมือ รับเงินค่าทำขวัญในใบสำคัญแสดงรายละเอียดแห่งค่าทำขวัญสำหรับทรัพย์ทุกประเภท ที่กรมรถไฟแผ่นดินได้จัดซื้อใช้เพื่อประโยชน์รถไฟ ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2467
และการที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร์สร้างทางรถไฟหลวงฯ ระบุว่า ในช่วงเวลาสองปีที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟหลวงฯ ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าจับจองที่ดินซึ่งเป็นที่ว่างไม่มีเจ้าของ ย่อมเป็นการแสดงให้เห็นว่า ข้าหลวงพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
และกรมรถไฟแผ่นดินมีอำนาจกำหนดพื้นที่ ซึ่งเป็นที่ว่างเปล่าไม่มีเจ้าของเป็นที่หวงห้ามไว้เพื่อประโยชน์ในการก่อสร้างทางรถไฟได้ ข้าหลวงพิเศษและกรมรถไฟแผ่นดิน จึงมีอำนาจเข้ายึดถือถือที่ดินที่ไม่มีเจ้าของในช่วง 4 กิโลเมตรหลังถัดไปด้วย
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ที่ดินตามแผนที่แสดงเขตที่ดินของกรมรถไฟแผ่นดินสายนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี ตอนแยกที่ย่อยศิลาตำบลเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ กิโลเมตรที่ 375+650 เป็นส่วนหนึ่งของพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟต่อจากนครราชสีมา ถึง อุบลราชธานี ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน พระพุทธศักราช 2462
เมื่อกรมรถไฟแผ่นดินใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดยการก่อสร้างทางรถไฟเข้าไปลำเลียงหินที่บริเวณเขากระโดง และบ้านตะโก ทั้งยังใช้เป็นแหล่งวัสดุสำหรับการก่อสร้างทางรถไฟสายนครรราชสีมาถึงอุบลราชธานี ย่อมถือได้ว่าที่ดินตามแผนที่แสดงเขตที่ดินของกรมรถไฟแผ่นดินดังกล่าว เป็นที่ดินที่จัดหามาเพื่อใช้ในกิจการถไฟโดยชอบด้วยกฎหมาย
อยู่ในความหมายของคำว่า “ที่ดินรถไฟ” ตามมาตรา 3 (2) แห่งพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟแลทางหลวง พระพุทธศักราช 2464 ที่มีผลบังคันใช้อยู่ในเวลานั้น ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกรมรถไฟแผ่นดินตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว
(3) คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563 ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย โจทก์กับนายวิรัตน์ วงศ์พัฒน์ชัย ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน จำเลย ซึ่งคำพิพากษาระบุไว้ตอนหนึ่งว่า
“เห็นว่า ตามพระราชกฤษฎีกา เอกสารหมาย จ.9 ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟหลวงต่อจากนครราชสีมา ถึง อุบลราชธานี ฉบับลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2462 และลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2464 หมายถึงการยกเลิกการสงวนหวงห้ามที่ดิน จึงเป็นของเอกชนในส่วนนอกเขตแนวที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาจัดซื้อเท่านั้น มิใช่การยกเลิกการหวงห้ามทั้งหมด
และเมื่อกรมรถไฟแผ่นดินเข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยการก่อสร้างทางรถไฟเข้าไปลำเลียงหินที่บริเวณเขากระโดงและบ้านตะโก ทั้งยังใช้วัสดุสำหรับการก่อสร้างทางรถไฟสายนครราชสีมาถึงอุบลราชธานีด้วย ย่อมถือว่าที่ดินและที่ดินพิพาท ตามแผนที่กรมรถไฟแผ่นดินฯ เอกสารหมาย จ.7 เป็นส่วนหนึ่งของพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟหลวงต่อจากนครราชสีมา ถึง อุบลราชธานี ฉบับลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2462 เอกสารหมาย จ.4
อันเป็นที่ดินที่จัดหามาเพื่อใช้ในการสร้างทางรถไฟโดยชอนด้วยกฎหมาย ซึ่งอยู่ในความหมายของคำว่า ที่ดินรถไฟ ตามพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟแลทางหลาง พระพุทธศักราช 2464 มาตรา 3 (2) ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกรมรถไฟแผ่นดิน ตามมาตรา 25 และได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 6 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว”
@‘มติ ป.ป.ช.-ศาลปค.’ชี้ที่ดินเขากระโดง ‘รฟท.’เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
(4) มติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามรายงานการโต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องกล่าวหา เลขดำที่ 51910034 เรื่องกล่าวหาแดงที่ 14999054 ลงวันที่ 12 กันยายน 2554 โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีหนังสือ ลับ ที่ ปช 0018 ลงวันที่ 14 กันยายน 2554 แจ้งไปยังกรมที่ดินว่า
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว มีมติให้เพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 3466 และเลขที่ 8564 เนื่องจากออกทับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย และแจ้งให้กรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าวตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ไข้บังคับอยู่ในขณะนั้น
(5) คำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ฟ้องคดี กรมที่ดิน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และอธิบดีกรมที่ดิน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ซึ่งศาลปกครองกลางได้วินิจฉัยเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินของผู้ฟ้องคดีไว้ตอนหนึ่งว่า
“เมื่อคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 842-876/2560 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561 และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขดำ ที่ 111/2563 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563 ได้วินิจฉัยไว้อย่างชัดแจ้งว่า ที่ดินตามแผนที่แสดงเขตที่ดินของกรมรถไฟแผ่นดินสายนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี ตอนแยกที่ย่อยศิลา ตำบลเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ กิโลเมตรที่ 375+650 เป็นส่วนหนึ่งของพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟต่อจากนครราชสีมา ถึงอุบลราชธานี ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน พระพุทธศักราช 2462
เมื่อกรมรถไฟแผ่นดินใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดยการก่อสร้างทางรถไฟเข้าไปลำเลียงหินที่นที่บริเวณเขากระโดง จึงถือได้ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของผู้ฟ้องคดี
ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า ที่ดินบริเวณทางแยกเขากระโดง ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวังหวัดบุรีรัมย์ เป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของผู้ฟ้องคดี ที่ได้มาตามพระราชบัญญัติจัดวางการถไฟแลทางหลวง พระพุทธศักราช 2464 และถือเป็นที่ดินของรัฐประเภทหนึ่ง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงมีหน้าที่ในการคุ้มครองและป้องกันที่ดินบริเวณดังกล่าวตามที่กำหนดในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมที่ดินกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2557
ประกอบกับ เมื่อมีข้อเท็จจริงที่มีผลเกี่ยวเนื่องจากคำพิพากษาศาลฎีกาทั้งสองคดีดังกล่าวว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้มีคำสั่งกรมที่ดิน ที่ 2992/2564 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 แก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ข) เลขที่ 200 หมู่ที่ 4 (ปัจจุบันเป็นหมู่ที่ 13) ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ตามผลแห่งคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8029/2561
และสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ดำเนินการยกเลิกใบไม่ไต่สวนพร้อมจำหน่าย ส.ค.1 เลขที่ 209 หมู่ที่ 1 ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ออกจากทะเบียนการครอบครองที่ดินและยกเลิกเรื่องการขอออกโฉนดที่ดินจำนวน 40 ฉบับ ของประชาชนจำนวนสามสิบห้าราย ตามผลแห่งคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560
รวมทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ก็ได้มีคำพิพากษายืนตามตามคำพิพากษาศาลจังหวัดบุรีรัมย์ จังทวัดบุรีรัมย์ และเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 206 ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรัมย์ ซึ่งที่ดินทั้งหมดข้างต้นเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างว่าเป็นการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทับซ้อนที่ดินของผู้ฟ้องคดี
แม้ในคำพิพากษาของศาลฎีกาทั้งสองคดี และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 จะไม่ได้วินิจฉัยให้เพิกถอนที่ดินแปลงอื่นๆ นอกเหนือจากที่ปรากฏเป็นข้อพิพาทในคดีก็ตาม
แต่คำพิพากษาดังกล่าวก็ได้วินิจฉัยอย่างชัดแจ้งถึงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงสามารถใช้ยันกับบุคคลภายนอกได้ เว้นแต่บุคคลภายนอกนั้นจะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่า
อีกทั้งที่ดินบริเวณที่ศาลมีคำพิพากษากล่าวอ้างถึงมีฐานะเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งสามารถใช้จัดทำบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปได้ หาใช่มีผลผูกพันเฉพาะคู่ความในคดีตามมาตรา 145 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองกล่าวอ้างแต่อย่างใดไม่”
รายละเอียดความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา คำพิพากษาศาลฎีกา คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ปรากฏตามเอกสารท้ายท้ายคำฟ้องหมายเลข 7 ,8 , 9, 10 และ และ 11 (ตามลำดับ)
ทั้งนี้ ตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 ได้มีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทั้งนี้ ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดินให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด
โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา ให้ผู้ฟ้องคดีร่วมกับคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทำการตรวจสอบแนวแนวเรตที่ดินบริเวณเขากระโดง ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
เพื่อหาแนวแขตที่ดินที่เป็นของผู้ฟ้องคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 842-876/2560 และที่ 8027/2561 และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 3 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/1563 เพื่อให้คณะกรรมการสอบสวนจัดทำรายงานการสอบสวนให้แล้วเสร็จตามหลักเกณฑ์ วิธีการที่ประมวลกฎหมายที่ดิน กฎ และระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดต่อไป
เหล่านี้เป็นคำฟ้องของ รฟท. ในคดีเพิกถอนคำสั่ง ‘กรมที่ดิน’ ที่มีคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในที่ดินที่ออกทับที่ดินรถไฟฯ ‘แยกเขากระโดง’ โดย รฟท. ได้ยืนยันถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ได้แก่ ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ,คำพิพากษาศาลฎีกา ,คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ,มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคําพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่วินิจฉัยตรงกันว่า ที่ดิน ‘เขากระโดง’ 5,083 ไร่ เป็นที่ดินของ รฟท.!
อ่านประกอบ :
‘มหาดไทย’ รื้อใหม่กระบวนการ ‘เขากระโดง’ รอผลศาลปค.-รฟท.ฟ้องรายแปลงเท่านั้น
‘รฟท.’ โต้ ดีเอสไอ เปล่าเลื่อนแจ้งความ ‘เขากระโดง’ ชี้มีนัดให้การ 5 ก.ย. 68
‘ดีเอสไอ’เตือน‘รฟท.’ไม่แจ้งความ‘เขากระโดง’ละเว้นฯ เปิดสองมุม‘ภูมิธรรม-อนุทิน'
‘ภูมิธรรม’ เผย ไทม์ไลน์ เซ็นเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง สิ้นเดือนก.ย.นี้
พบอีก! ‘สุทัศน์’อนุกรรมการกม.‘รฟท.’ปี 63 เคยเป็นทนายให้‘ชาวบ้าน’35 ราย คดี‘เขากระโดง’
เซ็นเพิกถอนเขากระโดงส่อเลื่อน! อธิบดีกรมที่ดินเอ็นข้อหัวไหล่ฉีกขาด ส่งตัวผ่าตัดศิริราช
DSI ลงพื้นที่'บุรีรัมย์'พบนิติกรรมต้องสงสัยโฉนด‘เขากระโดง’หลายแปลง-ส่อพัฒนาเป็นคดีพิเศษ
ย้ำ‘รฟท.’เจ้าของ‘เขากระโดง’ แจ้งออก‘ส.ค.1’ยืนยันสิทธิฯ-โต้ปมแนวเขตที่ดินข้างละ 40 เมตร
'ภูมิธรรม' ส่งตัวแทนยื่นร้อง 'ทิวา' ทนายเขากระโดง แถลงข่าวใช้ถ้อยคำรุนเเรงโจมตีผิดมรรยาท
ไม่ขัดกม.-มรรยาทฯ! ‘ชนินทร์’แจงช่วงนั่ง‘ปธ.อนุฯกฎหมาย’รฟท. ไม่เกี่ยวข้องคดี'เขากระโดง'
ส่อขัด‘มรรยาท’! พบ‘ชนินทร์’ทนายคดี‘เขากระโดง’ เคยนั่ง‘ปธ.อนุกรรมการกม.’รฟท.
รฟท.แจ้งครอบครอง'เขากระโดง'ป้องกัน'บุกรุก' ก่อน'กฤษฎีกา'ชี้'ที่ดินรถไฟ'ไม่ต้องออก ส.ค.1
ยังรอ มท.เพิกถอนโฉนด! รฟท. ยกคำตัดสินศาลปค.ที่ดินทั้ง 5,083 ไร่เป็นของการรถไฟฯ
‘ภูมิธรรม’ ยัน ‘เขากระโดง-อัลไพน์’ มาตรฐานเดียว จับตาชงครม.ตั้ง ‘อธิบดีกรมที่ดิน’
DSI จ่อฟัน ‘อาญา-ฟอกเงิน’ บุกรุก ‘เขากระโดง’ - อ้าง รฟท. เจ้าของที่ดิน 5 พันไร่
‘กรมที่ดิน’ชี้ 3 แนวทางเพิกถอน‘โฉนด’ม.61 หลัง‘เดชอิศม์’ตั้ง‘กก.ตรวจสอบฯ’ปม‘เขากระโดง’
เปิดปฏิบัติการ‘คู่ขนาน’ทวงคืน‘เขากระโดง’ บี้ทบทวนคำสั่ง‘กรมที่ดิน’-ฟ้องขับไล่‘รายแปลง’
รฟท.อุทธรณ์ศาลปค. 2 ประเด็น ‘เขากระโดง’ แล้ว - จ่อส่งข้อมูลให้คกก.ชุด ‘ภูมิธรรม’
‘ภูมิธรรม’ สั่ง ‘อธิบดีที่ดิน’ แจงคดีเขากระโดงใน 7 วัน ยันทำไม่เว้นแม้แต่ ‘อัลไพน์’
ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัย‘ศาลปค.’ไม่รับฟ้องบางข้อหา-ตีตกปม‘รฟท.’ขอสั่งเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
ฟ้อง 4 ข้อหาไม่รับ 2!‘ศาลปค.’ตีตกคำขอ‘รฟท.’สั่ง‘กรมที่ดิน’เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’995 ฉบับ
‘ภูมิธรรม’เผยเตรียมเซ็นคำสั่งตั้ง คกก.ทบทวนพิพาท ‘เขากระโดง’
‘ภูมิธรรม’ โยนรมว.จริงมาทำ ‘เขากระโดง-อัลไพน์’ - ปัดคุยแต่งตั้งโยกย้าย
มีอิทธิพลในพื้นที่-บุคลากรไม่พอ! เปิดหนังสือ‘รฟท.’ขอ‘อสส.’ฟ้องถอนโฉนด‘เขากระโดง’
‘อนุทิน’ แจงเขากระโดง-อัลไพน์ ไม่เกี่ยวกัน นายกฯไม่เคยแทรกแซง
‘ประชาชน’ อัดรัฐบาลไม่จริงใจแก้ ‘อัลไพน์-เขากระโดง’ จับเป็นตัวประกันเจรจา กล่าวหาแรงหวังฮุบที่วัด
‘สร.รฟท.’บุก‘ปปป.’กล่าวโทษ‘อธิบดีกรมที่ดิน-คกก.สอบสวน’ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
รฟท.ร่างคำฟ้องยื่นศาลปค. ‘เขากระโดง’ชี้คำสั่งคกก.มาตรา 61 ไม่ชอบ
‘สุริยะ’ ยังไม่ตอบ ‘เขากระโดง’ จะฟ้องรายแปลงหรือไม่ - น้อมรับศาลไม่เพิ่มผู้บริหารแผน ‘บินไทย’
ฉบับเต็ม! เปิดหนังสือแจ้งผลอุทธรณ์ฯ ‘มท.’ชี้‘กรมที่ดิน’ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ชอบแล้ว
‘อนุทิน’ เผยผลอุทธรณ์ ‘เขากระโดง’ ยืนตามมติเดิม ไม่เพิกถอน
ชาวบ้าน 35 ราย กลับลำ เบรกเซ็นสัญญาเช่าที่ดิน‘เขากระโดง’อ้างแพง-‘รฟท.’เร่ง‘บังคับคดี’
‘กรมที่ดิน’โต้‘รฟท.’อ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของ‘เขากระโดง’ 5 พันไร่ ขยายความเกิน‘คำพิพากษา’
‘สุริยะ’ย้ำ‘เขากระโดง’ที่ดินรถไฟฯ พร้อมให้ชาวบ้านเช่าราคาถูก-‘อนุทิน’รอฟังคำสั่ง‘ศาลปค.’
เทียบชัดๆ! คำพิพากษา‘ศาลฎีกา’ VS ความเห็น‘คกก.สอบสวน’ ชี้แนวเขตที่ดินรถไฟฯ‘เขากระโดง’
เผือกร้อน‘สุริยะ-รฟท.’ฟ้อง‘ศาลยุติธรรม’เพิกถอนโฉนด‘รายแปลง’ ปิดฉากมหากาพย์‘เขากระโดง’!
‘สุริยะ-รฟท.’ รอผลอุทธรณ์กรมที่ดิน ‘เขากระโดง’ - ‘วีริศ’ชี้ต้องรอบคอบ หวั่นโดน 157
บังคับคดีแล้ว! โชว์เอกสาร‘ศุภวัฒน์’คืนที่ดิน‘เขากระโดง’ 24 ไร่-ชดใช้‘รฟท.’ 4.8 ล้าน
มท.1ชี้ออกสัญญาเช่า 'เขากระโดง' พิสูจน์สิทธิก่อน-'กรมที่ดิน'ย้ำรถไฟฯไม่มีแผนที่ท้าย'พ.ร.ฎ.'
ฉบับเต็ม!หนังสืออุทธรณ์‘รฟท.’(จบ) ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ละเลยต่อหน้าที่ ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
ฉบับเต็ม! หนังสืออุทธรณ์‘รฟท’(2) ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ใช้ดุลพินิจมิชอบ ไม่ถอนโฉนด‘เขากระโดง’
ฉบับเต็ม! หนังสืออุทธรณ์‘รฟท’(1) ที่ดิน‘เขากระโดง’เป็นของ‘รถไฟฯ’-ไม่ต้องพิสูจน์สิทธิ์อีก
'วีริศ' ส่งหนังสือถึง 'อธิบดีกรมที่ดิน' เพิกถอนมติคกก.สอบสวน 'เขากระโดง'
สอบเขากระโดงล่ม! กมธ.ที่ดินเผย องค์ประชุมไม่ครบก่อนขอมติ
‘เลขาฯกฤษฎีกา’ ชี้ต้องยึดคำพิพากษาเป็นหลัก ‘เขากระโดง’ ‘รฟท.-กรมที่ดิน’ แค่สื่อสารไม่ตรงกัน
‘กรมที่ดิน’ แจง ‘ที่ดินเขากระโดง’ ‘รถไฟ’ไร้เอกสารหลักฐานยืนยัน
‘รถไฟ’ ยื่นศาลปค.อธิบดีทำไม่ครบที่ดิน‘เขากระโดง’-‘อนุทิน’ยันไม่มีช่วยใคร
ย้อนคำวินิจฉัย'ศาลปค.' คดีถอนโฉนด'เขากระโดง'-ก่อน‘กรมที่ดิน’โยน‘รฟท.’ฟ้องขับไล่'รายแปลง'
ไม่ขัดแย้งคำพิพากษา!‘กรมที่ดิน’แจงไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’-แนะ‘รฟท.’ฟ้องขับไล่‘รายแปลง’
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจฯ จี้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง มาเป็นของ รฟท.
‘รฟท.’เร่งสรุปท่าทีทวงคืน‘เขากระโดง’-ข้องใจ‘คกก.สอบสวน’ไม่รับ‘แผนที่’ยกสู้คดีในศาลจนชนะ
ไม่เชื่อ'แผนที่'ตามคำพิพากษา! ฉบับเต็ม‘คกก.สอบสวน’ยก 4 เหตุผล ไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
โยน‘รฟท.’พิสูจน์สิทธิ์ในศาล! ‘คณะกรรมการสอบสวนฯ’มีมติไม่เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 5 พันไร่
‘สนง.ที่ดินบุรีรัมย์’ส่งหนังสือแจ้ง‘รฟท.’รังวัด‘เขากระโดง’เสร็จแล้ว-พร้อมแนบระวางแผนที่
รังวัดฯเสร็จแล้ว! ‘กรมที่ดิน’จ่อชงข้อมูล‘คณะกรรมการสอบสวน’ชี้ขาดเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
รฟท.ลงพื้นที่นำชี้แนวเขต'เขากระโดง'-'กรมที่ดิน'แจงกม.ขีดเส้นรังวัดฯให้เสร็จภายใน 50 วัน
ย้อนไทม์ไลน์ 1 ปี เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ไม่คืบหน้า-‘กรมที่ดิน’นัด'รฟท.'ชี้เขตรังวัดที่ดิน
8 เดือนไม่เพิกถอน! ‘กรมที่ดิน’รังวัดเขตที่ดินรถไฟ‘เขากระโดง’ใหม่-รฟท.ติดเรื่องค่าใช้จ่าย
เปิดหนังสือทนายตระกูล‘ชิดชอบ’ อ้าง 9 ข้อเท็จจริง ค้าน‘คกก.สอบสวน’เพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’
แผนที่เขตรถไฟฯมีพิรุธ! ทนายตระกูล‘ชิดชอบ’ยกต่อสู้ ปมถอนโฉนดเขากระโดง-ชี้ศก.บุรีรัมย์ชะงัก
ไม่เกี่ยวถอนโฉนดเขากระโดง!‘ชยาวุธ’เปิดใจลาออกอธิบดีที่ดินดูแลภรรยาป่วย
เปิดตำแหน่งโฉนด’ตระกูล‘ชิดชอบ’ทับที่รถไฟฯ‘เขากระโดง’-‘ฝ่าย กม.’แจงซื้อโดยสุจริต
จ่อโดนเพิกถอน! ชัดๆเปิด‘โฉนด-น.ส.3’ตระกูล’ชิดชอบ’ 20 แปลง 288 ไร่ ทับที่ดิน‘เขากระโดง’
ก่อน‘ชยาวุธ’ทิ้งเก้าอี้อธิบดี! พบ‘คกก.สอบสวน’แจ้งเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’รุกที่หลวง 2 แปลง
'อนุทิน'ปัดการเมืองกดดัน 'อธิบดีกรมที่ดิน'ยื่นลาออก อย่าโยงปมพิพาท‘เขากระโดง’
การบ้าน‘อนุทิน’นั่ง‘มท.1’! แก้โจทย์สายสีเขียว-เพิกถอนโฉนดเขากระโดง-ต่อสัญญาซื้อน้ำ‘กปภ.’
ลุยเพิกถอนโฉนด 5 พันไร่!‘กรมที่ดิน’ไม่อุทธรณ์คดี‘เขากระโดง’-แจ้งศาลฯตั้ง‘คกก.สอบสวน’แล้ว
‘รฟท.’ยื่นอุทธรณ์คดี‘เขากระโดง’ปมเรียกค่าเสียหาย 707 ล้าน-รอ‘ศาลปค.’แจ้งท่าที‘กรมที่ดิน’
เส้นตาย 30 เม.ย.! ‘รฟท.’จับตา‘กรมที่ดิน’ยื่นอุทธรณ์คดีเพิกถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 772 แปลง
ฉบับเต็ม! พลิกคำพิพากษา‘ศาล ปค.’สั่ง‘กรมที่ดิน ‘ตั้ง‘คกก.สอบสวน’ถอนโฉนด‘เขากระโดง’
‘ศาลปค.กลาง’สั่ง‘อธิบดีกรมที่ดิน’ตั้ง‘คกก.สอบสวน’ เพิกถอนโฉนดที่ดิน‘เขากระโดง’ 772 แปลง
ยันไม่ละเลยเพิกเฉย! ‘กรมที่ดิน’ลุ้น‘ศาลปค.กลาง’ตัดสินคดีถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 30 มี.ค.นี้
‘ศาลปค.’นัดตัดสินคดีถอนโฉนด‘เขากระโดง’ 30 มี.ค.นี้-‘ตุลาการฯ’ชี้‘กรมที่ดิน’ละเลยหน้าที่
'ศาลปค.'นั่งพิจารณานัดแรก คดี'รฟท.'ฟ้อง'กรมที่ดิน'ขอสั่งเพิกถอนโฉนด'เขากระโดง' 5 พันไร่
เปิด 2 คำร้อง! ยื่น ป.ป.ช. เอาผิด-สอบจริยธรรม‘ศักดิ์สยาม’ เอื้อเครือญาติยึด‘เขากระโดง’
ยื่น ป.ป.ช.ฟัน'ศักดิ์สยาม' 3 เรื่อง! 'ทวี'แนะปมเขากระโดง ส่งศาลฎีกาสอบจริยธรรมทันที
ข้อมูลใหม่! โฉนด 12 แปลง 179 ไร่ ออกทับที่ดินรถไฟ‘เขากระโดง’ โยงเครือญาติตระกูล‘ชิดชอบ’

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา