
เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม คดี‘สมเกียรติ วอนเพียร’อดีต สส.กาญจนบุรี จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ 30 รายการ 52.1 ล้าน กรณีพ้นตำแหน่งนายกเทศฯตําบลสำรอง อ้างเส้นเลือดในสมองแตกเป็นเหตุให้หลงลืม หมอเบิกความ-หลักฐานทางการแพทย์ชี้ชัดป่วยไม่รุนแรง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท รอลงทษ 1 ปี
กรณีวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่านายสมเกียรติ วอนเพียร นายกเทศมนตรีตำบลสำรอง อำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หรือ กำนันฉอย ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคพลังประชารัฐ ก่อนย้ายไปสังกัดสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และเป็นผู้สมัคร สส.กาญจนุบุรีในการเลือกตั้งปี 2566 จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการป.ป.ช.) ผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลสำรอง (วาระที่สอง) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จําคุก 4 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามที่ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานแล้ว (ข่าวเกี่ยวข้อง: ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 4 เดือน ‘สมเกียรติ’อดีต สส.กาญจนบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ-ให้รอลงโทษ 4 เดือน ‘สมเกียรติ’อดีต สส.กาญจนบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ-ให้รอลงโทษ )
มาดูคำพิพากษาฉบับเต็ม ที่มาที่ไป ข้อเท็จจริงแห่งคดี ทำไมข้อต่อสู้คดี อ้างเหตุไม่มีเจตนา ป่วย หลงลืม เชื่อถือไม่ได้
@เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม
คำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อม. 4 /2567 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 16/256
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 6 เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช 2568ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายสมเกียรติ วอนเพียร ผู้ถูกกล่าวหา เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ร้องยื่นคำร้องและแก้คำร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรง ตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสำรอง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่ง (วาระที่สอง) ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสำรอง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167
ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ
@ไม่ยื่นทรัพย์สิน 30 รายการ – มีหุ้น 4 รายการ
พิเคราะห์คำร้อง เอกสารประกอบคำร้อง และคำให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงที่ได้จากการพิจารณาได้ความว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสำรอง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี (วาระแรก) เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2553 และพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสำรอง (วาระที่สอง) และพ้นจากตำแหน่ง (วาระที่สอง) เนื่องจาก ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2562 ตามเอกสารหมาย ร. 10
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตำแหน่ง (วาระแรก) เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2554 กรณีพ้นจากตำแหน่ง (วาระแรก) ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 และกรณีเข้ารับตำแหน่ง (วาระที่สอง) ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สิน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 ตามเอกสารหมาย ร.11 ถึง ร.13
วันที่ 18 มีนาคม 2562 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่ง (วาระที่สอง) ตามเอกสารหมาย ร.14 รายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ระบุไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ดังกล่าว โดยไม่แสดงที่มาแห่งรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา รวม 30 รายการ ดังนี้
1. รายการเงินฝากธนาคารจำนวน 3 บัญชี ได้แก่
-
1.1 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาลูกแก บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 524-234642-4 ชื่อบัญชีนายสมเกียรติ วอนเพียร จำนวน 26,657.80 บาท ตามเอกสารหมาย ร.15
-
1.2 ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาท่าเรือ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 360-7-01298-0 ชื่อบัญชี นายสมเกียรติ วอนเพียร จำนวน 100,951.93 บาท ตามเอกสารหมาย ร.16
-
1.3 ธนาคารออมสิน สาขาท่ามะกา บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก Youth Saving เลขที่ บัญชี 02127782520 ชื่อบัญชี ด.ช.ฤทธิเกียรติ วอนเพียร (บุตร) จำนวน 107,354.55 บาท ตามเอกสารหมาย ร.17
2.รายการเงินลงทุน จำนวน 4 รายการ ได้แก่
-
2.1 เงินลงทุนบริษัทศรีเจริญสุข เอส โอ จำกัด ของผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 30,000 หุ้น มูลค่า 3,000,000 บาท ตามเอกสารหมาย ร.18
-
2.2 เงินลงทุนบริษัทศรีเจริญสุข เอส โอ จำกัด ของนางอ้อย วอนเพียร (คู่สมรส) จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่า 1,000,000 บาท ตามเอกสารหมาย ร.18
-
2.3 เงินลงทุนบริษัทศรีเจริญสุข เอส โอ คอนกรีต จำกัด ของผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 47,000 หุ้น มูลค่า 4,700,000 บาท ตามเอกสารหมาย ร.19
-
2.4 เงินลงทุนบริษัทศรีเจริญสุข เอส โอ คอนกรีต จำกัด ของนางอ้อย วอนเพียร (คู่สมรส) จำนวน 2,000 หุ้น มูลค่า 200,000 บาท ตามเอกสารหมาย ร.19
3. รายการที่ดิน จำนวน 3 แปลง ได้แก่
-
3.1 โฉนดที่ดินเลขที่ 12425 ตำบลพังตรุ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ราคา ประเมินจำนวน 1,212,882 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.20
-
3.2 โฉนดที่ดินเลขที่ 8289 ตำบลท่าตะคร้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ราคาประเมินตามค่าตอบแทนเพื่อการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน จำนวน 1,500,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.21
-
3.3 โฉนดที่ดินเลขที่ 15814 ตำบลวังขนาย อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ราคาประเมินจำนวน 601,250 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามเอกสารหมาย ร.22
4. รายการโรงเรือน จำนวน 9 หลัง ได้แก่
-
4.1 โรงเรือนเลขที่ 236 ซอยอยู่เจริญ 29 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ราคาประเมินตามที่แสดงในกรณีเข้ารับตำแหน่ง (วาระแรก) จำนวน 2,100,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.23
-
4.2 โรงเรือนเลขที่ 55 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าตะคร้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ราคาประเมินตามที่แสดงในกรณีเข้ารับตำแหน่ง (วาระที่สอง) จำนวน 5,000,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.24
-
4.3 โรงเรือนเลขที่ 91/36 หมูที่ 3 ตำบลท่าผา อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ราคาประเมินตามที่แสดงในกรณีเข้ารับตำแหน่ง (วาระแรก) จำนวน 600,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหา เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.25
-
4.4 โรงเรือนเลขที่ 59 ซอยโชคชัย 4 ซอย 14 ถนนโชคชัย 4 แขวงและเขต ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร (เดิมบ้านเลขที่ 15/303 หมู่ที่ 9) ราคาประเมินตามที่แสดงในกรณีเข้ารับตำแหน่ง (วาระแรก) จำนวน 1,650,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.26
-
4.5 โรงเรือนเลขที่ 69/1 หมู่ที่ 1 ตำบลพังตรุ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ราคาประเมินจำนวน 287,118 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.27
-
4.6 โรงเรือนเลขที่ 34 หมู่ที่ 1 ตำบลท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ราคาประเมิน จำนวน 254,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.28
-
4.7 โรงเรือนเลขที่ 55/5 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าตะคร้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัด กาญจนบุรี ราคาประเมินตามที่แสดงในกรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 เป็นเงินจำนวน 14,000,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.29
-
4.8 โรงเรือนเลขที่ 91/41 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าผา อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ราคาประเมินจำนวน 334,080 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.30
-
4.9 โรงเรือนเลขที่ 55/3 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าตะคร้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ราคาประเมินจำนวน 172,500 บาท นางอ้อย วอนเพียร (คู่สมรส) เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.31
5. รายการยานพาหนะ จำนวน 7 คัน ได้แก่
-
5.1 รถบรรทุกส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน 82-5536 กาญจนบุรี ราคาประเมิน 600,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.32
-
5.2 รถบรรทุกส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน 82-8639 กาญจนบุรี ราคาประเมิน 700,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.33
-
5.3 รถยนต์นั่งส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน ชฬ-2128 กรุงเทพมหานคร ราคาประเมิน 110,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.34
-
5.4 รถยนต์นั่งส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน 5 กท-9817 กรุงเทพมหานคร ราคาประเมิน 620,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.35
-
5.5 รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน ขงฉ-455 กาญจนบุรี ราคาประเมิน 7,000 บาท นางอ้อย วอนเพียร (คู่สมรส) เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.36
-
5.6 รถยนต์นั่งส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน กจ – 741 กาญจนบุรี ราคาประเมิน 110,000 บาท นางอ้อย วอนเพียร (คู่สมรส) เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.37
-
5.7 รถยนต์นั่งส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน กท - 4555 กาญจนบุรี ราคาประเมิน 326,000 บาท นางอ้อย วอนเพียร (คู่สมรส) เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามเอกสารหมาย ร.38
6. รายการเงินกู้จากธนาคาร จำนวน 1 บัญชี ได้แก่
-
6.1 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บัญชีเงินกู้เลขที่ 496-9049154-2 ชื่อผู้กู้นายสมเกียรติ วอนเพียร และนางอ้อย วอนเพียร จำนวน 7,846,361.95 บาท ตามเอกสาร หมาย ร.39
7. รายการหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำนวน 3 รายการ ได้แก่
-
7.1 หนี้เช่าซื้อรถยนต์จากธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ตามสัญญาเช่าซื้อเลขที่ 1700315870 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 จำนวน 174,176 บาท ของ ผู้ถูกกล่าวหา ตามเอกสารหมาย ร.40
-
7.2 หนี้เงินกู้ยืมจากนายฐิติวัฒน์ หลักแหลม จำนวน 3,850,000 บาท ของ ผู้ถูกกล่าวหา ตามเอกสารหมาย ร.41
-
7.3 หนี้เงินกู้ยืมจากนางสาวมณฑา ยูงศิริกาญจน์ จำนวน 1,000,000 บาท ของ ผู้ถูกกล่าวหา ตามเอกสารหมาย ร.42
@ ป.ป.ช.ชี้มูลฯยื่นบัญชีเท็จ-พยานหลักฐานเพียงพอ
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี มีหนังสือลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและขอเอกสารพยานหลักฐาน ตามเอกสารหมาย ร.43 ผู้ถูกกล่าวหามีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง ตามหนังสือลงวันที่ 8 และ 16 มิถุนายน 2566 ตามเอกสารหมาย ร.44 และ ร.45 ตามลำดับ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวหาว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง จงใจยื่นบัญชีรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน
ผู้ร้องจึงมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 27 มิถุนายน 2566 ตามเอกสารหมาย ร.46 ผู้ถูกกล่าวหารับทราบข้อกล่าวหาแล้วมีหนังสือลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ตามเอกสารหมาย ร.47 วันที่ 31 มกราคม 2567 ผู้ร้องมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น จึงยื่นคำร้องเพื่อดำเนินคดีแก่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นคดีนี้ ตามเอกสารหมาย ร. 48 ถึง ร. 50
@ตั้งประเด็นวินิจฉัย ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก เป็นเหตุให้หลงลืม รายการทรัพย์สินหรือไม่
ปัญหาแรกที่ต้องวินิจฉัยมีว่า การที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามที่ถูกกล่าวหา มิได้เกิดจากการจงใจแต่เป็นเพราะป่วยเนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก มีเลือดคั่งในสมองในช่วงระยะเวลาที่จัดทำบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สิน ทำให้สติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ หลงลืมหรือไม่
องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมาก เห็นว่า ตามใบรับรองแพทย์และเวชระเบียนของโรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทร์ เอกสารหมาย ค.1 นายแพทย์นวพรต ศิริโสมสกุลชัย แพทย์ผู้ตรวจรักษาผู้ถูกกล่าวหาลงความเห็นว่าผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง (บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยซึ่งมีภาวะเฉียบพลันไม่รุนแรง) ตามเกณฑ์การคัดแยก ผู้ป่วย (สีเขียว)
อีกทั้งผู้ถูกกล่าวหาก็เบิกความว่า ในช่วงระยะเวลาที่อ้างว่าป่วยดังกล่าวนั้น ผู้ถูกกล่าวหารู้ว่าตนมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงให้นางอ้อย วอนเพียร คู่สมรสช่วยจัดทำบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินแทนโดยมิได้แจ้งต่อผู้ร้องเพื่อขอขยายระยะเวลายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินออกไปก่อน และผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ลงลายมือชื่อในเอกสารแบบแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยตนเองทุกแผ่น
@ในชั้น ป.ป.ช.ไม่ได้ชี้แจงว่าป่วยตามที่ให้การต่อศาล
นอกจากนี้ หลังจากสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ผู้ถูกกล่าวหามีหนังสือชี้แจงข้อกล่าวหาฉบับลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 สรุปได้ว่า เหตุที่ไม่แสดงรายการดังกล่าวเพราะข้อมูลตกหล่น หลงลืม และบางรายการชี้แจงว่าขาดความรู้ความเข้าใจ โดยไม่ได้ชี้แจงว่าป่วยตามที่ให้การต่อศาล
ทั้งยังได้ความจากทางไต่สวนว่าหลังจากผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง (วาระที่สอง) ในเดือนมีนาคม 2562 ก็ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีก
ทั้งในเดือนเมษายนโดยเฉพาะช่วงการจัดงานวันสงกรานต์ ผู้ถูกกล่าวหายังได้ปรากฏตัวตามภาพถ่าย ในเฟสบุ๊ก เอกสารหมาย ร. 29 โดยมีผู้ไปร่วมงานที่บ้านของผู้ถูกกล่าวหาดังนี้
@ตอนออกหาเสียงเลือก สส. ไม่มีอาการป่วย
การที่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรคการเมืองในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ตลอดจนการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครรับเลือกตั้งซึ่งต้องมีการบริหารจัดการในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหาเสียงเลือกตั้งในหลายอำเภอในจังหวัดกาญจนบุรี การปรากฏตัวในการหาเสียงในที่สาธารณะ ย่อมแสดงว่าผู้ถูกกล่าวหามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีความพร้อมความสามารถ มีสติสัมปชัญญะในการ จัดการเกี่ยวกับการสมัครรับเลือกตั้ง และมีการดำเนินการหาเสียงจนได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
@คำเบิกความแพทย์มีน้ำหนัก-เลือดออกในสมองส่วนหลัง ไม่มีผลความทรงจำเสียหาย
ประกอบกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์วรวีร์ พยานผู้ถูกกล่าวหาก็เบิกความตามหลักวิชาการทางการแพทย์ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเลือดออกในสมองบริเวณสมองส่วนหลัง ซึ่งไม่ได้ทำให้ความทรงจำเสียหายหรือสูญหายไป เพราะสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำจะอยู่บริเวณสมองส่วนหน้า แต่จะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของสมองในการที่จะดึงหรือเรียกความทรงจำในปัจจุบัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของสมองบริเวณส่วนหลัง บริเวณที่มีเลือดออกในสมองจะมีผลทำให้มีการหลงลืมและมีความจำที่จำได้บ้างหรือจำไม่ได้บ้าง
พยานหลักฐานทางการแพทย์ของผู้ถูกกล่าวหาที่นำสืบมาดังกล่าวไม่มีข้อบ่งชี้ว่าผู้ถูกกล่าวหาป่วยจนถึงขั้นสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ และสมองในส่วนความจำมีปัญหาจนมีอาการหลงลืมดังวินิจฉัยมาแล้วข้างต้น พยานหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหาจึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่า อาการป่วยของผู้ถูกกล่าวหาส่งผลกระทบให้สติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์และหลงลืมจนทำให้ไม่อาจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินได้ถูกต้องตามความเป็นจริง ข้ออ้างของผู้ถูกกล่าวหาฟังไม่ขึ้น
@อาการป่วยไม่ส่งผลกระทบให้สติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์-หลงลืมจนถึงขั้นทำให้ไม่สามารถยื่นบัญชีฯได้
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยประการสุดท้ายมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นหรือไม่
องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมาก เห็นว่า เมื่อไม่อาจรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่าอาการป่วยดังกล่าวส่งผลกระทบให้สติสัมปชัญญะของผู้ถูกกล่าวหาไม่สมบูรณ์และหลงลืมจนถึงขั้นทำให้ไม่สามารถยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินได้ ผู้ถูกกล่าวหาในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบล สำรอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 ย่อมมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องเมื่อเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และมาตรา 105 ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตาม มาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ใช้อำนาจรัฐเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต
อีกทั้งผู้ถูกกล่าวหาก็เคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับหรือพ้นจากตำแหน่งมาแล้วหลายครั้ง ผู้ถูกกล่าวหาย่อมทราบดีถึงความมีอยู่ของทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าว ทรัพย์สินและหนี้สินตามคำร้องทั้ง 30 รายการ ดังกล่าว ล้วนมีหนังสือสำคัญหลักฐานทางทะเบียน และเอกสารหลักฐาน แสดงความเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองในนามของผู้ถูกกล่าวหาหรือคู่สมรสอย่างชัดแจ้ง สำหรับบัญชีเงินฝากธนาคารในนามของบุตรผู้เยาว์ก็อยู่ในความดูแลของผู้ถูกกล่าวหา และโดยวิสัยผู้เป็นเจ้าของหรือผู้มีสิทธิครอบครองย่อมต้องเก็บรักษาต้นฉบับหรือสำเนาเอกสารหลักฐานที่แสดงความ เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินนั้นไว้ในที่ซึ่งสามารถตรวจสอบและทราบข้อมูลเกี่ยวกับความ เป็นเจ้าของทรัพย์สินของตนและคู่สมรสทุกรายการตามคำร้องได้โดยง่ายจากหนังสือสำคัญ หลักฐานทางทะเบียน และเอกสารหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองดังกล่าว นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าวได้จากหน่วยงานราชการหรือสถาบันการเงินที่ เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นได้อีกด้วย
@พฤติการณ์รู้ถึงการมีอยู่ของทรัพย์สิน/หนี้สินทั้ง 30 รายการ แต่จงใจไม่แจ้ง
ในส่วนหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสได้ความว่ามีหลักฐานเป็นหนังสือทุกรายการ และยังมีภาระต้องผ่อนชำระหนี้ตามสัญญาอีกด้วย การที่บุตรของผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินบางรายการและเป็นผู้ผ่อนชำระหนี้หรือเสียภาษีต่อทะเบียนไม่น่าจะเป็นเหตุให้ผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสหลงลืมหรือไม่สามารถทราบถึงการมีอยู่ของทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวได้ดังที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้าง จึงไม่อาจรับฟังได้ ตามพฤติการณ์น่าเชื่อว่า ผู้ถูกกล่าวหาสามารถตรวจสอบและทราบถึงการมีอยู่ของทรัพย์สินและหนี้สินทุกรายการตามคำร้องจากเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับทรัพย์สินและหนี้สินดังวินิจฉัยข้างต้นได้
เมื่อพิจารณาทรัพย์สินที่ไม่แสดงขณะพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสำรอง (วาระที่สอง) มีจำนวน 26 รายการ มูลค่า รวม 39,319,794.28 บาท หนี้สินที่ไม่แสดง จำนวน 4 รายการ มูลค่ารวม 12,870,537,95 บาท รวมทรัพย์สินและหนี้สินที่ไม่แสดงรายการในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินทั้งสิ้น จำนวน 30 รายการ มูลค่า 52,190,332.23 บาท นับว่ามีจำนวนมากและมูลค่าสูง ตามพฤติการณ์เชื่อว่า ผู้ถูกกล่าวหารู้ถึงการมีอยู่ของทรัพย์สินและหนี้สินทั้ง 30 รายการ ตามคำร้องแต่จงใจไม่แสดง รายการทรัพย์สินและหนี้สินทุกรายการดังกล่าว การที่ผู้ถูกกล่าวหาเคยแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินบางรายการตามคำร้องในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินครั้งก่อนยังไม่อาจรับฟังว่าเป็น พฤติการณ์ที่แสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่มีเจตนากระทำความผิดครั้งนี้ และเมื่อผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ครบถ้วนถูกต้องทุกครั้งที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สิน กรณีจึงต้องพิจารณาพยานหลักฐานและพฤติการณ์ในการกระทำความผิดครั้งนี้เป็นสำคัญ ข้อต่อสู้ข้อนี้ของผู้ถูกกล่าวหาไม่อาจรับฟังได้เช่นกัน ข้ออ้างที่ว่าหลงลืมหรือขาดความรู้ความเข้าใจจน เป็นเหตุให้มิได้ยื่นแสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าวจึงไม่อาจรับฟังได้
@ข้ออ้างให้เมียเป็นนายก อบต.ท่าตะคร้อ จัดทำเอกสารขบัญชีแทนให้ต้องพ้นผิด รับฟังไม่ได้
ส่วนข้ออ้างของผู้ถูกกล่าวหาที่ว่า รายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินและหนี้สินที่ลงทะเบียนไว้ในชื่อของผู้ถูกกล่าวหาโดยตรง บุคคลทั่วไปสามารถตรวจสอบได้โดยง่าย ทั้งเคยได้ยื่นแสดงปรากฏไว้เป็นหลักฐานต่อผู้ร้องแล้ว หรือข้ออ้างที่ว่าตนได้มอบหมายให้นางอ้อย คู่สมรสดำเนินการจัดทำเอกสารและยื่นบัญชี ทรัพย์สินและหนี้สินแทน ก็มิใช่ข้ออ้างที่จะนำมาใช้ปฏิเสธความรับผิดของตนไปได้ โดยเฉพาะนางอ้อยซึ่งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตะคร้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี มาหลายสมัยตั้งแต่ก่อนปี 2562 ย่อมทราบดีว่าตนและผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินทั้งของตนและคู่สมรสให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ข้ออ้างดังกล่าวจึงไม่อาจรับฟังได้เช่นกัน
@จำนวนทรัพย์สินที่ไม่ยื่นมีมูลค่าสูง/ มากกว่า 40% ที่ยื่น ป.ป.ช. ต้องถือว่าจงใจปกปิด
เมื่อทรัพย์สินตามคำร้องมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณสี่สิบล้านบาทซึ่งเป็นมูลค่าสูงมาก คิดเป็นจำนวนมากกว่าร้อยละสี่สิบของทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสตามที่ปรากฏในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สิน จึงรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ผู้ถูกกล่าวหาจึง ต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม และการกระทำของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นกรณีพ้นจากตำแหน่ง นายกเทศมนตรีตำบลสำรอง (วาระที่สอง) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ด้วย
@ องค์คณะเสียงข้างมากเห็นควรจำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
พิพากษาว่า นายสมเกียรติ วอนเพียร ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสำรอง (วาระที่สอง) ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรค สาม กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นควรให้ลงโทษจำคุก 4 เดือน และปรับ 10,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30.


ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่ ปี 2568
- ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 4 เดือน ‘สมเกียรติ’อดีต สส.กาญจนบุรี ยื่นบัญชีฯเท็จ-ให้รอลงโทษ (18)
- ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ-ให้รอลงโทษ (17)
- ศาลฎีกา จำคุก 1 เดือน ‘ตรีวิเศษ’รองนายก อบจ.มหาสารคาม ไม่ยื่นบัญชีฯ-ให้รอลงโทษ (16)
- คุก 2 เดือน-รอลงโทษ! นายก อบต.เขากอบ จ.ตรัง ยื่นบัญชีฯเท็จ-ไม่แจ้งเงินให้กู้ยืม 58 ล.(15)
- จำคุก 2 เดือน-ให้รอลงโทษ! ส.อบจ.พิจิตร ยื่นบัญชีฯเท็จ-ใช้ลูกชาย‘นอมินี’ถือหุ้นรับเหมา (14)
- ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 2 เดือน ‘นาวิน’ ส.อบจ.อุบลฯ จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ – ให้รอลงโทษ (13)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน ‘พรชัย’ นายก อบจ.อุบลฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ นับโทษต่อ 2 คดีทุจริต (12)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน นายก อบต.ดงรัก จ.ศรีสะเกษ ไม่ยื่นบัญชีฯ-ให้รอลงโทษ (11)
- องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ฯแก้โทษให้รอลงอาญา 2 ปี รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ (10
- ศาลฎีกาฯพิพากษานายก อบต.สมสะอาด จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน –รอลงโทษ (9)
- ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก อบต.นาคำใหญ่ จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน-รอลงโทษ (8)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ รองนายก อบต.บางกุ้ง จ.ตรัง ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง (7)
- ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘อาแซ มาหะมะ’ นายกเทศฯ ต.ตอหลัง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ (6)
- ศาลฎีกาพิพากษา ‘อนุชิต’ สท.เมืองบึงยี่โถ จ.ปทุมฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ จําคุก 2 เดือน รอลงโทษ (5)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน นายก อบต.หนองแสงใหญ่ จ.อุบลฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(4)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน ‘ขนบ’ นายกอบต.โนนทัน จ.หนองบัวฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(3)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ‘สมพงษ์’รองนายก อบต.ดอนกลาง มหาสารคาม ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(2)
- ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน ‘ชัชวาลย์ ’รองนายก อบจ.ตาก ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ-รอลงโทษ(1)
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2567 (เผยแพร่ 28 ม.ค.2567-12 ม.ค.2568)
- สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สิน 35 นักการเมืองท้องถิ่นปี 2567
- สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่นปี 2567 มีความผิด 35 ราย คุกจริง 2 คน
- ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองฉาง จ.อุทัยฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายกทต.ธาตุพนม ยื่นบัญชีฯเท็จ
- จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ อ้างป่วย! ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายก อบจ.สมุทรสาคร-รอลงโทษ
- จำคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ ‘นันทนิตร’ สท.เมืองศิลา ขอนแก่น จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
- ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.ถ้ำ จ.พังงา ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
- ‘มะหมัดนีซัม บิลังโหลด’นายกเทศฯ ต.เจ๊ะบิลัง สตูล ยื่นบัญชีเท็จ จำคุก 1 ด.-รอลงโทษ
- ศาลพิพากษา ‘ทรงยศ’ รองนายกเทศฯ ต.นาชะอัง ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
- ‘บุญชัย สีนานันท์’รองนายก อบต.ดอนจิก จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
- เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม ‘ไพร พัฒโน’ นายกฯนครหาดใหญ่ ยื่นบัญชีฯเท็จจำคุก 1 เดือน
- ศาลฎีกาพิพากษา ‘ศิริชัย กุลาศรี’ ส.อบจ.มหาสารคาม ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน รอลงโทษ
- ให้พ้นตำแหน่ง ศาลฎีกาฯ จำคุก 2 เดือน! รองนายก อบต.คลองโคน ยื่นบัญชีเท็จ-รอลงโทษ
- ให้พ้นตำแหน่ง! รองนายก อบต.น้ำผุด จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 2 เดือน รอลงโทษ
- ศาลฎีกาให้รองนายกเทศฯ ต.แพรกษา พ้นตำแหน่ง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ
- คดีที่สอง!ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน นายก ทต.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
- ฉบับเต็ม!องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกคำร้อง รองนายก อบต.กันจุ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
- รองนายก อบต.หนองบัวใต้ หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จําคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ
- รองนายก อบต.เฉลียง จ.นครราชสีมา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์’รองนายก ทต.ท่าอุเทน ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษา‘สุรางค์ทิพย์’ส.อบจ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯ พิพากษา ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ซุกเงินฝาก ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายกเทศฯต.โคกล่าม จ.ร้อยเอ็ด ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายกเทศฯ ต.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
- พลิกคดีเก่า รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีเท็จ 5 ครั้ง ก่อนทำผิดซ้ำ คราวนี้คุกจริง 6 เดือน
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ
- ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
- ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
- จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
- ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
- ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
- ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
- คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
- ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
- ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
- ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา